วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
(ลิลิตโศกนาฏกรรมความรัก)
ลิลิต
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73
พระสสุรีพิลาป
ร่าย
611 ส่วนสมเด็จดาราวดี พระชนนีรู้ข่าว ทะทึกท่าวทรุด สยบ ซรบซรอนลงฟะฟั่น
สั่นหฤทัยทะทาว ชาวแม่ ถนอมพระองค์ แล้ว ธ ก็ทรงคานหาม ไห้ตามเสด็จเดียรดาษ
ถึงปราสาทสองศรี ภัควดีอ่อนละลวน ระทวยดุจวัลย์ทองท่าว น้ำตาคล่าวหลั่งหลาม
ชูคานหาม ธ ขึ้น ถึงพ่างพื้นเรือนรัตน์ เห็นสามกษัตริย์สิ้นชนม์ ธ ก็ทอดตนตีอก
ผกกลิ้งเกลือก ไปมา แม่มาหาแก้วแม่ เคียดใดแก่แม่นา เจ้ามิเจรจา ด้วยแม่
มิแต่งแง่ให้แม่ชม มิหวีผมให้แม่เชย มิเงยหน้า ให้แม่จูบ มิลูบน้ำดอกไม้ไล้พระองค์
มิทรงกระแจะจรุง ชมด มิเสวยรสเข้าปลา สองจะลีลาสู่ฟ้า ละแม่เปน กำพร้า
เจ้าแม่เอ้ยปรานี แม่รา ฯ
โคลง 2
612 ยินดีใดด่วนม้วย เยื้อนปากปราไสยด้วย
แม่ให้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ
613 ใดผิดใจสองเจ้า ควรเคียดฤๅจึ่งเต้า
แขกฟ้าทั้งสอง ฯ
614 หมองใจใดด่วนผ้าย สองอย่าคิดยินร้าย
แก่แม่ร้า ณ หัว แม่เอย ฯ
615 อ้าชรมัว ธ เมือเช้า สีพระทนต์ทะนะเจ้า
แม่เอ้ยกับตน แม่ฮา ฯ
616 ลงบังคนทนะแก้ว ออกจากบังคนแล้ว
เชิญอ่อนท้าวสองสรง เล่านา ฯ
617 ทรงบรัดผัดหน้า แต่แง่ทรงสอิ้งผ้า
ย่างเยื้องมาหา แม่รา ฯ
618 สองมาเรียบดอกไม้ ถวายธูปเทียนทองไหว้
พระบาทสร้อยสรรเพ็ชญ์
หนึ่งรา ฯ
619 แล้วเสด็จมาทะนะเจ้า เจ้าแม่มาเสวยเข้า
แก่แม่ร้าสุดใจ แม่เอย ฯ
ร่าย
620 เตือนฉันใดก็ บ มิพร้อง ต้องฉันใดก็ บ มิติงยืนอิงกัน อยู่ กระด้าง
ลอบพิตรเจ้าช้าง ห้าม บ ให้สองขาน แม่ฤๅ ฯ
โคลง 2
621 พระภูบาลปิ่นเกล้า ปิตุราชพระเสด็จเต้า
แขกท้าวฤๅแล พ่อเอย ฯ
622 บ แปรพักตรต่อไท้ บ สั่งสักคำไว้
แก่แม่เล้ยสุดใจ แม่เอย ฯ
โคลง 4
623 เยียใดแก่ชีพนี้ นิศผล
นับว่าตัวเปนคน คู่บ้า
บ เห็นลูกกับตน
ตนอย่า เปนเลย
ตายจุ่งพลันเห็๋นหน้า ลูกแก้วทั้งสอง ฯ
624 สบ กษัตริย์พระญาติไห้ อึงอุด อยู่นา
สบส่ำสาวสนมทรุด ท่าวไห้
ปวงนางกำนัลสุด ถึงไพร่ เมืองนา
คนหนึ่งฤๅอดได้ เกลือกกลิ้งกลางดิน ฯ
625 เสียงไห้ทุกราษฎร์ไห้ ทุกเรือน
อกแผ่นดินดูเหมือน จักขว้ำ
บ
เห็นตะวันเดือน ดาวมืด มัวนา
แลแห่งใดเห็นน้ำ ย่อมน้ำตาคน ฯ