สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้
ความรู้เรื่องโรคไข้หวัดนก
มิสเตอร์ไข้หวัดนก
การแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก
เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ปัญหาการระบาดใหญ่ฯ
ระบาดวิทยาของไข้หวัดนกทั่วโลก
ระบาดวิทยาของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย
แนวทางการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก
และโรคติดต่ออุบัติใหม่อุบัติซ้ำ
การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในคน
ระบบการตรวจวิเคราะห์และเฝ้าระวังโรคทางห้องปฏิบัติการ
ลักษณะทางคลินิกและการวินิจฉัยโรคไข้หวัดนก
แนวทางการรักษาพยาบาลสำหรับโรคไข้หวัดนกและการติดตามผู้ป่วย
ข้อปฏิบัติสำหรับบุคลากรในการดูแลผู้ป่วยที่สงสัยเป็นโรคไข้หวัดนก
บทบาท อสม. และกระบวนวิธีการขับเคลื่อนแผนที่ยุทธศาสตร์ฯ
โครงสร้างการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกของกระทรวงฯ
แนวทางการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ในการป้องกันฯ ระดับจังหวัด
ถาม-ตอบ เรื่องไข้หวัดนก
ข้อปฏิบัติสำหรับบุคลากรในการดูแลผู้ป่วยที่สงสัย/เป็นโรคไข้หวัดนก/ไข้หวัดใหญ่
บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยนั้น ควรได้รับการเตรียมพร้อมดังต่อไปนี้
- ได้รับการอบรมความรู้ เรื่อง โรคไข้หวัดนก / ไข้หวัดใหญ่ มาแล้ว
- ได้รับการอบรม และฝึกปฏิบัติในเรื่อง Infection Control Practices มาแล้ว
- พิจารณาให้ได้รับ หรือมีภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ ขณะสถานการณ์การระบาดของโรคอยู่ในระยะเตือนภัยการระบาด ควรได้รับวัคซีนป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล ล่าสุด (Seasonal vaccine) ก่อนปฏิบัติงานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ขณะสถานการณ์การระบาดของโรคอยู่ในระยะการระบาดใหญ่ ควรพิจารณาวัคซีนสำหรับ บุคลากรที่ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดียวกับช่วงที่มีการระบาดใหญ่ เป็นผู้ที่เคยป่วยด้วย Influenza like illness (ILI) ในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ และหายเป็นปกติดีแล้ว
- (เฉพาะกรณีในช่วงการระบาดใหญ่) บุคลากรที่ยังไม่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และยังไม่เคยเป็นไข้หวัดใหญ่ในช่วงการระบาดใหญ่ ควรได้รับยาต้านไวรัสเป็น Chemoprophylaxis ตลอดระยะเวลาปฏิบัติงาน
- ห้ามบุคลากรที่มีลักษณะต่อไปนี้ปฏิบัติงานกับผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดนก /
ไข้หวัดใหญ่ และ ปฏิบัติงาน ใน ILI cohort area และ Influenza cohort area
ในระยะที่มีการระบาดใหญ่ ได้แก่
-ป่วยด้วยโรคระบบการเดินหายใจเฉียบพลัน และเรื้อรัง
-อายุมากกว่า 55 ปี
-ตั้งครรภ์
-มี Cardiovascular disease ได้แก่ Congenital valvular disease, Rheumatic valvular
-disease, Ischemic heart disease, Congestive heart failure
-Malignancy
-Renal failure
-มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้แก่ ป่วยเป็น HIV/AIDS, ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ในการดูแลผู้ป่วยที่สงสัย/เป็นโรคไข้หวัดนก/ไข้หวัดใหญ่นั้น อุปกรณ์หลักสำคัญในการป้องกันที่เน้นย้ำคือ Personal Protective Equipment (PPE) มีสาระสำคัญคือ
- PPE ประกอบด้วย mask (N95 หรือ Surgical), เสื้อกาวน์แขนยาวรัดข้อมือ, แว่นป้องกันตา (goggle) หรือ face shield, ถุงมือ (Gloves)
- มีการฝึกซ้อมในการใส่ , ถอด PPE อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการปนเปื้อน (รายละเอียดในข้อ. 8)
