ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
บทที่ 1 ฟิสิกส์สมัยใหม่
บทที่ 2 การรู้และการเห็น
บทที่ 3 พ้นภาษา
บทที่ 4 ฟิสิกส์แนวใหม่
บทที่ 5 ศาสนาฮินดู
บทที่ 6 พุทธศาสนา
บทที่ 7 ปรัชญาจีน
บทที่ 8 ลัทธิเต๋า
บทที่ 9 นิกายเซน
บทที่ 10 เอกภาพแห่งสรรพสิ่ง
บทที่ 11 เหนือโลกแห่งความขัดแย้ง
บทที่ 12 จักรวาลอันเคลื่อนไหว
บทที่ 13 ความว่างและรูปลักษณ์
บทที่ 5 ศาสนาฮินดู
2
5.1 มหาภารตะ
อย่างไรก็ตาม ชาวอินเดียส่วนใหญ่มิได้รับเอาคำสอนของฮินดูโดยผ่านทางคัมภีร์อุปนิษัท แต่โดยผ่านตำนานต่าง ๆ ซึ่งผูกขึ้นเป็นโคลงเล่าเรื่องราวพื้นฐานของเทพปกรณัมอันงดงามจำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้นคือ มหาภารตะ (Mahabharata) ซึ่งบรรจุอยู่ด้วยคัมภีร์ ภควัทคีตา (Bhagavad Gita) บทกวีแห่งจิตวิญญาณอันงดงามและเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน โดยทั่วไปจะเรียกว่า คีตา คีตา เป็นบทสนทนาโต้ตอบระหว่างกฤษณเทพกับอรชุนกษัตริย์นักรบที่กำลังตกอยู่ในภาวะสิ้นหวัง เนื่องจากจำต้องต่อสู้กับญาติสายโลหิตของตนในมหาสงครามระหว่างวงศ์ญาติ อันเป็นโครงเรื่องสำคัญของมหาภารตะ พระกฤษณะซึ่งปลอมเป็นสารถีของอรชุน ได้นำอรชุนไปสู่สมรภูมิในระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย ณ ที่นั้น พระกฤษณะได้เปิดเผยสัจจะแห่งฮินดูธรรมต่ออรชุน เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสภาพภูมิหลังสงครามระหว่างสองครอบครัวก็ได้ลางเลือนไป และที่กลับปรากฏชัดเจนก็คือความจริงที่ว่า การสัประยุทธ์ของอรชุนนั้นเป็นการต่อสู้ของมนุษย์ เป็นการต่อสู้ของนักรบเพื่อค้นหาการรู้แจ้ง
พระกฤษณะได้ตรัสแนะนำอรชุนว่า: จงสังหารซึ่งความกังขาอันมาจากอวิชชาในหัวใจของท่าน ด้วยดาบแห่งปัญญา จงรวมร่างกายและจิตใจให้เป็นหนึ่งในโยคะ และจงลุกขึ้นเถิด นักรบผู้ยิ่งใหญ่ จงลุกขึ้นเถิด พื้นฐานแห่งคำสอนของพระกฤษณะ เช่นเดียวกับคำสอนอื่น ๆ ในศาสนาฮินดู คือแนวคิดที่ว่าสิ่งต่าง ๆ และเหตุการณ์ทั้งหลายรอบตัวเรา ซึ่งดูเสมือนว่าหลายสิ่งแตกต่างกันออกไปนั้น แท้จริงเป็นการปรากฏในรูปลักษณ์ต่าง ๆ กันของสัจจะสูงสุดประการเดียว เรียกว่า พรหมัน (Brahman) แนวคิดนี้ทำให้ศาสนาฮินดูมีลักษณะเป็นเอกเทวนิยม แม้ว่าจะมีการบูชาเทพและเทวีที่แตกต่างกันมากมาย สัจจะสูงสุดหรือพรหมันนั้นคือ วิญญาณ หรือแก่นแท้ภายในของสรรพสิ่งเป็นอนันต์ และไปพ้นความคิดทุกชนิด ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยความชาญฉลาด ทั้งไม่อาจกล่าวอธิบายได้ด้วยภาษา พรหมันไม่มีต้นกำเนิดสูงสุด ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นอะไร หรือมิใช่อะไร วิญญาณสูงสุดนั้น ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยความคิดนึกสามัญ เป็นปรมัตถ์ ไม่มีเกิด อยู่เหนือเหตุผล คิดคำนึงเอาไม่ได้ กระนั้นประชาชนก็ปรารถนาที่จะกล่าวถึงสัจจะนี้ นักปราชญ์ฮินดูจึงได้สร้างภาพของพรหมันในลักษณะที่เป็นพระเจ้า และกล่าวถึงโดยใช้ภาษาของเทพปกรณัมลักษณะต่างๆ มากมาย แต่ละลักษณะของพระเจ้า ถือเป็นเทพองค์หนึ่ง ๆ ซึ่งชาวฮินดูนับถือบูชา แต่ในคัมภีร์ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า เทพเหล่านั้นเป็นแต่เพียงภาพสะท้อนของสัจจะสูงสุดเพียงประการเดียว ซึ่งประชาชนกล่าวว่า จงบูชาเทพองค์นี้ จงบูชาเทพองค์นั้น ต่าง ๆ มากมายแท้จริงล้วนเป็นการรังสรรค์ของพระองค์ (พรหมัน) และพระองค์ก็คือเทพทั้งมวลพรหมันในวิญญาณของมนุษย์เรียกว่า อาตมัน (Atman) ความคิดที่ว่า อาตมันและพรหมัน ปัจเจกสัจจะและปรมัตถสัจจะนั้นเป็นหนึ่งเดียว เป็นแก่นแท้ของอุปนิษัท สิ่งนั้นซึ่งเป็นแก่นแท้ที่ละเอียดลึกซึ้ง โลกพิภพทั้งมวลมีสิ่งนั้นเป็นวิญญาณ สิ่งนั้น คือ สัจจะ สิ่งนั้นคือ อาตมัน สิ่งนั้นคือตัวท่าน