ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>

ประชุมพงศาวดาร

พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง

พงศาวดารเขมร

 หน้า >>  1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18

หน้า 17 >>>

บรรดาภรรยาขุนนางที่แห่สมเด็จพระอนุชาทั้งสามองค์ เข้าไปกรุงศรีอยุธยานั้น ก็ทรงเลี้ยงไว้ ส่วนทาษชายหญิง ทรัพย์สิ่งของก็ให้คงอยู่กับเจ้าของไม่เอาโทษ แล้วพระยาพิพัฒนโกษา กับพระยาพิไชยอินทรา ฯลฯ นำไปพลไทยเขมรกลับไปเมืองปัตบองและกรุงเทพ ฯ พระบาทผู้เป็นเจ้าตรัสใช้พระยาเอกราชแทน พระยาศรีสุริยวงศ์ศุขนำศุภอักษรเข้าไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ๆ ตรัสใช้พระมหาอำมาตย์นำเงินเหรียญหนึ่งพัน กับข้าวเปลือก ร้อยเกวียน ผ้าลาย ผ้าแพรมาพระราชทานพระผู้เป็นเจ้า กับพระญาติผู้ใหญ่ เดือนเก้า องตากูนเป็นใหญ่ เชิญพระบาทผู้เป็นเจ้าจากค่ายโพธิโตกมาสถิตอยู่ ณ ค่ายทำใหม่ ให้เรียกว่า บันทายแก้ว แล้วให้ทำค่าย ๆ หนึ่งอยู่ฟากละว้าเอม ปลูกฉางข้าวเปลือก ทำที่ปลูกตำหนักสำหรับเจ้าเวียดนามไว้ที่แหลมจะโรยจังวา ให้บรรดามุขมนตรีญวน เขมร ไปถวายบังคมระลึกถึงพระคุณเจ้าเวียดนาม แล้วจึงไว้องเชืองเกนเป็นเบาฮอ กับองเทียบกิน องเบาทับ กับไพร่พลพันห้าร้อย อยู่รักษาพระบาทผู้เป็นเจ้า แล้วองตากุน กับองเหียบกิน องเชืองวินทัน องทุนโงน กราบลาพระบาทผู้เป็นเจ้า นำไพร่พลกลับไปเมืองญวน องญวนผู้ใหญ่เอาบรรดาช้างพังไปเป็นอันมาก เดือนสิบเอ็ด เจ้าเวียดนามใช้องเหิบกิบนำเงินแน่นมาให้ใช้ค่าช้างแปดสิบเชือกที่องตากุนนำไปถวาย ช้างพลายใหญ่เจ็ดช้าง ให้เป็นเงินสามสิบห้าแน่นช้างพลาย รองสี่สิบสามช้างเงินเก้าสิบแน่น ช้างพังแปดช้างให้เงินสิบหกแน่น รวมเป็นเงินสามร้อยสิสามแน่น เดือนสามเจ้าเวียดนามตรัสใช้องเหียบกิน นำหมวกเสื้อกางเกงกับบรรดาเครื่องยศ มาถวายพระบาทผู้เป็นเจ้า ๆ ตรัสใช้เจ้าฟ้าทะละหะกับพระทิพาวงษา นำเรือดั้งสองลำพร้อมด้วยเครื่องประโคมพิณพาทย์ ไปรับองเหียบกินถึงกงก๋วนจะโรยจังวา องเหียบกินมอบเครื่องประดับให้เจ้าฟ้าทะละหะนำไปถวายให้เสด็จทรง รุ่งขึ้นเสด็จไปถวายบังคมพระบารมีรับพระบัณฑูรเจ้าเวียดนามบรรดาขุนนางนุ่งกางเกงใส่เสื้อโพกศีรษะตามเพศญวนทุกคน

 

