ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง
พงศาวดารมอญพม่า
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21
เรื่องพระราชพงศาวดารพม่ามอญนี้ เดิมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่ง ขุนสมุทรโวหารในกรมพระอาลักษณ์ และขุนอักษรรามัญ
นายขำเปรียญ นายสุดเปรียญ นายจุ รวมสี่นาย
เป็นล่ามคัดแปลออกจากหนังสือรามัญใบลานเป็นภาษาสยาม เมื่อ จ.ศ.1219
แต่ท่อนปลายนั้นได้เรียงตามจดหมายเหตุ เมืองหงษาวดี เมืองอังวะ ต่อเข้าในท่อนต้น
เสร็จแล้วเจ้าพนักงานเก็บไว้ในหอหลวง ยังไม่ใคร่แพร่งพรายรู้เรื่องกันทั่วไป
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลอจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตีพิมพ์ ณ
โรงพิมพ์หลวงในพระบรมมหาราชวัง
สาระในพงศาวดารมอญพม่าเก็บความได้ดังนี้
จุลศักราชในปฐมปริเฉทได้ 522 สมเด็จพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้ตรัสแล้วแปดพรรษา เสด็จจาริกมาถึงเขาสุทัศนมรังสิต
ซึ่งบัดนี้เป็นที่ตั้งเมืองหงษาวดีในประเทศรามัญ
ครั้งนั้นประเทศที่จะเป็นที่ตั้งเมืองหงสาวดียังเป็นทะเลอยู่ แต่ภูเขาสุทัศนนั้น
เมื่อน้ำแห้งงวดไปจะผุดขึ้นสูงประมาณยี่สิบสามวา ดูแต่ไกลเหมือนพระเจดีย์
ครั้นน้ำเปี่ยมฝั่งพอกระเพื่อมน้ำอยู่ พวกรามัญจึงเรียกว่า สุทัศนบรรพต
ต่อมาไม้รกฟ้างอกขึ้นบนยอดเขาต้นหนึ่ง
เรียกว่าเขาสุทัศนมรังสิตผุดขึ้นมานานมาเปลี่ยนไปเรียกว่า มุตาวจนทุกวันนี้
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงประเทศที่จะตั้งเมืองหงสาวดีนั้น
ได้ทอดพระเนตรเห็นหงษ์ทองสองตัวลงเล่นน้ำอยู่ จึงทรงทำนายว่าสืบไปภายหน้า
ประเทศที่หงษ์ทองทั้งสองลงเล่นน้ำนั้น จะเป็นมหานครขึ้น ชื่อว่าเมืองหงษาวดี
และจะเป็นที่ตั้งพระธาตุสถูปเจดีย์ศรีมหาโพธิ
พระศาสนาคำสั่งสอนของเราจะรุ่งเรืองตั้งอยู่ในที่นี้
ครั้นพระพุทธเจ้านิพพานได้พันปี
หาดทรายที่ภูเขาสุทัศนมรังสิตนั้นได้ตื้นขึ้นมาได้สิบสามวา
มีเรือเภตราใหญ่ลำหนึ่ง แล่นข้ามมาแต่เมืองพิทยานคร จะไปค้าขาย ณ
เมืองสุวรรณภูมิ เมื่อแล่นมาถึงประเทศที่จะตั้งเมืองหงษาวดี
แขกพวกเรือได้เห็นหงษ์ทองสองตัว ก็พากันเชยชมหงษ์นั้น ครั้นกลับไปเมืองพิทยานคร
แขกนายเรือไปกราบทูลพระเจ้าบัณฑุราชา ๆ ทราบเหตุจึงตรัสถามอาจารย์ผู้หนึ่งชื่อ
อาทิตยภารทวาชะ เป็นผู้ฉลาดรู้ไตรเพทได้ทราบทูลถึงเรื่องในคัมภีร์จดหมายเหตุ
ถึงเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายไว้ ในตำราไตรเพทก็มีความว่าไว้อย่างนั้น
พระเจ้าบัณฑุราชาจึงตรัสว่า จำเราจะข้ามไปกำหนดจดหมายไว้ให้เป็นสำคัญ
