ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง
พงศาวดารเขมร
หน้า >> 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18
หน้า 5 >>>
ฝ่ายเจ้าพระยายอง พระนามเป็นสมเด็จพระอุไทย มีราชบุตรองค์หนึ่ง เมื่อ จ.ศ.1054
ชื่อนักตน ในปีนี้พระวงษ์นำไพร่พลมาขึ้นกับพระไชยเชษฐา จ.ศ.1057
พระองค์มอบเวนราชสมบัติไปให้สมเด็จพระอุไทยอยู่ในอุดงฦาไชย จ.ศ.1057
เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามพระบาทสมเด็จเสด็จรามาธิบดี
จ.ศ.1058 พระรามาธิบดีสุรคต สมเด็จพระไชยเชษฐารับเอาพระราชสมบัติคืน
พระองค์ให้ไปรับนักอิ่ม ผู้เป็นราชบุตรนักโนนมาจากเมืองญวน จ.ศ.1059
ตั้งพระนามนักอิ่มเป็นสมเด็จพระแก้วฟ้า แล้วยกราชบุตรีของพระองค์ให้เป็นชายา
มีราชบุตรองค์หนึ่ง จ.ศ.1065 นักชีสมภพทรงพระนามสมเด็จพระสัตถา
ต่อมาอ้ายอิ่มนเรนทรบุตรพระยาปัญญาเสนามอญ ขบถต่อพระองค์
ให้ไปนำเจ้าเมืองญวนยกทัพมารบกับพระองค์ พระองค์ถอยไปอยู่เมืองโพธิสัตว์
แล้วให้ยกทัพไปจับได้ตัวอ้ายอิ่ม
จ.ศ.1076 พระศรีธรรมราชาทรงราชย์ พระชันษาได้ยี่สิบสี่ปี
สมเด็จพระเจ้าทองผู้เป็นพระอนุชา ทั้งสองพระองค์ทำศึกรบกับสมเด็จพระแก้ว ๆ
ผู้เป็นพระเรียม ๆ ให้ไปพาญวนกับพระศรีสุคนธบท
กับชาวป่ากับลาวมาตั้งสกัดขัดทัพเกลี้ยกล่อมบรรดาชาวเมือง ๆ
ทั้งปวงก็ยอมเข้ากับพระองค์ แล้วยกมาล้อมค่ายพระองค์ทั้งสองได้สามเดือน
พระองค์ทั้งสองกับนักอิ่มหลีกหนีไปกรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระแก้วฟ้าขึ้นครองราชย์ในอุดงฦาไชยต่อจากสมเด็จพระอนุชา เมื่อปี จ.ศ.1079
พระศรีธรรมราชากับสมเด็จพระองค์ทอง เมื่อปี จ.ศ.1080
สมเด็จพระเจ้ากรุงศรีอยุธยารับสั่งให้เจ้าพระยาพลเทพ กับพระยาราชสุภาวดีกับไพร่พล
1500 นำพระองค์มาเป็นทางไมตรี ครั้นถึงเมืองปัตบอง
สมเด็จพระแก้วฟ้าไม่รับเป็นทางไมตรี
จ.ศ.1078 พระยาไทยทั้งสองนำพระองค์กลับไปกรุงศรีอยุธยา พระศรีธรรมราชา
ทูลลาพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ๆ
ให้สมเด็จพระองค์ทองมาตั้งรักษาสกัดเมืองก่อนกองทัพไทยเมื่อปี จ.ศ.1078
พระองค์มาตั้งสกัดขัดด่าน เมืองปัตบองกับเมืองโพธิสัตว์
ชาวเมืองทั้งสองยอมอยู่กับพระองค์ สมเด็จพระแก้วฟ้าให้ยกกองทัพญวนมารบ
พระองค์ต้องปืนญวนแล้วถอยมาอยู่กับคนป่าที่บ้านระซีสัน รอคอยกองทัพจากกรุงศรีอยุธยา
จ.ศ.1079 พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ให้พระยาโกษากับพระยาเดโช
นำทัพเรือเกณฑ์ไพร่พลห้าพันมารบ
ทัพบกให้เจ้าพระยาจักรีเป็นใหญ่กับนายทัพนายกองเป็นอันมาก เกณฑ์ไพร่พลหมื่นหนึ่ง
พระองค์นำทัพไทยยกมา สมเด็จทองออกจากป่ารซีสันนำบรรดาชาวป่าเข้ามารบ ทัพเรือ
พระองค์ให้ตั้งรับอยู่ ณ ค่ายบันทายมาศ กำปั่นรั่วถอยกลับคืนไปกรุงศรีอยุธยา
พระศรีธรรมราชากับพระองค์ทองนำกองทัพไทยมาถึงเมืองบาโบ
(เมืองบริบูรณ์) จ.ศ.1080 ทั้งสองพระองค์นำกองทัพไทยเข้ามาถึงอุดงฦาไชย
สมเด็จพระแก้วฟ้านำไพร่พลเขมรกับญวนออกมารบกับ สมเด็จพระอนุชาทั้งสองพระองค์
กับนายทัพนายกองไทย พระองค์จึงให้ไปขอให้ถอยทัพกลับไปกรุงศรีอยุธยา
แล้วจะนำดอกไม้เงินทองไปถวายเป็นเมืองขึ้น กับพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา
เจ้าพระยาจักรีกับแม่ทัพนายกองนำพระองค์ทั้งสองกลับไปกรุงศรีอยุธยา จ.ศ.1084
สมเด็จพระแก้วฟ้ามอบเวนราชสมบัติให้สมเด็จพระสัตถา
ผู้เป็นพระราชบุตรครองราชย์อยู่อุดงฦาไชย ในปีนั้นตะเลิงอยู่ ณ เมืองนางแผอก คิดขบถ
พระองค์ให้ไปปราบได้ พระไชยเชษฐาผู้เป็นพระไอยกา ยังสถิตอยู่เป็นอุปโยราชใหญ่
จ.ศ.1087 พระองค์สุรคต
จ.ศ.1091 พระองค์ยกราชสมบัติถวายพระราชบิดา สมเด็จพระแก้วฟ้าขึ้นทรงราชย์อยู่ในอุดงฦาไชย ทรงพระนามพระบาทสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช รามาอิศวรกรรมภูล ฯ ทรงราชย์ได้เจ็ดเดือนมอบเวนราชย์ให้แก่สมเด็จพระสัตถา ทรงพระนามพระบาทสมเด็จเสด็จบรมราชาธิราชรามาธิบดี จ.ศ.1092 ลาวอยู่ ณ เมืองพะสูตบาพนม ตั้งตัวเป็นนักบุญธรรมชีชัน ไปฆ่าฟันพวกญวนถึงไซ่ง่อน และเมืองบาพนมด้วย พระองค์ทั้งสองให้ไปปราบนักบุญได้ จ.ศ.1093 เจ้าเมืองญวนโกรธ ให้ยกกองทัพมารบกับพระองค์ทั้งสองถอยทัพไปอยู่เปี่ยมแตรงแขวงเมืองสันธุก ครั้นญวนกลับไปแล้ว จึงเข้ามาอยู่อุดงฦาไชย จ.ศ.1094 เจ้าเมืองญวนยกกองทัพมาอีกครั้ง เสด็จทั้งสองถอยไปอยู่เปี่ยมกะเบาแขวงเมืองสันธุก ครั้นญวนกลับไปแล้วจึงเข้ามาอยู่ ณ เมืองละแวก