จ.ศ.1176 พระบาทผู้เป็นเจ้าตรัสใช้พระยาสุภาธิบดีนอง พระยาบวรเทศดำ นำของถวายไปถวายตอบพระคุณเจ้าเวียดนาม ณ เมืองเว้เป็นครั่ง ขี้ผึ้ง งา รง ผลกระวาน ผลเร่ว อย่างละ ห้าสิบชั่ง น้ำรักยี่สิบกระออม เดือนเก้าพระบาทผู้เป็นเจ้าตรัสใช้พระยายมราชตวนผอ พระยาธรรมเดโชมัน คุมไพร่พลสามพัน ออกไปเอาพระยาเดโชเมนกับพระยาเมนผู้น้อง ซึ่งพาบุตรภรรยาหนีไปอยู่เมืองโขง พระบาทผู้เป็นเจ้าพระราชทานตวนหมัดผู้พี่ที่เป็นพระยายมราชให้เป็นพระยาเดโช ให้พระยาศรีอรรคราชน้อง เป็นพระยาปลัดเดโชอยู่รักษาเมืองกะพงสวาย ให้หมื่นเที่ยงบุตรเจ้าพระยา อภัยธิเบศร์แบนเป็นพระวิเศษสุนทรอยู่รักษาเมืองปัตบอง เดือนสี่พระบาทผู้เป็นเจ้าทรงพระบัญญัติใหม่ว่า บรรดาขุนนาง เมื่อครั้งก่อนถ้าถึงแก่กรรม แต่มีบุตรให้เอามรดกเป็นหลวงตามบรรดาศักดิ์ ถ้าเป็นหมันไม่มีบุตรให้ยกมรดกเสีย เอาแต่ทรัพย์ที่เป็นหมันตามสิ่งของที่มีมากน้อย ถ้าราษฎรเป็นหมันไม่มีบุตร ถึงแก่กรรมแล้วเอาทรัพย์ของผู้นั้นเป็นของถวาย ถ้ามีทาษก็ให้แบ่งถวาย ถ้ามีเครื่องประดับและทรัพย์อื่น ๆ ก็ให้แบ่งออกไปเป็นของถวาย บัดนี้มีพระราชบัญญัติใหม่ให้ยกเสียไม่ให้เอา ถ้าขุนนางผู้ใดขืนเอาไว้มีโทษถึงสิ้นชีวิตด้วยไม่มีความเมตตา บรรดามุขมนตรี และอาณาประชาราษฎรก็มีความยินดี สรรเสริญพระเดชพระคุณทุกคน ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสมอ

จ.ศ.1177 มีหนังสือพระยาเดโชกราบทูลว่า มีทัพไทยยกมาแต่เมืองนครราชสีมา จึงตรัสใช้สมเด็จเจ้าพระยาดีเป็นแม่กองใหญ่ พระยาโยธาสงครามมัน กับพระยาเอกราชแทนพระยานรินทร์นอง ออกไปอยู่รักษาเมืองโพธิสัตว์ ตรัสใช้พระยานเรนทรเสนามา พระอินทรวิไชยกับอาวันแขกไปทางเรือรักษาครัว ณ เกาะกำยาน เดือนหก กับพระยาเอกราชแทน ไปเอามูลค้างคาวที่แขวงเมืองปัตบอง ไทยชื่อพระยารามคำแหง ฯลฯ เกณฑ์ไพร่พลออกมาห้ามปราม แล้วไล่พระยาเอกราชแทนกลับเมืองโพธิสัตว์ พวกไทยเมืองปัตบอง กวาดครอบครัว ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำที่เกาะกำยาน และที่ตั้งบ้านเรือนบนบก ณ บ้านสมอแครงไปเมืองปัตบอง เดือนแปดเจ้าเวียดนามใช้องอินโปมาถาม เอาถ้อยคำสมเด็จเจ้าพระยา กับพระยาเอกราชแทน แล้วนำความไปกราบทูลเจ้าเวียดนาม ๆ บังคับองกงดงให้มีหนังสือมาเอาตัวสมเด็จเจ้าพระยา ไปเมืองไซ่ง่อน เดือนสิบพระบาทผู้เป็นเจ้าตรัสใช้พระยายมราชตวนผอ ฯลฯ คุมตัวสมเด็จเจ้าพระยาไปถึงเมืองศรีสุนทร เดือนสิบเอ็ด ตรัสใช้พระยายมราชตวนผอ ฯลฯ ไปจับสมเด็จเจ้าพระยาให้ทำโทษแล้วคุมไปเมืองไซ่ง่อน เดือนอ้ายเจ้าเวียดนามตรัสใช้องยัมทัน องวินทัน กับองผอเทือง นำไพร่พลญวนสี่พัน ไพร่พลเขมร ณ เมืองพระตะพังหนึ่งพัน ขึ้นมาตั้งค่ายอยู่เปียมมัจรุก ขุดคลองไปประจบกับเปียมนั้น เป็นทางไกลสองหมื่นหกพันห้าร้อยวาแล้ว ให้ขุดคลองแต่มีจรุกไปต่อกับทางข้างตะวันออกไกล หกพันแปดร้อยห้าสิบสองวา เกณฑ์ราษฎรเขมรให้ช่วยทำด้วย

อ่านต่อ หน้า 18 >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย