ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>

ประชุมพงศาวดาร

พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง

พงศาวดารมอญพม่า

1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21

หน้า 13 >>>

ว่าด้วยเมืองหงษาดีต่อไป

จ.ศ.1105 พวกกะเหรี่ยงร้อยห้าสิบคน ยกลงมาจากปลายแม่น้ำ เข้าปล้นเมืองหงษาวดีเวลากลางคืน พระเจ้าหงษาวดีหนีไปอยู่นอกเมือง กะเหรี่ยงได้เมืองไว้คืนหนึ่ง รุ่งขึ้นพระเจ้าหงษาวดีก็เข้าไปจับพวกกะเหรี่ยงฆ่าเสีย ในปีนั้นพวกเมืองมฤต เมืองตนาว ยกไปตีเมืองมรแมน คือ เมืองเมาะลำเลิง ไม่ได้เมือง ได้แต่ครอบครัวประมาณพันหนึ่งแล้วกลับไป

จ.ศ.1106 พระเจ้าหงษาวดี รับสั่งให้สมิงท้าวทองสุก สมิงท้าวธุก เป็นแม่ทัพ ยกไพร่พลสามพันขึ้นไปตีเมืองอังวะ ให้สมิงธอระเกณฑ์คนห้าร้อยไปตีเมืองปรอน สมิงธอราราย เกณฑ์คนเจ็ดร้อยไปตีเมืองตองอู พวกพม่าอ่อนน้อมถวายเครื่องราชบรรณาการยอมเป็นเมืองขึ้น และได้ลมาตอินท์เป็นพวก

จ.ศ.1106 พระเจ้าหงษาวดี ปรึกษากับมหาเสนาบดีว่า กรุงศรีอยุทธยาไม่เป็นไมตรีกับเราแล้ว จึงให้พวกเมืองมฤต เมืองตนาวมาตีเมืองเมาะลำเลิง จำจะทำไมตรีกับพระเจ้าหอคำเจ้าเมืองเชียงใหม่ จะได้เป็นกำลังสู้รบกับพม่า และจะให้ไปขอราชธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่มาตั้งเป็นพระมเหสี มหาเสนาบดีก็เห็นด้วย พระเจ้าหงษาวดี จึงจัดเครื่องราชบรรณาการ และพระราชสาส์นมอบให้ราชทูตไปเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าเชียงใหม่ยอมยกราชธิดาให้พระเจ้าหงษาวดี จึงตั้งให้เป็นพระอัครมเหสี เดือนหก พระเจ้าหงษาวดียกฉัตรยอดพระเจดีย์มุตาวขึ้นไว้เป็นปกติดังเก่า ต่อมาพระองค์หลงรักราชธิดาพระเจ้าเชียงใหม่ นักไม่เอื้อเฟื้อธิดามหาเสนาบดีอันเป็นพระมเหสีเดิม มหาเสนาบดีก็น้อยใจคิดทำร้ายพระองค์อยู่เป็นนิจ



จ.ศ.1109 มหาเสนาบดีคิดกับพวกกรมช้างเผือกอยู่ราวป่าแขวงเมืองกะเทิง พระเจ้าหงษาวดีจึงออกไป แขวงเมืองกะเทิงหลายครั้ง ให้สมิงนันทสุริยอยู่เฝ้าเมือง สมิงนันทสุริยคิดให้ผู้อื่นเป็นกษัตริย์ แต่ก็ไม่เหมาะสมจึงมีหนังสือลับไปถึงมหาเสนาบดีให้เข้ามาครองราชสมบัติเมืองหงษาวดี แล้วยกกองทัพตามไปจับสมิงธอกวย สมิงธอกวยจึงหนีไปหาพระเจ้าหอคำ ณ เมืองเชียงใหม่

จ.ศ.1109 สมิงธอกวยจะกลับมาตีเมืองหงษาวดี ได้ขอกองทัพเมืองเชียงใหม่สมทบกับพวกรามัญ มหาเสนาบดีจึงเกณฑ์ทัพรามัญให้ยกไปอยู่ตำบลบ้านเจ้ากิ อันเป็นปากทางจะไปเมืองเชียงใหม่ ให้คอยกั้นกองทัพสมิงธอกวย อย่าให้ตีออกทางนั้นได้ สมิงธอกวยสู้ไม่ได้แตกหนีจะกลับไปเมืองเชียงใหม่ พอรู้ว่ามีกองทัพตั้งสกัดอยู่จึงหนีมาอาศัยอยู่ริมตำบลแม่กลอง แม่จาน อันเป็นปลายแดนเมืองกาญจนบุรี มหาเสนาบดีได้เป็นพระเจ้าหงษาวดีใหม่ จึงมีรับสั่งให้กองทัพสองพวกที่พระเจ้าหงษาวดีองค์ก่อนใช้ไปรบพวกพม่านั้นคืนกลับมา แต่กองทัพทั้งสองไปค้างอยู่เมืองมาตะรา จะกลับไม่ทันด้วยทางไกลนัก เมื่อปี จ.ศ.1108 พระเจ้าหงษาวดีตั้งนายธอกองผู้เป็นอนุชาเป็นที่พระอุปราช แล้วมีรับสั่งให้เกณฑ์ไพร่พลหมื่นหนึ่งไปตีเมืองปรอนให้สมิงนันทสุริย เกณฑ์ไพร่พลหมื่นหนึ่งไปตีเมืองตองอู กองทัพพม่าสู้ไม่ได้ถอยไปเมืองอังวะ

สมิงท้าวทองสุก กับสมิงท้าวธุก แม่ทัพสองคนที่ค้างอยู่ในเมืองมาตะรานั้น ไม่รู้ว่าเมืองหงษาวดีเปลี่ยนพระเจ้าแผ่นดินใหม่ จึงปรึกษากันว่า เมืองมาตะราเป็นเมืองน้อย จะป้องกันรักษาไว้ก็ยาก จำจะอพยพไปอยู่เมืองหงษาวดีจึงจะมีกำลังมาก ลมาตอินท์จึงแต่งศุภอักษร จัดดอกไม้เงินทองมอบให้สมิงท้าวทองสุก กับสมิงท้าวธุก ไปถวายพระเจ้าหงษาวดี กองทัพทั้งสองอพยพครอบครัวรามัญลงมา มีมหาราชาตั้งค่ายอยู่นอกเมืองปรอนรู้ข่าวจึงไล่ติดตามมารบ กองทัพรามัญเมืองหงษาวดีที่รักษาเมืองปรอน และเมืองตองอูไว้ก็ตีกระหนาบขึ้นไป กองทัพมังมหาราชาก็แตกไป เมื่อทั้งสองคนได้เฝ้าพระเจ้าหงษาวดี ๆ ก็ยินดีนัก ตรัสสั่งให้ทั้งสองคนถือน้ำพระพิพัฒ พระราชทานรางวัลและเครื่องยศแม่ทัพแก่คนทั้งสอง และเมื่อทราบในศุภอักษรชาวเมืองมาตะรา จะถวายตัวเป็นข้าแผ่นดินก็ยินดีนัก

อ่านต่อ หน้า 14 >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย