สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
สมุนไพรไทย ต้านโรคมะเร็ง
ปัจจุบันมีประชาชนส่วนใหญ่ที่หันมาดูแลสุขภาพกันด้วยการออกกำลังกายหรือ
แม้การกระทั่งการกินยาสมุนไพรเพื่อป้องกันโรคร้ายอย่างเช่นโรคมะเร็ง
ได้มีการสรุปสถิติการเสียชีวิตของประชาชนในประเทศไทยจากโรคมะเร็งว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
และกว่าที่เราจะรู้ตัวมันก็สายเกินไปที่จะรักษาได้
เราควรหันกลับมากินสมุนไพรไทยกันดีกว่า
ถึงแม้ว่าจะมีรสขมแต่สรรพคุณของมันก็แสนจะวิเศษเพราะสามารถป้องการเกิดโรคมะเร็งได้
และที่สำคัญสามารถหารับประทานได้ง่ายเพราะมันมีอยู่ตามท้องถิ่น ราคาถูก
มีผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยมาก
ดีกว่าการรับประทานยาของแพทย์แผนปัจจุบันซึ่งจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายมากกว่าหลายเท่า
ในสมัยนนี้มีการพัฒนาและแปรรูปผลิตภัณฑ์ของสมุนไพรมาเป็นในรูปของแค็ปซูล
ทำให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น
สมุนไพรจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราเลือกกินเพื่อสุขภาพ
ถึงแม้ว่าการรับประทานสมุนไพรจะมีรส
กลิ่นและสีที่ไม่น่ารับประทานหรือเห็นผลการรักษาที่ช้าก็ตามแต่มันมีความปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากกว่า
การรับประทานยาที่มีสารสกัดจากเคมีจึงทำให้เด็กวัยรุ่นสมัยนี้มองข้ามและคิดว่าล้าสมัยแต่ถ้าเราลองเปลี่ยนความคิดดู
เราจะเห็นได้ว่าสมุนไพรมันมีสรรพคุณที่มหาศาลทั้งแสนมหัศจรรย์เพราะสามารถรักษาโรคได้สารพัด
และมีประโยชน์อีกมากมายซึ่งในประเทศไทยมีสมุนไพรหลายตัวที่นำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
กระเทียม
เมื่อเราพูดถึงกระเทียมเราจะนึกออกได้ว่ามันจะมีกลิ่นที่ฉุนซึ่งถ้ารับประทานเข้าไปมากๆก็จะทำให้มีกลิ่นปากหรือแม้กระทั่งกลิ่นกระเทียมที่มาติดมือ ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้บางคนกลัวว่าคนที่อยู่รอบข้างจะไม่ชอบเพราะมันมีกลิ่นที่ฉุน กระเทียมหรือชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า อัลเลียม ซาติวัม (Allium sativum) ที่มาจากภาษาเซลติก เป็นสายพันธ์พืชเก่าที่มีข้อเสียเพียงข้อเดีย คือ มีกลิ่นอันแสนร้ายกาจที่ฉุนเอามากๆ แต่ภายกลิ่นอันแสนฉุนนั้นมันแฝงไปด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว
กระเทียมเป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นใต้ดินเรียกว่า หัว สารสำคัญในกระเทียม คือ อัลลิซิน เป็นสารที่ให้กลิ่นและรสในกระเทียม,เควอร์เซตินและแคมป์ฟีรอล เป็นสารฟลาโวฟอยล์พบมากในหัวหอมใหญ่ ผลแอปเปิล ต้นกระเทียม ผลฝรั่ง ชาขาว มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ลดและชะลอความเสียหายของเซลล์ และอวัยวะในร่างกายจากการทำลายอนุมูลอิสระ,ซีลีเนียม เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกายแต่ต้องการในปริมาณน้อย เป็นสารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้จะทำหน้าที่คล้ายวิตามินอี เป็นตัวต้านไม่ให้ออกซิเจนหลุดออกจากเม็ดเลือดแดงและทำให้เลือดบริสุทธิ์สามารถป้องกันโรคหัวใจได้, อัลลิไทอามีน เป็นวิตามิน บี ชนิดพิเศษช่วยบำรุงประสาทให้แข็งแรง สามารถทำงานได้อย่างปกติ
ในตำราโบราณอ้างว่ากระเทียมสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ เช่น ฮิปโปรเครติส
เขียนไว้ในตำราแพทย์ว่า กระเทียมใช้รักษาโรคมะเร็งที่มดลูก และตำรา Bower
Manuscript (ค.ศ.450) ของอินเดียใช้กระเทียมรักษามะเร็งในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐยืนยันผลการศึกษาล่าสุดว่า