- Mask
บุคลากรสวม N95 mask / surgical mask เสมอเมื่ออยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 3 ฟุต หรืออยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วย หากใช้ N95 ต้องทำ fit test, fit check เสมอ โดยสามารถทำได้โดยสวม mask ให้แนบสนิทกับใบหน้า ทดลองหายใจเข้า-หายใจออก หากหน้ากากบุ๋มเข้าขณะหายใจเข้า และโป่งออกเมื่อหายใจออก แสดงว่าหน้ากากสวมได้สนิทดี หากขณะหายใจแล้วมีลมรั่วออก หรือหน้ากากไม่บุ๋ม/โป่ง ให้ปรับหน้ากากให้แนบสนิทกับใบหน้าใหม่แล้วทดสอบใหม่อีกครั้ง (พิจารณาใช้ N95 ตามความเสี่ยงของกิจกรรมที่อาจจะทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของสารคัดหลั่ง เช่น ใส่ท่อช่วยหายใจ ดูดเสมหะ พ่นยา เก็บสิ่งส่งตรวจจากทางเดินหายใจฯลฯ) - Mask ที่ใช้แล้ว ให้ทิ้งเป็นขยะติดเชื้อ, ไม่แนะนำการใช้ซ้ำ
- ผู้ป่วยสวม surgical mask เสมอโดยเฉพาะเมื่อมีอาการไอ, จาม หรือ อยู่ในห้องเดียวกับผู้อื่น หรืออยู่ในที่สาธารณะ
- ญาติ ผู้ดูแลผู้ป่วยควรสวม surgical mask หากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 3 ฟุต หรืออยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วย และแนะนำให้ญาติหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วยในระยะ 3 ฟุต โดยไม่จำเป็น
ถุงมือ (Gloves)
ในระยะ Pandemic
ถุงมืออาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในการดูแลผู้ป่วยตามปกติ แต่ให้ปฏิบัติ hand
hygiene
ก่อนและหลังสัมผัสผู้ป่วยยกเว้นกรณีที่บุคลากรมีบาดแผลบนมือต้องสวมถุงมือเสมอเมื่อต้องดูแลหรือสัมผัสผู้ป่วย
- สวมถุงมือเสมอ หากต้องสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง mucous membrane หรือ ผิวหนังที่มีแผลของผู้ป่วย
- ถอดถุงมือเมื่อหมดความจำเป็น เปลี่ยนถุงมือและล้างมือเมื่อจะไปดูแลผู้ป่วยอีกคนหนึ่ง
- ถุงมือไม่ควรใช้ซ้ำหรือล้าง เมื่อใช้แล้วให้ทิ้งเป็นขยะติดเชื้อ
- ล้างมือเสมอหลังถอดถุงมือ
กาวน์ผ้าแขนยาว
- ในระยะ Pandemic บุคลากรอาจไม่ต้องใช้กาวน์ในการดูแลผู้ป่วยทั่วไป
- สวมกาวน์ผ้าแขนยาว หากกิจกรรมที่ดูแลผู้ป่วยอาจมีการกระเด็นของเลือด หรือสาร คัดหลั่ง
- บุคลากรที่มีบาดแผลบนผิวหนังนอกร่มผ้าต้องปิดแผล (dry dressing) ตลอดเวลา
- หาก intact skin ของบุคลากร ถูกเลือด , body fluid , สารคัดหลั่งกระเด็นใส่ ต้องล้างทันที ด้วยน้ำ และ Chlorhexidine หรือ สบู่
- ถอดกาวน์ก่อนออกจากห้องผู้ป่วย
- ไม่แนะนำการใช้ซ้ำ
แว่นป้องกันตา (goggles) หรือ Face Shield
บุคลากรควรสวม goggles
หรือ face shield หากทำกิจกรรมที่อาจมีการกระเด็นของเลือด body fluid,
สารคัดหลั่งจากผู้ป่วย,aerosol producing procedures
หมวก
พิจารณาตามความจำเป็นของกิจกรรมที่ทำกับผู้ป่วย
ขั้นตอนการใส่และถอดเครื่องป้องกันร่างกาย
ขั้นตอนการใส่ PPE
- Mask ( ต้องทำ fit check เสมอ )
-
แว่นป้องกันตา ( goggles )
- หมวก
- เสื้อกาวน์แขนยาว
- ถุงมือ
ขั้นตอนการถอด PPE
- ถุงมือ
- หมวก
- แว่นป้องกันตา ( goggles )
- เสื้อกาวน์แขนยาว
- Mask
ทั้งนี้ควรทำความสะอาดมือในแต่ละขั้นตอนของการถอด PPE สำหรับการถอด Mask หากมี
Anteroom ให้ถอดใน Anteroom แต่ถ้าไม่มี ให้ออกมาถอด หน้าห้องผู้ป่วย
เจ้าหน้าที่จุดคัดกรอง/เจ้าหน้าที่เวชระเบียบ/เจ้าหน้าที่ห้องตรวจต่าง ๆ
ที่มีหน้าที่คัดกรอง
คัดกรองผู้ที่มีไข้และอาการระบบทางเดินหายใจและมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก
และหรือผู้ป่วยปอดบวมให้ส่งผู้ป่วยไปที่ห้องตรวจคัดกรอง ผู้ที่นำผู้ป่วยไปที่ห้อง
ต้องสวม mask N95 และให้ผู้ป่วยสวม surgical mask
