ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์ >>
สุนทรียศาสตร์จีน
เหมาเซตุง, หลู่ซิ่น
ศิลปะรับใช้การปฏิวัติ
เหมาเซตุง(Mao Zedong) (ค.ศ.18931976) ได้ล้มล้างความรู้ของชนชั้นสูง
ซึ่งเน้นความสำคัญในความเป็นคลาสสิกและคุณค่าของอดีต
ช่วงระหว่างการปกครองแบบสาธารณรัฐ (ค.ศ.19121949), หลู่ซิ่น (Lu Xun)
(ค.ศ.18811936)นักเขียน, นักกิจกรรม,
และผู้ก่อตั้งขบวนการพิมพ์ในเชิงสร้างสรรค์(the Creative Print
Movement)ได้กระตุ้นให้บรรดาศิลปินทั้งหลายใช้ประโยชน์งานศิลปะในการรับใช้การปฏิวัติ
(โดยมีพื้นฐานอยู่บนอุดมการณ์แบบยุโรป) การพูดของเขาปี 1942 ในการประชุมที่แหย่หนาน
(Talks at the Yan'an Conference) เกี่ยวกับเรื่องวรรณกรรมและศิลปะ
(รากฐานสำหรับสุนทรียศาสตร์จีนคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งปี 1979)
เหมาได้ปรับประยุกต์ความคิดของหลู่ซิ่นสู่การปฏิวัติของเขา
และให้การยอมรับเขาในฐานะที่เป็นต้นตอการให้กำเนิด
เหมาได้ให้เหตุผลว่า
ประวัติศาสตร์ศิลปะคือผลผลิตหนึ่งของโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองที่จะต้องได้รับการปฏิเสธ:
กล่าวคือในยุคบรอนซ์ ศิลปะเป็นผลิตผลของสังคมทาส ขณะที่นับจากราชวงศ์ฮั่นเป็นต้นมา
(140 B.C.E.220 C.E.) จนถึงคริสตศตวรรษที่ 20
จีนเป็นเอกภาพภายใต้ระบบศักดินาโดยมีองค์จักรพรรดิ์เป็นศูนย์กลางการปกครอง
และจากองค์พระจักรพรรดิ์ คุณค่าทั้งหมดได้แผ่กิ่งก้านขยายออกไป (McDougall)
อย่างไรก็ตาม เหมาได้ประยุกต์แง่มุมต่างๆ
ของสุนทรียศาสตร์ผู้คงแก่เรียนมาใช้กับวัตถุประสงค์หลายอย่างของการปฏิวัติคอมมิวนิสต์
ประกอบด้วย การใช้ประโยชน์เกี่ยวกับภาพและตัวบทต่างๆ
เพื่อสอนสั่งถึงคุณความดีและความเชื่อในพลังของศิลปะ เพื่อแปรเปลี่ยนหัวใจของมนุษย์
และด้วยเหตุดังนั้น ทำให้เป็นความจริงทางการเมือง
ในปี ค.ศ.1958 งานพิมพ์โดย Niu Wen
ได้บูรณาการกวีนิพนธ์เข้ากับงานทัศนศิลป์ แนวคิดของผู้คงแก่เรียน
ซึ่งเป็นช่วงเวลานับจาก อย่างน้อยที่สุดสมัยราชวงศ์ซ้อง
และบรรดาชาวนาทั้งหลายต่างเพิ่มบทกวีลงบนผนังกำแพงในหมู่บ้านของพวกเขา
โดยในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960s แม้แต่งานจิตรกรรมภาพทิวทัศน์ในแบบจารีต (guo hua)
ก็ถูกประยุกต์เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ของการปฏิวัติคอมมิวนิสต์:
งานพิมพ์ภาพทิวทัศน์ของ Huang Peimo ชื่อภาพ A Distant Source and a Long Stream
(1973) ได้รวมเอาโลกทัศน์เก่าของผู้คงแก่เรียนเกี่ยวกับความสุขุมรอบคอบ
เข้ากับปฏิบัติการในความว่างของเนื้อที่อันเป็นสุนทรียศาสตร์ของผู้คงแก่เรียน
บูรณาการเป็นหนึ่งเดียวกัน
พิธีกรรมและดนตรี ในแนวคิดของขงจื่อ
ซุนซี: ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับระเบียบแบบแผน เสี้ยวทง:
ผู้ปลดปล่อยดนตรีจากจริยศาสตร์ (ค.ศ.530)
สุนทรียศาสตร์ถูกครอบงำโดยชนชั้นสูง
วังเว่ย: งานจิตรกรรมจักต้องสอดคล้องกับ ป้ากัว หรือ
แผนผังจักรวาล
ซังฮี: แนวทางหลัก 6 ประการสำหรับการตัดสินจิตรกรรม
การสังเคราะห์ในราชวงศ์ซ้อง(the Song Synthesis)
เหมาเซตุง, หลู่ซิ่น: ศิลปะรับใช้การปฏิวัติ
มวลชนในฐานะที่เป็นวีรบุรุษต่างๆ ในภาพเขียน
การปฏิวัติวัฒนธรรม (the Cultural Revolution) ค.ศ.19661976
ปล่อยให้ดอกไม้ร้อยดอกเบ่งบาน โรงเรียนร้อยแห่งแข่งขัน
สุนทรียศาสตร์จีน (Chinese aesthetics)
นำมาจาก EAST ASIAN
AESTHETICS AND NATURE David Landis Barnhill
ศิลปะไม่ใช่การอธิบายเกี่ยวกับความจริงของผิวหน้า
กวีที่ยิ่งใหญ่ได้บรรลุถึงเอกภาพแห่งทวินิยม
มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
วัฒนธรรมมนุษย์จึงไม่แยกจากธรรมชาติ
สุนทรียศาสตร์ชาวจีนตั้งอยู่บนฐานความหมายที่สาม
(ความเป็นเอกภาพกับธรรมชาติ)