นานไปภายหน้าจะได้เป็นอาณาเขตของเราสืบไป
แล้วให้เอาเสาศิลาท่อนหนึ่งให้จารึกอักษรศักราช ปีเดือน วันขึ้นแรมไว้ว่า
ประเทศนี้พระองค์ได้มาจองไว้ แล้วให้ห้มเสาศิลาไว้ด้วยแผ่นเหล็ก ให้อาทิตยภารทวาชะ
คุมพวกแขกลงเรือข้ามมาถึงประเทศดังกล่าว ไปดูชัยภูมิซึ่งจะเป็นที่ตั้งพระนคร
เห็นหาดทรายที่หงษ์ทองทั่งคู่ลงมาจับอยู่นั้นเหมาะสม
จึงให้ปักเสาศิลาลงในที่นั้นให้เป็นสำคัญ ล่วงไปได้อีกร้อยหกสิบปี
หาดทรายดังกล่าวตื้นดอนขึ้นเป็นแผ่นดิน
พระเจ้าบัณฑุราชองค์ต่อมาอีกสองชั่วพระองค์ได้ทราบว่าเสาศิลา
ซึ่งพระเจ้าปู่ให้ปักไว้นั้น จะมีผลประโยชน์อยู่
จึงให้อำมาตย์ผู้หนึ่งคุมพวกแขกเจ็ดสิบคนมาอยู่รักษา ล่วงไปอีกห้าสิบหกปี
ที่แห่งนั้นดอนขึ้น บางแห่งเป็นไร่นา บางแห่งเป็นป่ารนามรกชัฏอยู่
ครั้งนั้น ในเมืองอรินทรบุรี คือ เมืองภุกาม
พระเจ้าโกวะธรรมได้ครองราชย์ในเมืองสุธรรมวดี คือ เมืองสเทิม
พระเจ้าอรินธมราชได้ครองราชย์ ข้างทิศใต้ป่าเมาะตมะ มีเมืองหนึ่งชื่อเมืองรัมวดี
คือ เมืองร่างกุ้ง พระเจ้าแผ่นดินที่ครองราชย์มีเจ็ดองค์ ๆ เป็นคำรบเจ็ด ทรงพระนาม
พระเจ้าเสนะคงคา ในภูเขาแครงนาค มีฤาษีรูปหนึ่งชื่อโลมดาบศอาศัยอยู่
ยังมีนางนาคตัวหนึ่งแปลงเพศเป็นนางกุมารี
ขึ้นมาเที่ยวที่ภูเขาแครงนาคได้ร่วมสังวาสกับเพทยธรคนหนึ่ง
เป็นบุตรพระเจ้ากระลึงคราษฐ์ มีครรภ์ตกเป็นฟอง
โลมดาบศพบเข้าเก็บมารักษาไว้ครบสิบเดือน ฟองไข่แตกออกเป็นกุมารีรูปงาม
โลมดาบศจึงเลี้ยงไว้จนเจริญวัย พรานชาวเมืองริมวดีเห็นเข้า
ก็ไปทูลพระเจ้าเสนะคงคาให้ทราบ พระเจ้าเสนะคงคาให้อำมาตย์ไปขอต่อ
โลมดาบสมาเป็นอัครมเหสี พระนามวิมลาราชเทวี มีโอรสสององค์ชื่อ สมละกุมาร
และวิมลกุมาร เมื่อราชกุมารทั้งสองเจริญวัย
ต่อมาเมื่อทราบว่าพระอัครมเหสีเป็นชาตินาค ก็ถูกวางยาตายไป
คนทั้งหลายรู้ความเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่ยอมให้ราชกุมารทั้งสองอยู่ในพระนคร
นำไปมอบตัวให้แก่โลมดาบส
ราชกุมารทั้งสองจึงได้ไปถวายตัวทำราชการอยู่ในพระเจ้าอรินธม ณ เมืองสุธรรมวดี
นางภัทราราชกุมารี พระธิดาพระเจ้าอรินธมรักใคร่กับสะมลกุมาร
พระเจ้าอรินธมทราบก็ทรงโกรธ ตรัสสั่งจะให้จับราชกุมารทั้งสองประหารชีวิตเสีย
ราชกุมารทั้งสองหนีมาหาโลมฤาษี ๆ จึงแนะนำให้ไปอยู่ ณ ประเทศที่หงษาวดีมี
ราชกุมารทั้งสองจึงเกลี้ยกล่อมผู้คนได้ร้อยเจ็ดสิบคน เอาไม้ไผ่มัดเป็นแพ
แล้วข้ามไปยังประเทศหงษาวดี คนทั้งหลายที่อยู่บ้านชายป่า
รู้ว่าราชกุมารทั้งสองข้ามมา ตั้งอยู่ในที่นั้นก็พากันมาอยู่ด้วยได้ประมาณพันคนเศษ
ราชกุมารทั้งสองจึงปรึกษากันว่าพวกเราก็มากขึ้นแล้ว
จะสร้างพระนครอยู่ในประเทศที่ใดจึงจะดี