สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์ / อ.วิชาญ

องค์กรบริหาร

องค์กรต่าง ๆ ที่เป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยในนามของพระมหากษัตริย์ คือ รัฐสภา คณะรัฐมนตรีและศาล

บทบาทและหน้าที่ของรัฐสภา
- ร่างพระราชบัญญัติจะตราขึ้นเป็นกฎหมายก็โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา หน้าที่ของรัฐสภา คือการให้คำแนะนำและยินยอมในการตราพระราชบัญญัติขึ้นเป็นกฎหมาย กล่าวอีกนัยคือ รัฐสภามีหน้าที่ในการพิจารณาและอนุมัติร่างกฎหมายหรือใช้อำนาจนิติบัญญัติ

บทบาทและหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
- พระมหากษัตริย์ทรงตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 44 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน หรือ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือคณะรัฐมนตรีเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจบริหาร

บทบาทและหน้าที่ของศาล
- การพิจารณาอรรถคดี เป็นอำนาจของศาลซึ่ง จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการคือ ศาล

ตามทฤษฎีกฎหมายรัฐธรรมนูญอาจจะแบ่งประเภทผู้ใช้อำนาจบริหารได้เป็น

1. ประมุขของรัฐ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งพระมหากษัตริย์และประธานาธิบดี

พระมหากษัตริย์ ในปัจจุบันประมุขของรัฐที่เป็นพระมหากษัตริย์ส่วนใหญ่จะไม่มีบทบาทในการบริหารประเทศ

คงเป็นเพียงแต่ประธานในการประกอบรัฐพิธีต่างๆ ส่วนหน้าที่ในการบริหารประเทศจะเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ คือจะมีองค์กรหนึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ซึ่งโดยทั่วไปได้แก่คณะรัฐมนตรีอันมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปจะเป็นการกระทำในนามของพระมหากษัตริย์

ประธานาธิบดี ในปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะมีประมุขของรัฐในรูปแบบของประธานาธิบดี โดยปกติ จะมาจากการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตามวาระที่กำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยทั่วไปฐานะ และอำนาจหน้าที่ของประธานาธิบดีของแต่ละประเทศย่อมแตกต่างกันออกไปแล้วแต่กฎหมายของแต่ละประเทศ แต่โดยหลักใหญ่ ๆ แล้ว สามารถที่จะจำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ (1) ประธานาธิบดีซึ่งมีฐานะเป็นประมุขของรัฐ แต่เพียงอย่างเดียว (2) ประธานาธิบดีซึ่งมีฐานะเป็นประมุขของรัฐและเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารด้วย

2. หัวหน้าฝ่ายบริหาร บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศต่าง ๆ อาจจะมีการเรียกชื่อที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อศึกษาถึงที่มาของผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหาร อำนาจความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรบริหาร และองค์กรนิติบัญญัติแล้ว อาจแบ่งระบบการปกครองออกเป็น 2 ประเภท

  1. การปกครองในระบบประธานาธิบดี จะมีประธานาธิบดีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง อาจจะเป็นการเลือกตั้งโดยตรงหรือเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อม ในการศึกษาการปกครองระบบประธานาธิบดี จะต้องศึกษาระบอบการปกครองของประเทศสหรัฐและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแม่แบบของการปกครองในระบอบนี้
  2. การปกครองแบบรัฐสภา จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ซึ่งผู้ที่ดำรงตำแหน่งนี้จะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในองค์กรนิติบัญญัติ ประเทศที่มีการปกครองระบบนี้จำลองรูปแบบมาจากการปกครองของประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นแม่แบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

3. คณะรัฐมนตรี
4. รัฐมนตรี

ในการปกครองระบบรัฐสภา ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร จำเป็นต้องมีบุคคลคณะหนึ่งเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจในการบริหารประเทศ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปในประเทศต่างๆ จะเรียกว่าคณะรัฐมนตรี

บุคคลในคณะรัฐมนตรีจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงและทบวงต่างๆ คณะรัฐมนตรีหรือ รัฐมนตรีอาจถูกตั้งกระทู้ถามและถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากรัฐสภาได้ ซึ่งแตกต่างจากระบบประธานาธิบดี ซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีจะไม่มีความสัมพันธ์หรือไม่มีความรับผิดชอบต่อรัฐสภา ดังนั้นรัฐสภาจึงไม่มีอำนาจในการที่จะตั้งกระทู้ถามหรือลงมติไม่ไว้วางใจเหมือนอย่างระบบรัฐสภา

ความหมายของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ระบอบการปกครองแบบเผด็จการ
รูปแบบการปกครองแบบเผด็จการในระบบทุนนิยม “ฟาสซิสม์”
องค์กรนิติบัญญัติ
วิวัฒนาการทางการปกครองของประเทศอังกฤษ
ความเป็นมาขององค์กรนิติบัญญัติ ในระบอบประชาธิปไตยของไทย
ลักษณะของรัฐสภา
อำนาจหน้าที่ของรัฐสภา
การเลือกตั้ง
องค์กรบริหาร
อำนาจหน้าที่ขององค์กรบริหาร

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย