ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>
ศิลปะเครื่องประดับอีทรัสกัน (Etrucan)
เป็นกลุ่มชนที่อยู่แถวบริเวณประเทศอิตาลี
มีฝีมือในการรบและการผลิตอาวุธที่มีคุณภาพสูง
จึงทำให้กลุ่มชนนี้มีความน่าเกรงขามทั้งๆ ที่เป็นกลุ่มชนที่มีขนาดเล็ก
มีลักษณะทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีพลัง
โดยมีเครื่องประดับจำนวนหลายชิ้นที่แสดงสีหน้า และแสดงถึงอารมณ์
เน้นความเป็นตัวของตัวเอง มีการเรียกเครื่องประดับที่มีลักษณะหน้ากากว่า phersu
ซึ่งเป็นใบหน้าของเทพเจ้าอะคีลุสหรือเทพเจ้าแห่งสายน้ำ
เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่งคั่ง ความหรูหรา
โดยเครื่องประดับของชาวอิทรัสกันเป็นโลหะทองคำ เป็นรูปทรงแบบปิด
มีแนวความคิดในการผลิตและออกแบบ 3 ประการร่วมกันคือ ความแตกต่างในการเชื่อมโลหะ
การขึ้นรูปทรงภายนอก และการทำผิวหน้าหรือมีพื้นผิวที่แตกต่างกัน
ทำให้เกิดผลทางความรู้สึกและเกิดแสงที่ตกกระทบมายังเครื่องประดับที่แตกต่างกัน
การผลิตเครื่องประดับของชาวอิทรัสกันมีกระบวนการตกแต่งที่เรียกว่า granulation
มีลักษณะของการทำทองคำให้เป็นเม็ดขนาดเล็กกลม มาประดับตกแต่ง
เป็นเทคนิคที่ชาวอิทรัสกันนิยมนำมาใช้
จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบเครื่องประดับได้
ทางด้านการร้อยเครื่องประดับของชาวอิทรัสกัน
ได้นำเอกลักษณ์ของตนเองมาผสมกับศิลปะหลายชนชาติ
เนื่องจากมีช่างฝีมือเทคนิคการทำเครื่องประดับที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดชนชาติหนึ่ง
โดยเฉพาะเทคนิค granulation ที่ชาวอิทรัสกันได้นิยมสร้างสรรค์ขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำทางการเรือและการค้า
เป็นผลให้ผลงานเครื่องประดับประเภทร้อยเกิดการผสมผสานร่วมกับรูปแบบอื่นๆ
รูปแบบการร้อยเครื่องประดับที่มีอิทธิพลของชาวอิทรัสกันอย่างชัดเจน ได้แก่
ชนชาติโฟนีเซีย ทหารเรือชาวโฟนีเซียเป็นกลุ่มที่ค้นพบการเดินทางทางตอนใต้ของแอฟริกา
ทั้งๆ ที่เป็นการสำรวจ แต่การทำการค้าหรือการทำมาหากินก็ยังคงเป็นพื้นฐาน
มีการปลูกพืชเพื่อไว้แลกเปลี่ยนกับทองแดงของชาวไซพิออตและทองคำของแอฟริกา
รวมทั้งหินมีค่า งาช้าง และสัตว์บางชนิด
ชาวโฟนีเซียได้ฝังสิ่งของไปพร้อมกับความตาย ฝังลงไปในหลุมฝังศพ
จึงได้พบเข็มกลัดแก้วและเครื่องประดับจำนวนหนึ่งที่หลุมฝังศพ
ส่วนชาวอิทรัสกันกำลังเข้าสู่ภายใต้จักรวรรดิของโรมัน
กิจกรรมทางการค้าจึงเป็นการค้าเหล็ก ทองแดง สังกะสี และตะกั่ว
ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการผลิตสิ่งของโลหะ
มีวัตถุดิบเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรูหราที่ทำด้วยทองคำ
โลหะเงินและงาช้างจากฝั่งตะวันออก ส่วนการทำการค้ากับเอเชียตะวันตกและกรีก
ทำให้ชาวอิทรัสกันได้ติดต่อและมีอิทธิพลในลำดับต่อมา
หลุมฝังศพของชาวอิทรัสกันจึงมีภาพวาดประกอบที่ชัดเจน จัดเป็นหลักฐานที่ดี
มีผลไปยังเครื่องประดับของชาวอิทรัสกันที่เป็นหนึ่งของสิ่งของโบราณของโลกในลำดับต่อมา
ลูกปัดของชาวอิทรัสกันเป็นที่รู้กันว่ามีเทคนิคที่สมบูรณ์แบบที่สุด เช่น
เทคนิคการติดอำพันกับทองคำที่ให้ความสวยงานกับเครื่องประดับชั้นสูง
ได้รับความพอใจเป็นอย่างมาก
» ลักษณะการนำต้นแบบมาพัฒนาใหม่ หรือมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุดก่อนประวัติศาสตร์
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับอารยธรรมโบราณ
» ศิลปะเครื่องประดับอียิปต์ (Egypt)
» ยุค Middle Kingdom หรือยุคอาณาจักรกลาง
» ยุค New Kingdom หรือยุคอาณาจักรใหญ่
» ศิลปะเครื่องประดับเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia)
» ศิลปะเครื่องประดับมิโนอัน - ไมซีเน (Minoan - Mycenae)
» ศิลปะเครื่องประดับกรีก (Greek)
» ศิลปะเครื่องประดับอีทรัสกัน (Etrucan)
» ศิลปะเครื่องประดับเชลติก (Celtic)
» ศิลปะเครื่องประดับโรมัน (Rome)
» ศิลปะเครื่องประดับไบแซนไทน์ (Byzantine)
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุคประวัติศาสตร์
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงยุคกลาง
» ศิลปะเครื่องประดับโกธิค (Gothic)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยเรอนาซองค์ (Renaissance)
» ศิลปะเครื่องประดับแมนเนอริส (Mannerist)
» นักออกแบบเครื่องประดับ Benvenuto Cellini
» การออกแบบเครื่องประดับเชิงนามธรรม
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยอลิซาเบธที่ 1
» ศิลปะเครื่องประดับบาร็อค (Baroque)
» ศิลปะเครื่องประดับนีโอคลาสสิค
» ศิลปะเครื่องประดับคาเมโอ (Cameo)
» ศิลปะเครื่องประดับนโปเลียนกับโจเซฟิน (Napoleon & Josephine)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบคัทสติล (Cut Steel)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบแชทเทิลเลน (Chatelaines)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19
» ศิลปะเครื่องประดับอนุรักษ์นิยม
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fortunato Pio Castellani
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อนาย Carlo Giuliano
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Peter Carl Faberge
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Eugene Fontenay
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตนูโว (Art Nouveau)
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Rene Lalique
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Charles Lewis Tiffany
» ศิลปะเครื่องประดับวิคตอเรีย (Victoria)
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fulco di Verdura
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตเดโค (Art Deco)
» นักออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ McClelland Barclay
» บริษัทที่ออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ Trifari
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Coro
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Boucher
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Haskell
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Cartier
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Van Cleep & Arpels
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Daniel Swarovski
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Eisenberg
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Hobe
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Bulgari
» ศิลปะเครื่องประดับหลังสมัยใหม่
» ศิลปะเครื่องประดับมินิมอล (Minimalism)