โดยใช้เส้นทางที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น ต้องแจ้งพยาบาล /ICN
ประจำห้องตรวจคัดกรองก่อนนำผู้ป่วยไป
พยาบาล / พยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อประจำห้องตรวจคัดกรอง
- สวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ N95 mask, disposable gloves, เสื่อกาวน์ผ้าแขนยาวรัดข้อมือ
- ซักประวัติของผู้ป่วย
ประวัติ การสัมผัสสัตว์ปีก ป่วยตาย ในรอบ 7 วัน
ประวัติการอาศัยในบ้าน หรือหมู่บ้านที่มีสัตว์ปีกตายในรอบ 14 วัน
ประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นปอดบวมและสงสัยไข้หวัดนก/ไข้หวัดใหญ่ ในรอบ 10 วัน
ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ - วัดอุณหภูมิร่างกาย
- หากพบว่ามีอุณหภูมิ มากกว่า หรือเท่ากับ 38 องศาเซลเซียส และมีอาการของระบบทางเดินหายใจ หรือมีประวัติข้อใดข้อหนึ่งในข้อ 2 ให้สงสัยว่าอาจจะเป็นไข้หวัดนก ให้แจ้งแพทย์ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ตามตารางเวร กรณีมีเกณฑ์ไม่ครบ ให้ส่งผู้ป่วยไปห้องตรวจรักษาโรคตามแนวทางปฏิบัติปกติ
- ประสานงานด้านการสืบค้น เช่น เอกซเรย์ ห้องปฏิบัติการ ฯลฯ ตามแผนการรักษาของแทพย์
- เมื่อสิ้นสุดการตรวจดูแลผู้ป่วยถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, เสื้อกาวน์ผ้าแขนยาวรัดข้อมือ, mask ตามลำดับ อุปกรณ์ disposable ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อ อุปกรณ์ใช้แล้ว ส่งทำลายเชื้อ
- เน้นการปฏิบัติ hand hygiene
- กรณีที่แพทย์สั่ง admit ผู้ป่วยให้แจ้งพยาบาลหัวหน้าเวรประจำหอผู้ป่วย เพื่อรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลและแจ้งพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ ด้านเวชกรรมป้องกัน เพื่อรายงานต่อกระทรวงสาธารณสุข ตามขั้นตอนการรายงาน พร้อมทั้งแจ้งผู้บริหารโรงพยาบาล
แพทย์ประจำห้องตรวจคัดกรอง
- สวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ N 95 mask, disposable gloves, เสื้อกาวน์แขนยาวรัดข้อมือ, goggle หรือ face shield (ตามความเหมาะสม)
- ซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยที่สำคัญ ได้แก่ การสัมผัสโรคอาการและอาการแสดงของ Influenza like illness, respiratory manifestation
- ทำการสืบค้นตามที่เห็นเหมาะสม ได้แก่ chest X-ray ตรวจเลือดและ nasopharyngeal aspiration /swab
- สั่ง admit ผู้ป่วยโดยประสานงานกับพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อเพื่อรับไว้รักษาที่หอผู้ป่วย
- ตรวจรักษาผู้ป่วยที่ admit แล้ว รวมทั้งดูแลการป้องกันโรค การให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติ การจำหน่ายผู้ป่วย และการนัดติดตามหลังออกจากโรงพยาบาล
- เมื่อสิ้นสุดการตรวจดูแลผู้ป่วย ถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, face shield หรือ goggle, เสื้อกาวน์, mask ตามลำดับ อุปกรณ์ disposable ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อ อุปกรณ์ reused ส่งทำลายเชื้อ
- เน้นการปฏิบัติ hand hygiene
พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยใน
- ต้องดูแลสถานที่ทุกอย่างให้พร้อมใช้และเป็นไปแนวทางปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น
- กำหนดให้บุคลากรที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยให้มีจำนวนเท่าที่จำเป็น
- ตามแพทย์ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยทำการตรวจรักษา
