ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>
ศิลปะเครื่องประดับโรโคโค
ส่วนศิลปะเครื่องประดับแบบโรโคโคนั้น อยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18
มีลักษณะการออกแบบที่พัฒนามาจากศิลปะเครื่องประดับแบบบาร็อค
ยังคงเป็นรูปแบบที่แสดงถึงความฟุ้งเฟ้อ หรูหรา สวยงาม สมบูรณ์แบบที่สุดของธรรมชาติ
โดยเครื่องประดับทที่แสดงถึงความเป็นโรโคโคมากที่สุดอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งอยู่ในช่วงสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พระองค์เข้าพิธีราชาภิเษกเมื่อปี ค.ศ.1643
ทรงครองราชย์และประทับที่พระราชวังแวร์ซายน์มายาวนานถึง 72 ปี
พระองค์รักในงานศิลปะมาก จึงทำให้เป็นผู้อุปถัมภ์สารพัดช่างฝีมือ เหล่านักเขียน
และนักประพันธ์มากมาย เครื่องประดับอันวิจิตรมากมายมีเป็นจำนวนมากในยุคนี้
เนื่องจากหมู่ชนชั้นสูงมีฐานะร่ำรวยกันอย่างเต็มที่ มีการส่งเสริมเรื่องความรัก
กามารมณ์และรสนิยมเป็นอย่างมาก
ทำให้เหล่าพ่อค้าหาสินค้ามาปรนเปรอเหล่าชนชั้นสูงอย่างเต็มที่ เช่น
การค้าขายเครื่องประดับและอัญมณีโดยนาย Tavernier
ซึ่งกลับมาจากการเดินทางในประเทศอินเดีย ได้นำเพชรเจียระไนและไข่มุกกลับมา
มีราคาสูงมาก เนื่องจากเป็นอัญมณีมีค่าที่สวยงามและเริ่มหายาก
อัญมณีจากอินเดียมีคุณสมบัติครบถ้วน จึงเป็นที่ต้องการมาก
การค้าเครื่องประดับจึงรุ่งเรืองมาก
รวมทั้งรูปแบบการออกแบบได้แสดงการออกแบบที่แสดงถึงความมั่งคั่งอย่างเต็มที่
จึงมีการใช้อัญมณีในการออกแบบในปริมาณมากและมีขนาดใหญ่มาก
ดังนั้นการออกแบบเครื่องประดับแบบโรโคโคจึงมีแรงบันดาลในมาจากรูปทรงธรรมชาติเป็นหลัก
มีลักษณะเหมือนทรงเปลือกหอยมีการม้วนงอของดอกไม้และเถาใบของพืช
มักออกแบบเข้าด้วยกันโดยให้มีศูนย์กลาง
ถึงแม้ว่าศิลปะเครื่องประดับโรโคโคจัดเป็นแฟชั่นเครื่องประดับช่วงหนึ่งใน
คริสต์ศตวรรษที่ 18 ที่มีอายุไม่ยาวนัก
แต่เป็นแฟชั่นที่นิยมมากและเป็นเครื่องประดับที่มีเสน่ห์มากที่สุด
ผู้สะสมจึงมีการสะสมเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
» ลักษณะการนำต้นแบบมาพัฒนาใหม่ หรือมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุดก่อนประวัติศาสตร์
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับอารยธรรมโบราณ
» ศิลปะเครื่องประดับอียิปต์ (Egypt)
» ยุค Middle Kingdom หรือยุคอาณาจักรกลาง
» ยุค New Kingdom หรือยุคอาณาจักรใหญ่
» ศิลปะเครื่องประดับเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia)
» ศิลปะเครื่องประดับมิโนอัน - ไมซีเน (Minoan - Mycenae)
» ศิลปะเครื่องประดับกรีก (Greek)
» ศิลปะเครื่องประดับอีทรัสกัน (Etrucan)
» ศิลปะเครื่องประดับเชลติก (Celtic)
» ศิลปะเครื่องประดับโรมัน (Rome)
» ศิลปะเครื่องประดับไบแซนไทน์ (Byzantine)
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุคประวัติศาสตร์
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงยุคกลาง
» ศิลปะเครื่องประดับโกธิค (Gothic)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยเรอนาซองค์ (Renaissance)
» ศิลปะเครื่องประดับแมนเนอริส (Mannerist)
» นักออกแบบเครื่องประดับ Benvenuto Cellini
» การออกแบบเครื่องประดับเชิงนามธรรม
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยอลิซาเบธที่ 1
» ศิลปะเครื่องประดับบาร็อค (Baroque)
» ศิลปะเครื่องประดับนีโอคลาสสิค
» ศิลปะเครื่องประดับคาเมโอ (Cameo)
» ศิลปะเครื่องประดับนโปเลียนกับโจเซฟิน (Napoleon & Josephine)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบคัทสติล (Cut Steel)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบแชทเทิลเลน (Chatelaines)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19
» ศิลปะเครื่องประดับอนุรักษ์นิยม
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fortunato Pio Castellani
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อนาย Carlo Giuliano
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Peter Carl Faberge
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Eugene Fontenay
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตนูโว (Art Nouveau)
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Rene Lalique
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Charles Lewis Tiffany
» ศิลปะเครื่องประดับวิคตอเรีย (Victoria)
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fulco di Verdura
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตเดโค (Art Deco)
» นักออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ McClelland Barclay
» บริษัทที่ออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ Trifari
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Coro
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Boucher
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Haskell
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Cartier
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Van Cleep & Arpels
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Daniel Swarovski
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Eisenberg
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Hobe
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Bulgari
» ศิลปะเครื่องประดับหลังสมัยใหม่
» ศิลปะเครื่องประดับมินิมอล (Minimalism)