ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>
ศิลปะเครื่องประดับแบบคัทสติล (Cut Steel)
การออกแบบเครื่องประดับแบบคัทสติล เป็นการออกแบบที่นิยมในช่วง คริสต์ศตวรรษที่
18 เทคนิคการเจียระไนโลหะนี้พบครั้งแรกที่ Woodstock
ประเทศอังกฤษในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่มาเป็นที่แพร่หลายในเมืองลอนดอน
เมืองเบอร์มิงแฮม เมืองวูลเวอร์แฮมตัน และเมืองซาลิสเบอร์รี่ ในช่วงยุค 1760
เครื่องประดับชนิดนี้เป็นสินค้าส่งออกของอังกฤษอย่างหนึ่งก่อนที่จะถึงช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติในประเทศฝรั่งเศส
ต่อจากนั้นจึงกลายเป็นเครื่องประดับที่แพร่หลายในยุโรปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงของการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่มีการนำเครื่องประดับมาตกแต่งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งชนชั้น
หรือระดับของสังคมของผู้สวมใส่
เพราะเป็นนโยบายมาตั้งแต่เกิดการปฏิวัติในประเทศฝรั่งเศสว่าทุกคนต้องเคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ของรัฐบาล
โดยออกกฎเกณฑ์ให้เครื่องประดับส่วนใหญ่มีรูปแบบตามรสนิยมของพวกขุนนางเป็นหลัก
จึงทำให้การออกแบบไม่เป็นที่หลากหลายมากนัก แต่ได้เกิดวิทยาการใหม่ๆ ในการผลิต
โดยเฉพาะการเจียระไนโลหะ เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองปารีส
จนกระทั่งปารีสได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าเพื่อประดับประเภทนี้
ผลทางด้านการออกแบบเครื่องประดับแบบคัทสติลนี้
เพื่อเน้นการเปล่งประกายให้ชัดเจนแสงเฉียบคม
สามารถทดแทนอัญมณีที่หายากมากขึ้นในคริสต์ศตวรรษนี้ได้เป็นอย่างดี
การเจียระไนโลหะจึงเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ได้ยาก
เนื่องจากการเจียระไนต้องเป็นผู้ที่ชำนาญทางด้านเจียระไนและใช้เครื่องจักรที่พิเศษ
มีการระมัดระวังในการผลิตเป็นอย่างดี
แต่ผลงานเครื่องประดับแบบคัทสติลนี้เป็นเครื่องประดับที่มีความคงทน
สวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นที่นิยมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18
เพราะสามารถเจียระไนได้ดีเหมือนกับการเจียระไนเพชรและมีประกายที่ผิวหน้า
ต่อมาได้เกิดมากาไซท์ (Marcastie) ทำมาจาก iron pyrties บางทีเรียกว่า Fools Gold
ซึ่งเป็นการเจียระไนโลหะให้เหมือนกับเจียระไนอัญมณีเพื่อสามารถฝังได้เหมือนกับการฝังอัญมณี
ทางด้านนักออกแบบเครื่องประดับแบบเจียระไนโลหะที่มีชื่อเสียงในช่วงนี้คือนาย
Matthew Boulton
เป็นนักออกแบบชาวอังกฤษที่นำการเจียระไนโลหะมาออกแบบเครื่องประดับหลายรูปแบบได้อย่างสวยงามในระบบอุตสาหกรรม
ซึ่งมีความเป็นมาดังนี้
นักออกแบบเครื่องประดับแบบคัทสติลชื่อ Matthew Boulton
Matthew
Boulton เกิดเมื่อปี ค.ศ.1728-1809 เดิมธุรกิจของบิดาคือ
โรงงานผลิตตุ๊กตาซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเบอร์มิงแฮม
ต่อมาเมื่อากรเจียระไนโลหะได้รับความนิยมมากจึงได้ทดลองผลิตเป็นเครื่องประดับ
ซึ่งได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนอกจากนี้โรงงานยังได้ผลิตเป็นมากาไซท์
มีการลงยา ต่อมากลายเป็นเครื่องประดับของชนชั้นสูงที่เข้าชุดกัน เช่น สร้อยคอ แหวน
กำไล ต่างหู แชทเทิลเลนประดับตกแต่ง เป็นต้น
ทำให้การเจียระไนโลหะเป็นกระบวนการผลิตเครื่องประดับที่สวยงาม ราคาแพงได้
ต่อมาได้เป็นเครื่องประดับสำหรับสุภาพบุรุษ
และสามารถผลิตเครื่องประดับประเภทนี้ให้กับนักออกแบบเครื่องประดับคนอื่นๆ ต่อไป
» ลักษณะการนำต้นแบบมาพัฒนาใหม่ หรือมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุดก่อนประวัติศาสตร์
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับอารยธรรมโบราณ
» ศิลปะเครื่องประดับอียิปต์ (Egypt)
» ยุค Middle Kingdom หรือยุคอาณาจักรกลาง
» ยุค New Kingdom หรือยุคอาณาจักรใหญ่
» ศิลปะเครื่องประดับเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia)
» ศิลปะเครื่องประดับมิโนอัน - ไมซีเน (Minoan - Mycenae)
» ศิลปะเครื่องประดับกรีก (Greek)
» ศิลปะเครื่องประดับอีทรัสกัน (Etrucan)
» ศิลปะเครื่องประดับเชลติก (Celtic)
» ศิลปะเครื่องประดับโรมัน (Rome)
» ศิลปะเครื่องประดับไบแซนไทน์ (Byzantine)
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุคประวัติศาสตร์
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงยุคกลาง
» ศิลปะเครื่องประดับโกธิค (Gothic)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยเรอนาซองค์ (Renaissance)
» ศิลปะเครื่องประดับแมนเนอริส (Mannerist)
» นักออกแบบเครื่องประดับ Benvenuto Cellini
» การออกแบบเครื่องประดับเชิงนามธรรม
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยอลิซาเบธที่ 1
» ศิลปะเครื่องประดับบาร็อค (Baroque)
» ศิลปะเครื่องประดับนีโอคลาสสิค
» ศิลปะเครื่องประดับคาเมโอ (Cameo)
» ศิลปะเครื่องประดับนโปเลียนกับโจเซฟิน (Napoleon & Josephine)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบคัทสติล (Cut Steel)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบแชทเทิลเลน (Chatelaines)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19
» ศิลปะเครื่องประดับอนุรักษ์นิยม
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fortunato Pio Castellani
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อนาย Carlo Giuliano
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Peter Carl Faberge
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Eugene Fontenay
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตนูโว (Art Nouveau)
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Rene Lalique
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Charles Lewis Tiffany
» ศิลปะเครื่องประดับวิคตอเรีย (Victoria)
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fulco di Verdura
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตเดโค (Art Deco)
» นักออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ McClelland Barclay
» บริษัทที่ออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ Trifari
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Coro
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Boucher
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Haskell
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Cartier
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Van Cleep & Arpels
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Daniel Swarovski
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Eisenberg
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Hobe
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Bulgari
» ศิลปะเครื่องประดับหลังสมัยใหม่
» ศิลปะเครื่องประดับมินิมอล (Minimalism)