ข้อเขียน นิยาย สารคดี บทกวี เรื่องสั้น >>
นิยาย-เรื่องสั้น
ความรู้สึก อารมณ์ เวลา แสนยานุภาพแห่งการรอคอย
เรื่องสั้นขนาดยาว นันทวิสาร :: เขียน
อ่านหน้า » | คำนำ | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36
หน้า 11
ในโลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่รอการรับรู้
มีความจริงมากมายที่รอให้ปวดใจ
ถึงแล้วหมอ
คุณพ่อของคุณอยู่ข้างในนั้นรีบไปเถอะ
นายแพทย์นพพรรีบลงจากรถเดินกึ่งวิ่งผ่านเนินหญ้าเข้าไปในกระท่อมไม้หลังนั้น
และเมื่อเขาผ่านเข้าประตูไป พระเจ้า...
ร่างของชายชราผมหงอกขาวโพนที่นอนซมอยู่บนเตียงนั่น... คือพ่อของเขานั่นเอง
นายแพทย์นพพรผวาเข้าไป
พ่อ พ่อ พ่อครับผมมาแล้ว
เปลือกตาที่สั่นระริกของชายชรา ค่อยๆแย้มเปิดขึ้นด้วยความยากลำบาก นายแพทย์นพพรรีบจับชีพจรของพ่อ โอ้พระเจ้า...เขารู้สึกเย็นสะท้านกลางแผ่นหลัง เขามาช้าไปชีพจรของชายชราเต้นช้าลง ช้าลงและกำลังจะหยุดเต้น ร่างของชายชราผู้เป็นพ่อซูบผอมจนแทบจะเหลือเพียงหนังที่ห่อหุ้มกระดูก เขารวบรวมกำลังเท่าที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิด บีบมือลูกชายแผ่วเบา... เขามีกำลังเหลือเพียงเท่านั้น ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงและมือของเขาก็หมดกำลังคลายออกช้าๆ
ระหว่างความเป็นกับความตาย หนาวเหน็บและเจ็บแปลบ
นายแพทย์นพพรร้องไห้คร่ำครวญซบหน้าลงบนร่างที่ไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อ
พ่อรอเขาอยู่ รอที่จะพบหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย
และรอจนวินาทีสุดท้ายบุญทองนั่งน้ำตารินไหลอาบแก้มอยู่ข้างๆปลายเท้าชายชรา
ผู้จากไป และซบหน้าลงตรงนั้น
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยืนที่ราวระเบียงหน้ากระท่อม
ด้วยใบหน้าที่ยังคงชุ่มโชกไปด้วยหยาดน้ำตา
ชีวิตเกิดมาพร้อมกับลมหายใจ
และจากไปพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายด้วยเช่นกัน
เขาจากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพียงสัมผัสสุดท้ายเท่านั้นที่แทนคำร่ำลา โอ้...พระเจ้า... เขาต้องการเพียงเพื่อจะพบลูกชายในวาระสุดท้ายของชีวิตเท่านั้นนะหรือ นายแพทย์นพพรกราบลงที่แทบเท้าร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อ แล้วลุกขึ้นตามหลังบุญทองออกไป สายตาของบุญทองมองตรงไปที่ปากทางเข้าไร่ และรำลึกถึงภาพในอดีตที่ไม่เคยลางเลือนไปจากความทรงจำ
จากอดีตสู่ปัจจุบัน จากมิติหนึ่งสู่มิติหนึ่ง
ความคิดคำนึง มโนภาพผ่านกำแพงกาลเวลา
"ถ้าการที่ได้ใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง คือคำว่าประสบความสำเร็จ ความพอเพียงคือความสุขแท้จริงที่จีรังยั่งยืนเป็นหมื่นปี หมื่นๆ ปี ทั้งยาจก นักปราชญ์ ราชบัณฑิต ยากดีมีจน สองมือว่างเปล่าถ้าไม่ไขว่คว้าไว้ ก็เกรงว่าจะทุรนทุรายตายเปล่าเป็นแน่นอน..."