ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
หลักสูตรพุทธศาสนา
หลักสูตรพุทธศาสนา (ระดับมัธยมต้น-ปลาย)
บทที่ ๕ พุทธประวัติ
๑. เจ้าชายสิทธัตถะ
พระพุทธเจ้านั้นเดิมคือเจ้าชายสิทธัตถะจากตระกูลโคตมะ (โคดม)
เป็นโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์
ของประเทศอินเดียสมัยนั้น(ประมาณ ๒,๖๐๐ ปีมาแล้ว)
มีพระราชมารดาทรงพระนามว่าพระนางสิริมหา มายา หลังจากประสูติได้ ๗
วันพระราชมารดาก็สวรรคต พระนางประชาปดีโคตมี ซึ่งเป็นพระน้านาง(น้องของแม่)
ก็ได้เป็นผู้เลี้ยงดูพระกุมาสิทธัตถะสืบมา(เป็นแม่เลี้ยง).
๒. อภิเษกสมรส
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะโตขึ้นก็ได้ศึกษาศิลปะวิทยาทุกแขนงเท่าทีมีอยู่ในสมัยนั้นจนแตกฉาน
พออายุได้ ๑๖ พรรษาก็ได้อภิเษกสมกับพระนางยโสธรา(หรือพิมพา)
และมีพระโอรสองค์หนึ่งพระนามว่า ราหุล.
๓. เสด็จออกผนวช
หลังจากได้เสพสุขอย่างเต็มที่เท่าที่จะหาได้ในสมัยนั้นแล้ว
ก็ทรงเกิดความเบื่อหน่าย เพราะทรงมองเห็นว่าความสุขนั้นไม่ยั่งยืน
ไม่ช้าความแก่และความตายก็จะนำความทุกข์อันใหญ่หลวงมาให้.
เมื่อพิจารณาได้ดังนั้นจึงทรงละทิ้งทรัพย์สมบัติและความสุขสบายทั้งหลาย แล้ว เสด็จออกผนวชเป็นนักบวชเพื่อแสวงหาความพ้นความทุกข์ อย่างพวกฤๅษีทั้งหลายของสมัยนั้นที่ปฏิบัติกันอยู่ โดยมีปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ซึ่งออกบวชตามไปด้วย ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา.
๔. ทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔
เมื่อออกบวชแล้วก็ได้ทรงไปศึกษาวิธีการดับทุกข์โดยการใช้สมาธิสูงๆจากเจ้าลัทธิที่โด่งดังของยุคนั้น
แต่ก็ไม่ทรงพอพระทัยเพราะยังดับทุกข์ไม่ได้จริง
จากนั้นก็ได้ทรงทดลองทรมานร่างกายอย่างแสนสาหัส
ตามความเชื่อของบางลัทธิที่ว่าจะทำให้หมดทุกข์ได้ แต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ .
ต่อมาทรงละเลิกการทรมานร่างกาย แล้วหันมาค้นคว้าด้วยพระองค์เอง ซึ่งช่วงนี้เองที่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้หลีกหนีไปเพราะคิดว่าพระองค์ทรงละความเพียรเสียแล้ว ซึ่งวิธีการของพระองค์ก็คือการทำจิตให้เป็นสมาธิแล้วใช้ปัญญาพิจารณาหาสาเหตุของความทุกข์ จนกระทั่งพบ แล้วก็ทรงปฏิบัติจนสามารถดับทุกข์ได้อย่างแท้จริง.
การที่พระองค์ทรงค้นพบและปฏิบัติจนดับทุกข์ได้จริงนี้เองที่เรียกว่าการตรัสรู้(ได้รู้สิ่งที่ประเสริฐ) ซึ่งสิ่งที่ทรงตรัสรู้นี้เรียกว่า อริยสัจ ๔ (ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ) ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์(ดับทุกข์) โดยทรงใช้เวลาในการคว้าอยู่ถึง ๖ ปีจึงตรัสรู้.
๕. ทรงประกาศศาสนา
หลังจากตรัสรู้แล้วก็ได้เสด็จตามไปสอนปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
จนได้ตรัสรู้ตามและขอบวชเป็นภิกษุเพื่อปฏิบัติตามพระพุทธองค์
และช่วยกันเผยแพร่คำสอนหลักอริยสัจ ๔
นี้ให้แพร่หลายจนมีผู้ศรัทธาและมาขอบวชตามเป็นภิกษุอีกมากมาย
และต่อมาก็มีเศรษฐี กษัตริย์
และผู้มีปัญญาของยุคนั้นหันมานับถือพระพุทธองค์อย่างมากมาย
จนทำให้ธรรมะของพระองค์เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งในยุคนั้น
ซึ่งในยุคนั้นจะเรียกคำสอนของพระพุทธองค์ว่า ธรรมะของพระสมณะโคดม.
๖. ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน
หลังจากทรงสอนธรรมะแก่มหาชนมาถึง ๔๕ ปี ซึ่งก็ทรงพระชราภาพมากแล้ว
พร้อมทั้งยังทรงป่วยเป็นโรคลงพระโลหิต(ถ่ายเป็นเลือด)
จึงทรงปลงอายุสังขาร(กำหนดเวลาตาย) และเสด็จดับขันธปรินิพพาน(ตาย) ณ
เมืองกุสินารา อันเป็นเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งของอินเดียในยุคนั้น
ซึ่งทรงมีพระพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา
» บทที่ ๑ หลักพุทธศาสนาโดยสรุป
» บทที่ ๒ หลักพื้นฐานพุทธศาสนา
» บทที่ ๑๑ ชาวพุทธ และศาสนพิธี