ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
หลักสูตรพุทธศาสนา
หลักสูตรพุทธศาสนา (ระดับมัธยมต้น-ปลาย)
บทที่ ๘ การฝึกสมาธิ
๑. สมาธิ
สมาธิ แปลว่า ตั้งมั่น คือหมายถึงความสงบ ตั้งมั่น ไม่ฟุ้งซ่านของจิตใจ
ซึ่งสมาธินี้จะมีอยู่ ๒ ประเภท อันได้แก่
๑. สมาธิใช้งาน ซึ่งก็คือความตั้งใจตามธรรมดา
๒. สมาธิขั้นสูง ซึ่งก็คือความตั้งใจที่สูงมาก
ขณะที่เราตั้งใจเรียน หรือตั้งใจฟัง ตั้งใจพูด ตั้งใจคิด ตั้งใจทำอยู่นั้น เราก็มีสมาธิขั้นใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งสมาธิใช้งานนี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเรียน หรือการทำงานทั้งหลาย ส่วนสมาธิขั้นสูงนั้นเป็นการฝึกจิตให้สงบนิ่งอย่างยิ่ง(ฌาน) จนไม่มีแม้ความคิดนึกใดๆอยู่เลย ซึ่งสมาธิขั้นสูงนี้ถ้าฝึกได้สำเร็จจะทำให้เรามีสมาธิใช้งานที่สมบูรณ์.
๒. ประโยชน์ของสมาธิ
ประโยชน์ของสมาธิก็ได้แก่
๑. ทำให้เกิดความสุขสงบทันตาเห็น
๒. ทำให้มีจิตหนักแน่นมั่นคง
๓. ทำให้มีความละเอียดรอบครอบ
๔. เป็นพื้นฐานให้เกิดปัญญา
๓. ศัตรูของสมาธิ
สิ่งที่มาทำลายจิตไม่ให้มีสมาธิก็คืออาการของกิเลสอ่อนๆที่เรียกว่า นิวรณ์
ซึ่งสรุปได้ ๒ อาการ อันได้แก่
๑. ความรู้สึกรัก, และชัง
๒. ความรู้สึกหดหู่ เซื่องซึม มึนชา
๓. ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆนาๆ
นิวรณ์แต่ละตัวนี้เองที่ผลัดเปลี่ยนกันเกิดขึ้นมาครอบงำจิตของเราอยู่เกือบจะทั้งวัน
จึงทำให้จิตของเราไม่มีสมาธิในการเรียน หรือในการทำงาน จึงเรียนไม่รู้เรื่อง
ทำงานไม่ได้ดี เพราะจิตเศร้าหมองขุ่นมัวและไม่สงบ ไม่ปลอดโปร่งแจ่มใส
(ไม่นิพพาน) ซึ่งจัดว่าเป็นความทุกข์ชนิดอ่อนๆ.
๓. การฝึกอานาปานสติ
อานาปานสติ หมายถึง สติที่กำหนดอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก
ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการฝึกสมาธิขั้นสูง โดยมีหลักการดังนี้
๑. นั่งขัดสมาธิ ตั้งตัวตรง จะหลับตาหรือลืมตาก็ได้
๒. บังคับลมหายใจให้เบาและยาวอย่างสม่ำเสมอ
๓. ตั้งสติกำหนดอยู่ที่ลมหายใจมากระทบบริเวณจมูกตลอดเวลา
๔. พยายามระวังตัวอยู่เสมอ อย่าให้นิวรณ์และความคิดต่างๆเกิดขึ้นมา
การฝึกจะต้องพยายามฝึกอย่างสม่ำเสมอ จนจิตสงบและนิวรณ์อ่อนลง ก็แสดงว่าจิตเริ่มมีสมาธิมากขึ้น และถ้านิวรณ์ ระงับลงและจิตตั้งมั่งสูงมากจนไม่มีความคิดนึกใดๆอยู่เลย ก็แสดงว่าจิตเริ่มมีสมาธิขั้นสูงแล้ว(เริ่มเกิดฌานระดับต้น) ซึ่งก็ต้องหมั่นฝึกอยู่เสมอๆ จิตก็จะเลื่อนสู่สมาธิขั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ
» บทที่ ๑ หลักพุทธศาสนาโดยสรุป
» บทที่ ๒ หลักพื้นฐานพุทธศาสนา
» บทที่ ๑๑ ชาวพุทธ และศาสนพิธี