- เคร่งครัดต่อแนวทางปฏิบัติ standard, droplet, contact และ airborne precautions โดยสวมเครื่องป้องกันร่างกายทุกครั้งที่ต้องให้การดูแลผู้ป่วย ได้แก่ N95 mask, disposable gloves, gown, ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, แว่นป้องกันตา, หมวกคลุมศีรษะ (ตามความจำเป็นและเหมาะสม)
- ถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, หมวกคลุมศีรษะ, แว่นป้องกันตา , ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, gown และ mask ตามลำดับ
- ล้างมือด้วย alcohol gel แต่หากสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยต้องล้างด้วยน้ำยาทำลายเชื้อ chlorhexidine
- อุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกชนิดที่ใช้กับผู้ป่วย เครื่องป้องกันร่างกายต่างๆ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ต้องทิ้งในถุงขยะติดเชื้อ
- ต้องจัดให้มีสมุดบันทึกการเข้าเยี่ยม โดยพยาบาลต้องให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมผู้ป่วย ทั้งที่เป็นบุคลากรและญาติของผู้ป่วย ลงสมุดการเข้าเยี่ยม ซึ่งมีรายละเอียด คือ ชื่อ สกุล หน่วยงาน
แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยใน
- ก่อนเข้าห้องผู้ป่วยเพื่อทำการตรวจร่างกายผู้ป่วยต้องสวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ N 95 mask, disposable gloves, gown, หมวกคลุมศีรษะ, แว่นป้องกันตาและ mask (ตามความจำเป็นและเหมาะสม)
- ให้การรักษาตามอาการและเหมาะสม
- ถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, หมวกคลุมศีรษะ, แว่นป้องกันตา gown, และ mask ตามลำดับ
- ล้างมือด้วย alcohol gel แต่หากสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยต้องล้างด้วยน้ำยาทำลายเชื้อ chlorhexidine
- เมื่อพบว่าผู้ป่วยได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการว่าเป็นไข้หวัด ให้พยาบาลประจำหอผู้ป่วยประสานงานทำหน้าที่ด้านป้องกันเพื่อประสานงานส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
- อุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกชนิดที่ใช้กับผู้ป่วย เครื่องป้องกันร่างกายต่างๆ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ต้องทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อ
ข้อปฏิบัติสำหรับการ X-ray และ เจ้าหน้าที่ X-ray
- ควรใช้ portable X-ray ทั้งที่ห้องตรวจและหอผู้ป่วยใน
- กรณีที่ไม่มี portable X-ray ให้นำผู้ป่วยมาที่ห้อง X-ray โดยดำเนินการดังนี้
- แจ้งเจ้าหน้าที่ห้อง X-ray ก่อนเพื่อจัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์, PPE
- เจ้าหน้าที่นำส่งผู้ป่วยปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของพนักงานเปลโดยใช้เส้นทางที่กำหนดไว้แล้ว - เจ้าหน้าที่ X-ray ที่เกี่ยวข้องในการถ่ายภาพรังสีให้ผู้ป่วย ควรมีจำนวนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
- ขณะทำการถ่ายภาพรังสีผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ต้องสวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ N95 mask, disposable gloves, เสื้อกาวน์ผ้าแขนยาวรัดข้อมือ
- แผ่นฟิล์มต้องห่อหุ้มพลาสติก เช่น ถุงมูลฝอยติดเชื้อ ก่อนวางแผ่นฟิล์มสัมผัสผู้ป่วย และเมื่อสิ้นสุดการถ่ายภาพรังสีถอดถุงมูลฝอยติดเชื้อทิ้งในภาชนะรองรับมูลฝอยติดเชื้อ
- เมื่อสิ้นสุดการตรวจดูแลผู้ป่วย ถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, เสื้อกาวน์ผ้าแขนยาวรัดข้อมือ, N95 mask ตามลำดับ อุปกรณ์ disposable ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อ อุปกรณ์ใช้แล้วส่งทำลายเชื้อ
- เน้นการปฏิบัติ hand hygiene
- อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้แล้วทุกชนิด ถือเป็นมูลฝอยติดเชื้อทั้งหมด ให้ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อและให้พนักงานเก็บรวบรวมถุงมูลฝอยติดเชื้อ โดยมัดปากถึงให้แน่น ทุกครั้งที่สิ้นสุดการใช้ห้องหรือเมื่อมีปริมาณมูลฝอยประมาณ ¾ ของถุงมูลฝอยติดเชื้อ (ปฏิบัติตามแนวทางการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อ)
ข้อปฏิบัติสำหรับพนักงานเปล
- สวมเครื่องป้องกันร่างกายตามข้อกำหนดใน standard precautions ได้แก่ N 95 mask, disposable gloves , กาวน์แขนยาวตามความเหมาะสมขณะเข็นเปลเพื่อส่งผู้ป่วยตรวจ/admit ที่หอผู้ป่วย
- แต่หากสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยต้องล้างด้วยน้ำยาทำลายเชื้อ chlorhexidine
- ผ้าทุกชนิดที่ใช้กับผู้ป่วย ให้ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อมัดปากถุงให้แน่น แล้วใส่ในถุงผ้านำส่งงานบริการผ้า (ปฏิบัติตามแนวทางการจัดการผ้าเปื้อน)
- หากมีสารคัดหลั่งของผู้ป่วยปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม เช่น เปล รถเข็น ให้พนักงานทำความสะอาดสวมเครื่องป้องกัน ได้แก่ N 95 mask, disposable gloves, กาวน์แขนยาวและผ้ากันเปื้อนพลาสติก เช็ดบริเวณที่เปื้อนด้วยกระดาษชำระออกให้มากที่สุด ทิ้งกระดาษชำระนั้นในถุงมูลฝอยติดเชื้อ แล้วราดบริเวณที่เปื้อนด้วยน้ำยา 0.5%hypochlorite นาน 30 นาที แล้วเช็ดถูตามปกติ (ปฏิบัติตามแนวทางการจัดการสารคัดหลั่งปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม)
ข้อปฏิบัติสำหรับบุคลากรงานบริการผ้า
- ให้ถือปฏิบัติตามแนวทางการจัดการผ้าเปื้อน ในเรื่อง ผ้าเปื้อนเชื้อโรค อย่างเคร่งครัด
- ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสถุงผ้าเปื้อน
- ขณะปฏิบัติงานสวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ N 95mask, disposable gloves , ผ้ากันเปื้อนพลาสติก
- หลังถอดถุงมือให้ล้างมือด้วย alcohol gel แต่หากสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยต้องล้างด้วยน้ำยาทำลายเชื้อ chlorhexidine
ข้อปฏิบัติสำหรับบุคลากรฝ่ายโภชนาการ
- สวมเครื่องป้องกัน ขณะปรุงหรือมีกิจกรรมเกี่ยวกับอาหารที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ปีก ได้แก่ surgical mask, disposable gloves, ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, หมวกคลุมศีรษะ
- ถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, หมวกคลุมศีรษะ,ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, mask ตาม ลำดับ
- ล้างมือทุกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจหลังการสัมผัสสัตว์ปีกที่ใช้ประกอบอาหาร และถุงภาชนะใส่อาหารของผู้ป่วยจากหอผู้ป่วย
- ให้ถือปฏิบัติตามแนวทางการบริหารจัดการดูแลภาชนะของผู้ป่วย อย่างเคร่งครัด
ข้อปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จัดการเกี่ยวกับศพ
- พยาบาลที่ทำหน้าที่จัดการตกแต่งศพต้องสวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ N 95 mask, disposable gloves, เสื้อคลุม, ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, แว่นป้องกันตา, หมวกคลุมศีรษะ (ตามความจำเป็นและเหมาะสม) และ ตกแต่งศพตามปกติ
- ห่อหุ้มศพด้วยผ้าพลาสติก 2 ชั้น และปิดผนึกด้วยแถบกาว
- ตามพนักงานเคลื่อนย้ายศพมาที่หอผู้ป่วย
- พนักงานเคลื่อนย้ายศพต้องสวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ surgical mask, disposable gloves, ผ้ากันเปื้อนพลาสติก ขณะทำการขนย้ายศพ
- เก็บศพในตู้เย็นแช่ศพ ใส่ศพในโลงที่ผนึกอย่างแน่นหนาก่อนเคลื่อนย้ายศพก่อนออกจากโรงพยาบาล