กระเทียมสามารถป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดได้
โดยคณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา กล่าวว่า ผู้ที่รับประทานกระเทียมดิบ
หรือกระเทียมที่มีการปรุงให้สุกแล้ว
สามารถลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ครึ่งหนึ่ง
และที่สำคัญกระเทียมยังสามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้ถึง 2 ใน 3
และไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายเลย
บอระเพ็ด
ถ้าเรานึกถึงสมุนไพรอย่างบอระเพ็ดคนที่เคยกินจะบอกเป็นคำเดียวกันว่า ขมมากมากจนสามารถทำให้เด็กหย่านมแม่ได้ขาด และด้วยความขมของมันทำให้คนสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งการนำบอระเพ็ดมารับประทานบางคนก็จะเคี้ยวสดๆ บางคนก็ทำเป็นยาลูกกลอนผสมกับน้ำผึ้งทำให้เรารับประทานง่ายขึ้น
บอระเพ็ดเป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อนเถาอ่อนผิวเรียบบสีเขียว เถาแก่สีน้ำตาลอมเขียว
ผิวขรุขระ เป็นปุ่มๆยางมีรสขมจัด สารสำคัญในบอระเพ็ด คือ พิโครเรติน ( picroretin )
เป็นสารที่ทำให้บอระเพ็ดมีรสขม และเอ็นทรานส์เฟรูโลอิลไทรามีน
(N-trans-feruloyltyramine) มีสรรพคุณช่วยในการระงับความร้อนได้ดี สามารถลดอาการไข้
ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นที่มาของโรคมะเร็ง
บอระเพ็ดมีสาร 2 ชนิดที่สามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งได้
ซึ่งสารชนิดนี้มีอยู่ในเถาของบอระเพ็ด ได้แก่
สารพิโครเรตินและสารเอ็นทรานส์เฟรูโลอิลไทรามีน
มีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสารก่อมะเร็งโดยมีฤทธิ์ยับยั้งมะเร็งในเม็ดเลือด
มะเร็งในท่อน้ำดี เป็นต้น
พลูคาว
เป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่พบในประเทศต่างๆ แถบเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอินโดจีน และประเทศไทยทางภาคเหนือ โดยจะมีลักษณะที่แตกต่างจากพลูชนิดอื่นๆ คือที่ใต้ใบของพลูคาวจะมีสีแดงอ่อนไปจนถึงสีแดงเข้ม ชาวบ้านในภาคเหนือเรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า ผักคาวตอง
ตำราไทยโบราณ ใช้ใบพลูคาวแก้กามโรค หนองใน เป็นแผลเปื่อยผุพองทำให้น้ำหนองแห้ง แก้โรคผิวหนัง ผอกฝี เป็นต้น สารสำคัญในพลูคาว คือ น้ำมันหอมระเหย สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ สารกลุ่มแอลคาลอยด์ ที่สำคัญพลูคาวยังสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย ซึ่งรายงานการวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสมุนไพรพลูคาวพบว่ามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการสลายตัวของโปรตีนและป้องกันการแพ้ชนิดรุนแรงได้ โดยฤทธิ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อการรักษาโรคมะเร็งได้และมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งเช่น เซลล์มะเร็งปอด เซลล์มะเร็งรังไข่ เป็นต้น
หากผู้ป่วยดื่มน้ำต้มพลูคาวบำรุงร่างกายสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วยมะเร็งได้
ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้มาก
ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นและยืดอายุของผู้ป่วยได้นานกว่าการรักษาโดยแพทย์ปัจจุบัน
สมอไทย
เป็นสมุนไพรธรรมดาๆชนิดหนึ่ง ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันมาช้านานถึงต้นกำเนิดของสมอไทยอันศักศิทธิ์ว่า ครั้งหนึ่งพระอินทร์กำลังเสวยน้ำอมฤตแล้วบังเอิญน้ำอมฤตหยดหนึ่งหกลงมาบนพื้นโลกกลายเป็นต้นสมอไทย มีสรรพคุณรักษาได้สารพัดโรคและที่สำคัญมันมีความพิเศษกว่าสมุนไพรชนิดอื่นคือเป็นสมุนไพรที่มีเกือบทุกรส ได้แก่ รสเปรี้ยว หวาน ฝาด ขมเผ็ด แถมยังมีรสเค็มและรสเมาแทรกอีกต่างหาก เห็นแล้วใช่ไหมว่าลูกสมอไทยมีความวิเศษสมยานามจริงๆ
สารสำคัญในสมอไทย ได้แก่ สารแอนทราควิโนน ในผลอ่อนมีฤทธิ์เป็นยาระบายเพื่อช่วยในการขับถ่าย, สารแทนนิน ในผลแก่ มีรสฝาดแต่จะมีฤทธิ์เป็นยาช่วยในการสมานแผล สมอไทยกับการรักษาโรคมะเร็ง จากการค้นคว้าวิจัยและทดลองด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่าสารสำคัยตัวหนึ่งในลูกสมอไทย เมื่อทำการสกัดออกมาด้วยเมทานอล 70 % จะมีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระได้ถึง 92% และสามารถทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ ซึ่งเป็นสารสกัดที่พบในพืชสกุล terminalia จึงสามารถยืนยันได้เลยว่า การกินสมอไทยสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้
มีการรับรองจาก คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ว่าลูกสมอไทยมีฤทธิ์ในการยับยั้งและสามารถทำลายเซลล์มะเร้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
100% และถ้านำลูกสมอมาใช้ร่วมกับลูกสมอพิเพก และลูกมะข้ามป้อมที่เรียกร่วมกันว่า
ตรีผลายา จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการเซลล์มะเร็งได้มากยิ่งขึ้น และสมุนไพรตัวต่อมา
ทองพันชั่ง
เป็นพืชที่ไม่ชอบร่มเงามากนัก
ทางการแพทย์แผนโบราณได้ใช่ทองพันชั่งในการรักษาโรคตับอักเสบ โรคผิวหนัง พุพอง
น้ำเหลืองเสีย แก้ปวดกระดูก เป็นต้น เพราะในทองพันชั่งงจะมีสารไรนาแคนทิน
ที่สามารถยับยั้งแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้
สารสำคัญในทองพันชั่งคือสารประกอบไรนาแคนทิน มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง
เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส
เกลือ เป็นสารที่ออกฤทธิ์ในสมุนไพรใช้เป็นยาเพื่อขับปัสสาวะ
ส่วนการนำทองพันชั่งมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งนั้นได้ทำการวิจัยทำการทดลอง
สังเคราะห์สารอนุพันธ์แนพโทควิโนนเอสเทอร์ จากสารต้นแบบที่ได้จากต้นทองพันชั่ง
โดยสารดั่งกล่าวมีฤทธิ์ในการยับยั้งมะเร็งเยื่อบุช่องปาก มะเร็งเต้านม
และมะเร็งมดลูกได้สำเร็จ
ทั้งนี้ยังมีข้อควรระวัง คือ ห้ามผู้ป่วยโรคโลหิตจาง โรคหัวใจ โรคหืด
โรคความดันโลหิตต่ำ โรคมะเร็งเม็ดเลือด
และการรับประทานทองพันชั่งงให้นำใบทองพันชั่งดอกสีเหลือง ใบเลี่ยน
ไปทำการตากแดดให้แห้งเสียก่อน จากนั้นก็นำไปคั่วแล้วชงเป็นน้ำชาเพื่อรับประทาน
สามารถแก้โรคมะเร็งอีกขนานหนึ่งเลยทีเดียว
สมุนไพรทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
แต่สมุนไพรที่สามารถต้านโรคมะเร็งได้นั้นยังมีอีกหลายตัว
และที่สำคัญยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทุกคนจะหันมาดูแลสุขภาพกันให้ห่างไกลจากภัยโรคร้าย
ถ้าเรารับประทานอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอก็จะช่วยให้เราสป้องกันโรคมะเร็งได้
ยังไม่สายเกินไปที่เราจะเห็นคุณค่าของยาวิเศษขนานนี้
และนี่คือความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทย
อ้างอิง
หนังสือเรื่องราชายาขม 9 สมุนไพรกันมะเร็ง ( สมุนไพรต้านมะเร็ง
กระเทียม พลูคาว บอระเพ็ด สมอไทย ทองพันชั่ง )
http://www.google.co.th/imglanding
» กานพลู
» สมุนไพรรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
» ประโยชน์และโทษ สรรพคุณสมุนไพรจีน
» ชะคราม วัชพืชสมุนไพรต้านอนุมูลอิสระในป่าชายเลน
» มะรุม
» สะระแหน่