ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง
พงศาวดารเขมร
หน้า >> 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18
หน้า 8 >>>
นักองค์โนนกับนักองค์ชี หนีจากเมืองโพธิสัตว์ข้ามไปอยู่เมืองสันธุก
พึ่งพระยาเดโชโสมอยู่ แม่ทัพนายกองสมเด็จพระอุไทยราชา
ล้อมจับได้สมเด็จพระอนุชาติสัตรีกับสมเด็จพระองค์ทองนำมาฆ่าที่เมืองกะปงชะนัง
แล้วยกไปรบทัพพระยาเดโชโสม จับได้ฆ่าเสีย แล้วล้อมจับนักองค์ชีมาฆ่าเสีย
นักองค์โนนผู้เป็นพระรามราชาต้องขังอยู่ในกรุง ขุนนางคนหนึ่งชื่อพระปาง
ลอบพาหนีไปกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระอุไทยราชาขึ้นทรงราชย์เมืองบันทายเพ็ชร เมื่อปี
จ.ศ.1120 พระชันษายี่สิบปี ทรงพระนามพระบาทสมเด็จ พระนารายณ์ราชาธิราชรามาธิบดี ฯ
จ.ศ.1121 เจ้ากรุงลาวให้นำพระอัฐิสมเด็จพระมหากษัตริย์ผู้เป็นพระราชมารดามาถวาย
จ.ศ.1129 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา จับเอาพระเจ้าดอกมะเดื่อไปได้
พระเจ้าเสสังออกรบแพ้พม่า หนีมากรุงกัมพูชา จ.ศ.1131 พระเจ้าตาก เป็นบุตรจีนไหหง
อยู่ในกรุงศรีอยุธยารบฆ่าพม่า พม่าหนีกระจัดกระจาย
จึงตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้าในกรุงศรีอยุธยา ใช้ข้าหลวงนำศุภอักษรมาทูลพระบาทบรมบพิตร
ให้คิดทำดอกไม้เงินทองไปถวายพระเจ้าตากให้เป็นทรงพระราชไมตรี
พระบาทบรมบพิตรเห็นว่าเจ้าตากเป็นราษฎรตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์
จะให้เรานำดอกไม้เงินทองไปถวายจะไม่สมควร พระองค์ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้น
พระเจ้าตากกริ้วนัก จึงให้พระเจ้าอยู่หัววังหน้า
เมื่อยังเป็นที่เจ้าพระยาสุรสีห์เป็นแม่ทัพใหญ่
ให้นำสมเด็จพระรามกับบรรดาแม่ทัพนายกอง ครองไพร่พลยกมาถึงเมืองพระมหานครวัด
พระบาทบรมบพิตรให้พระยากลาโหมปาง เป็นแม่ทัพใหญ่ออกไปต่อสู้ แต่สู้ไม่ได้
พระยากลาโหมปางตายในที่รบ ไพร่พลแตกหนีไป
กองทัพไทยมีชัยชนะแล้วกลับคืนไปกรุงศรีอยุธยา
ครั้งนั้นพระบาทบรมบพิตรเมตตานักองค์ธรรมผู้เป็นพระราชบุตรสมเด็จพระแก้วฟ้า
ยกขึ้นเป็นสมเด็จพระมหาอุปราชบรมบพิตร
จ.ศ.1132 สมเด็จพระโสทัต ผู้เป็นใหญ่ในเมืองเปียม คิดตามอำเภอใจ
เกณฑ์ไพร่พลในแขวงเมืองบันทายมาศ เมืองตรัง ยกทัพไปจับคนเมืองทุ่งใหญ่
เมืองจันทบุรี พวกกองทัพไทยยกออกมาสู้รบชนะ จ.ศ.1133
พระเจ้าตากคิดจัดเกณฑ์ไพร่พลให้เจ้าพระยายมราช เป็นแม่ทัพใหญ่ ยกมาถึงเมืองบางคาน
ตามทางบกถึงเมืองนครวัดปัตบอง เข้าถึงเมืองโพธิสัตว์
พระเจ้าตากจัดทัพเรือ ใช้สำเภาเภตรานาวาใหญ่น้อย
นำสมเด็จพระรามมาถึงเมืองเปียม มารบไล่พระโสทัต หนีไปอยู่เมืองตึกเขมา
พระบาทบรมบพิตร ก็พาพระมเหสีกับบรรดาหญิง
พระสนมกับบริวารชายหญิงมาขึ้นท่าอยู่บนพระที่นั่งนาวา เดินทางออกจากค่าย
บรรดาครัวราษฎรทั้งหลายหนีลงเรือตามแห่พระองค์ไปถึง เมืองตะโลงโขดบดอันเจียน
แต่ครัวบางพวกก็แวะซ่อนอยู่ในเกาะสะอันลงระสือ (ว่าวังไผ่)
ชวนกันตัดไม้ไผ่ปักทำเป็นรั้วอยู่ล้อมเปี่ยมตะแอก
พระเจ้าตากกับสมเด็จราม ตีเมืองเปียมแตกแล้ว ยกทัพเรือเข้าถึงเมืองพนมเพ็ญ
ออกไปทะเลราดเซียม ยกตามเข้าไปจับเอาทาสชายหญิง
ทรัพย์สิ่งของบรรดาครอบครัวที่ซุ่มซ่อนอยู่ ณ บึงมักสะ
บรรดากองทัพไทยบ้างก็ยกลงไปตามครัวหลวงถึงเปียมเบ็ญจพรรณในเพลากลางคืน
พบกับทัพพระยายมราชทอยต้อนครัวอยู่ภายหลัง
ครั้งนั้นเจ้าเวียดนามทรงเมตตาให้องญวนเป็นแม่ทัพใหญ่ยกขึ้นมาถึงทัพพระยายมราชทอย
ช่วยรบมีชัยชนะ
กองทัพไทยถอยกลับคืนไปกรุงศรีอยุธยา ไว้แต่ไทย 500
ให้รักษาสมเด็จพระรามค้างอยู่เมืองกำปอด
เกลี้ยกล่อมบรรดาราษฎรเมืองบันทายมาศเชิงกรรชุม จัดเป็นทัพยกมาถึงเมืองเปียมระกา
พระยายมราชทอยให้จัดไพร่พลออกไปรบกับทัพสมเด็จพระราม
ทัพพระยายมราชไทย ยกไพร่พลมาทางบกถึงเมืองนครวัดปัตบอง
ล่วงมาถึงเมืองโพธิสัตว์ กวาดบรรดาครัวราษฎรเขมรหนุ่มสาวเขมรสาวนำไปกรุงศรีอยุธยา
ประมาณ หมื่นคนเศษ สิ้นคนจากบ้านเมืองเกิดกลีใหญ่ในปีเถาะ เดือนอ้าย เดือนยี่
ถึงเดือนสามพระเจ้าเสสังสุรคต พระบาทบรมบพิตรลาเจ้าเวียดนาม
ออกจากบดอันเจียตะโลงโขดุเข้ามาอยู่ แพรกมัดรันโด (ว่าคลองปากหมู)