- ดำเนินการเผาหรือฝังศพโดยเร็ว
- หากมีการ autopsy จะต้องกระทำในห้อง negative air pressure และผู้กระทำต้องสวมเครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ mask N 95, disposable gloves, ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, แว่นป้องกันตา, หมวกคลุมศีรษะ
- เมื่อชันสูตรศพเสร็จ ถอดอุปกรณ์เครื่องป้องกันร่างกาย ได้แก่ disposable gloves, หมวกคลุมศีรษะ, แว่นป้องกันตา, ผ้ากันเปื้อนพลาสติก, gown, และ mask ตามลำดับ
- อุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้กับศพ และเครื่องป้องกันร่างกายต่างๆ ให้ถือเป็นมูลฝอยติดเชื้อทั้งหมด เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ต้องทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อมัดปากถุงให้แน่น (ปฏิบัติตามแนวทางการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อ) และทิ้งในภาชนะรองรับภายในห้อง
- ผ้าทุกชนิดที่ใช้กับศพ ให้ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อมัดปากถุงให้แน่น แล้วใส่ในถุงผ้าที่มีเครื่องหมายกาชาด ส่งงานบริการผ้า (ปฏิบัติตามแนวทางการจัดการผ้าเปื้อน)
- หากมีสารคัดหลั่งของผู้ป่วยปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม เช่น พื้น เตียงตรวจ ให้พนักงานทำความสะอาดสวมเครื่องป้องกัน ได้แก่ N 95 mask, rubber gloves ผ้ากันเปื้อนพลาสติก รองเท้าบู๊ต แล้วจึงเช็ดบริเวณที่เปื้อนด้วยกระดาษชำระออกให้มากที่สุด ทิ้งกระดาษชำระนั้นในถุงมูลฝอยติดเชื้อ แล้วราดบริเวณที่เปื้อนด้วยน้ำยา 0.5% hypochlorite นาน 30 นาที แล้วเช็ดถูตามปกติ (ปฏิบัติตามแนวทางการจัดการสารคัดหลั่งปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม)
กรณีต้องการ autopsy
- ต้องระวังมากถ้าผู้ป่วยเสียชีวิตในระยะติดต่อ เพราะในปอดอาจมีไวรัสอยู่
- ควรทำในห้อง negative pressure
- บุคลากรผู้เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็น สวมใส่ Full PPE ได้แก่ high efficiency mask, gloves, gown (กันน้ำ), goggles, หมวกคลุมผม
- ใช้อุปกรณ์เท่าที่จำเป็น ถ้าเป็นไปได้ ควรใช้อุปกรณ์ disposable
- หลีกเลี่ยงการใช้ มีด, กรรไกร ที่มีปลายแหลม
- การส่งเครื่องมือให้ใช้ถาดรองช่วย อย่าส่งตรงด้วยมือ
- เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงการทำให้เกิด aerosols โดยเฉพาะช่วงผ่าปอด
- หลีกเลี่ยงการใช้เลื่อยไฟฟ้า
- ทำหัตถการใต้น้ำ ถ้าคิดว่ามีโอกาสเกิดฝอยละออง
- หลีกเลี่ยงไม่ให้มีการกระเด็นของสารคัดหลั่งโดยเฉพาะตอนตรวจเนื้อปอด
- ปฏิบัติต่ออุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้กับศพ,เครื่องป้องกันร่างกาย , ผ้า , การเปรอะเปื้อนสิ่งแวดล้อมตามหลักการที่ใช้กับผู้ป่วย Infection Control ในกรณีการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล หรือจากโรงพยาบาลสนาม
- ผู้ป่วยใส่ surgical mask และ gown
- บุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องในการส่ง ใส่ PPE ซึ่งประกอบด้วย non sterile gloves, mask, long-sleeved cuffed gown (ควรมีเอี๊ยมพลาสติกคลุมทับหรือใช้ Apron แทน กาวน์ผ้าถ้าคาดว่าจะมีการกระเซ็นของเลือด, สารคัดหลั่ง), protective eyewear
- รถ ambulance ทำความสะอาดด้านในด้วย disinfectant เช่น 70% แอลกอฮอล์ แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง หากเปรอะเปื้อนเลือดหรือสารคัดหลั่ง ให้เช็ดออกให้มากที่สุดด้วยกระดาษทิชชู แล้วราดบริเวณนั้นด้วย 0.5% Sodium hypochlorite ทั้งไว้ 30 นาที แล้วเช็ดถูทำความสะอาดตามปกติ