ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง
พงศาวดารเขมร
หน้า >> 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18
หน้า 9 >>>
เจ้าเวียดนามตรัสใช้องโดยจีนเป็นเบาฮอมาอยู่ประจำรักษาพระบาทบรมบพิตร จ.ศ.1134
พระบาทบรมบพิตรไปอยู่แพรกปักปวัด (ว่าคลองบางเชือกหนัง) ใช้พระองค์นักด้วง
ผู้เป็นสมเด็จพระองค์แก้วให้ไปเป็นทางพระราชไมตรีพูดจากับแม่ทัพแม่กองไทย
ให้งดเสียอย่ารบกันให้เอ็นดูกับอาณาประชาราษฎรด้วย
แม่ทัพแม่กองไทยก็ยินยอมพร้อมใจแล้วนำพระองค์แก้วเข้าปถึงกรุงศรีอยุธยา
ขึ้นกราบทูลแก่พระเจ้าตาก จะขอเป็นทางพระราชไมตรีตามธรรมเนียมแต่บุราณ
ครั้งนั้นพระเจ้าตากไม่ไว้ใจเชื่อ ให้ทำโทษองค์แก้วใส่คุก จ.ศ.1135
พระบาทบรมบพิตรมีแม่นางชื่อนักนางไชย สมภพพระราชบุตรองค์หนึ่ง ทรงพระนามนักองเอง
จ.ศ.1136 พระองค์ไปอยู่ที่เกาะจีน พระองค์แก้วขอมารดากับภรรยาบุตรไปกรุงศรีอยุธยา
ครั้งนั้นพระเจ้าตากเชื่อว่าซื่อตรงจริง ให้ถอดออกจากโทษโปรดให้ขึ้นเฝ้าโดยปกติ
พระบาทบรมบพิตร เห็นว่าสมเด็จพระรามทำสงครามครั้งนี้ด้วยอยากได้ราชสมบัติ
ควรที่จะมอบเวนราชสมบัติถวาย อาณาประชาราษฎรทุกประเทศจะได้ความสุข จ.ศ.1137
พระองค์จึงให้พระมหาสังฆราช นำพระราชไมตรีไปแต่เมืองกำปอด เข้ามาถึงเมืองบันทายเพชร
มอบเวนราชสมบัติถวายสมเด็จพระรามผู้เป็นพระอนุชา
ทรงพระนามพระบาทสมเด็จเสด็จพระรามราชาธราชบรมบพิตร
พระบาทบรมบพิตร ผู้เป็นสมเด็จพระเรียมนั้น อยู่เป็นมหาอุปโยราช
แบ่งบรรดาขุนทหารสำหรับที่จะทรงราชถวายพระรามราชา ขุนนางสำหรับที่มหาอุปราชนั้น
แบ่งไปให้สมเด็จพระมหาอุปราช ขุนนางสำหรับที่สมเด็จพระมหาอุปโยราชนั้น
พระองค์เอาไว้รักษาพระองค์โดยปกติ จ.ศ.1138
พระองค์ให้ช่างหล่อปืนบะเรียมเบญจรงค์กับเครื่องทำศึกไว้
ให้ตำดินดำหล่อกระสุนให้ตัดไม้ทำค่ายที่เมืองพนมเพ็ญมุขกำพูล
พระองค์ไม่ยอมขึ้นแก่เมืองญวน ด้วยเมืองญวนเกิดศึกกับนักไพรไกเซิน
ตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่เมืองไกภู
เกณฑ์ไพร่พลเข้าเป็นกระบวนทัพยกไปรบกับเจ้าเวียดนามที่เมืองเว้
องจะแจ้เป็นใหญ่อยู่เมืองไซ่ง่อน ตั้งกองพิทักษ์รักษาบรรดาราษฎร
ให้มากราบทูลสมเด็จพระรามราชา ขอเสบียงกับไพร่พลให้ไปช่วยรบไกเซินนั้น
พระองค์ไม่ให้ไป องจะแจ้โกรธ ยกไพร่พลมาถึงค่ายจะโรยจังวา (ว่าแหลมทำเคย)
ข้ามฟากพนมเพ็ญรบกับทัพเขมร สมเด็จพระมหาอุปโยราชบรมบพิตร ถอยไปอยู่แพรกสำโรง แสน
ทัพญวนรบกับทัพเขมรไม่แพ้ชนะ กองทัพญวนก็กลับคืนไปเมืองญวน จ.ศ.1139
พระยาบวรนายกชูได้เป็นพระยาวิบุลราชคิดคดทูลสมเด็จพระมหาอุปราชว่าจะคิดลอบฆ่าพระรามราชา
เอาราชสมบัติมาถวาย แต่สมเด็จพระมหาอุปราชไม่ยอม พระยาวิบุลราชกลัวความผิด
กลับไปทูลสมเด็จพระรามราชาว่าสมเด็จพระมหาอุปราชคิดขบถ
จึงใช้พระยาวิบุลราชไปลอบฆ่าสมเด็จพระมหาอุปราชสุรคต
สมเด็จพระมหาอุปโยราช ประชวรและสุรคตใสปี จ.ศ.1139 จ.ศ.1140
พระเจ้าตากตรัสให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัววังหลวง
เมื่อยังเป็นเจ้าพระยาจักรี กับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววังหน้า
เมื่อยังเป็นเจ้าพระยาสุรสีห์ นำไพร่พลไทยหนึ่งหมื่น
ยกไปตีเมืองลาวตลอดไปจนถึงเมืองเวียงจันทน์
เจ้าพระยาทั้งสองยกมาถึงเมืองบันทายเพ็ชร ขอไพร่พลกับเสบียงจากพระรามราชา ฯ
ให้ไพร่พลเมืองกะพงสวาย เมืองศรีสุนทร เมืองไพรเวง เมืองตะบงคะมุม
ประสมได้ครบหนึ่งหมื่น กับเสบียงให้เจ้าพระยาจักรียกทัพบกเดินทางไปเมืองกะพงสวาย
เจ้าพระยาสุรสีห์ ยกทัพเรือขึ้นไปทางทะเลธม ถึงเมืองสมบุกสมบูรณ์
รื้อศิลาที่ขวางลำน้ำ นำเรือแง่ทรายแง่โอขึ้นไปถึงเมืองลาวสทึงแตรง
คิดหามเรือแง่ทราย ข้ามถนนศิลาขวางลำน้ำเลยไปถึงเมืองโขง เมืองจำปาศักดิ์
เมืองแจละแม หัวเมืองทั้งนั้นก็ยอมอยู่เป็นเมืองขึ้น
แล้วยกเลยไปถึงค่ายเมืองเวียงจันทน์ ๆ สู้รบกับเจ้าพระยาทั้งสอง