สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
พล.ร.ต. สุริยา ณ นคร ,วรันยา พวงพงศ์
-
การอบไอน้ำ
การอบไอน้ำ
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า การบำบัดด้วยความร้อนเปียก (Steam Bath)
เป็นวิธีการใช้น้ำเพื่อสุขภาพ ที่พบได้ในสังคมตะวันตก และตะวันออก
ไอน้ำสามารถเก็บและถ่ายเทความร้อนให้ร่างกายได้ดีเท่าๆกับ ขณะอาบแช่ในน้ำ
และใช้อุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส
ผลของความร้อนจะมีต่อร่างกายเช่นเดียวกับการอาบแช่ในน้ำร้อน
ขณะอบไอน้ำร่างกายจะได้รับผลจากการสูดหายใจอากาศที่มีไอน้ำอยู่มากเข้าทางปอดด้วย
ดังนั้นการอบไอน้ำอาจใช้ร่วมกับสมุนไพรหรือน้ำมันหอมระเหยตามวิธีการบำบัดรักษา
โดยใช้กลิ่นหรือคันธบำบัด (Aromatherapy)
ไอน้ำร้อนจะเป็นตัวพากลิ่นเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจเพื่อส่งผลต่อร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้น
การบำบัดด้วยไอน้ำนี้ นอกจากจะอบทั้งร่างกายแล้วอาจใช้เฉพาะที่สำหรับสูดหายใจ
น้ำมันหอมระเหยกับไอน้ำร้อนหรือใช้ร่วมกับสมุนไพร
การบำบัดในอ่างน้ำวน (Whirl pool and Jacuzzi treatment)
การบำบัดในอ่างน้ำวนเป็นรูปแบบการใช้น้ำเชิงรับโดยการลงอาบแช่น้ำอุ่นใน
อ่างน้ำวนที่มีหัวฉีดที่พ่นน้ำออกมานวดส่วนต่างๆของร่างกาย
และมีเครื่องเป่าลมพ่นฟองอากาศออกมาผสมในน้ำด้วย
อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับอ่างน้ำวนคือ 30-40 องศาเซลเซียส
การแช่ในอ่างน้ำวนทำให้เกิดความผ่อนคลายเช่นเดียวกับการอาบแช่น้ำ
กระแสน้ำและฟองอากาศที่สัมผัสส่วนต่างๆของร่างกายจะกระตุ้นประสาทสัมผัสที่ผิวหนัง
และกดนวดเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังให้ลดการเกร็งตัว
และมีการถ่ายเทไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองด้วย
ในสถานพยาบาลใช้อ่างน้ำวนสำหรับการบำบัดรักษาโรคต่างๆและการบาดเจ็บ
รวมทั้งใช้สำหรับรักษาบาดแผลที่มีการติดเชื้อด้วย
ประโยชน์ของการใช้อ่างจากุซซี่ (Jacuzzi)
1.
ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ
2. ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย คลายเครียด
3. ช่วยทำให้นอนหลับสลาย
4. ช่วยลูกค้าที่มีปัญหาโรคข้อ ทำให้อาการปวดดีขึ้น
5. ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
ข้อควรระวังของการใช้อ่างจากุซซี่ (Jacuzzi)
1.
ไม่ควรใช้อ่างจากุซซี่กับลูกค้าที่กำลังครรภ์
2. ไม่ควรใช้อ่างจากุซซี่กับลูกค้าที่เป็นเส้นเลือดขอด
3.
ไม่ควรใช้อ่างจากุซซี่กับลูกค้าที่มีความไวต่อความร้อนของน้ำ
การแช่ตัวในอ่างน้ำ (Baths)
เป็นที่นิยมของชาวกรีกและโรมันมาตั้งแต่สมัยโรมันจะเห็นว่า Hippocrates
ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งการแพทย์นั้น
ได้แนะนำให้ใช้น้ำเย็นในการบรรเทาอาการบวมและช่วยลดอาการลงได้
การอาบราด
การอาบราดด้วยน้ำรวมทั้งการอาบน้ำฝนและการอาบน้ำฝักบัว
เป็นวิธีใช้น้ำเพื่อสุขภาพในชีวิตประจำวันของคนที่อยู่อาศัยในเขตภูมิอากาศร้อนชื้น
ซึ่งสามารถใช้น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติตามแม่น้ำลำคลองต่างๆ
เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกและเหงื่อไคลจากร่างกายได้บ่อยๆ
โดยไม่ต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำพุร้อนหรือน้ำแร่ร้อน การอาบน้ำฝน
หรือน้ำฝักบัวมีผลเช่นเดียวกับการอาบราด ในสปาตะวันตกมีการบำบัดเรียกว่า vichy
shower โดยใช้น้ำอุ่นฉีดโปรยจากฝักบัวจำนวนหลายๆอันลงบนร่างกายที่นอนราบบนเตียง
เพื่อทำให้เกิดความผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
การรดน้ำ ปะพรมน้ำ และการสรงน้ำ
เป็นรูปแบบการใช้น้ำในวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของคนไทย
การใช้น้ำในพิธีกรรมทางวัฒนธรรมไทยเหล่านี้ส่งผลต่อมิติด้านจิตใจ และจิตวิญญาณสูง
ก่อให้เกิดความศรัทธาและเชื่อมั่น
ในทางสรีรวิทยาการปะพรมน้ำให้สัมผัสส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะที่ใบหน้า
จะทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางสรีรวิทยาที่ทำให้มีเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้นชั่วครู่
และอาจะเป็นเหตุผลที่ใช้อธิบายความรู้สึกสดชื่นที่เกิดขึ้นได้
การฉีดพ่นร่างกายด้วยน้ำ (Douche)
มีหลายรูปแบบรู้จักกันในนาม
Affusion shower , Rain shower หรือ Vichy shower
ซึ่งเป็นการบำบัดด้วยน้ำโดยให้ลูกค้านอนอยู่บนเตียง ในขณะที่มีราวฝักบัวประมาณ 5
หัว หรือมากกว่า โปรยน้ำลงมาด้วยความแรง ของน้ำพอสมควร
ปกติใช้น้ำอุ่นเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายอย่างล้ำลึก ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
ช่วยบรรเทาการคั่งของน้ำเหลือง
แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับลูกค้าที่มีประวัติต่อมน้ำเหลืองโตหรือสตรีที่กำลังตั้งครรภ์
สปาบางแห่งจะมีการนวดภายใต้กระแสน้ำที่โปรยลงมาให้กับลูกค้าด้วย
ข้อควรระวัง
ควรดูแลเกี่ยวกับอุณหภูมิของน้ำที่ใช้และอุณหภูมิของห้อง
ไม่ให้ร้อนหรือเย็นจนเกินไป Scotch Hose หรือ Jet Shower เป็นเทคนิคการบำบัดด้วยน้ำ
โดย Therapist ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี มีความรู้เกี่ยวกับกายวิภาคและสรีรวิทยา
โดยจะใช้หัวเจ็ทที่มีแรงของน้ำสูงมาฉีดไปตามร่างกายของลูกค้าโดยลูกค้าจะยืนห่างจาก
Therapist ประมาณ 4 เมตร ปกตินิยมใช้น้ำอุ่น
เพราะจะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง
ข้อควรระวัง Scotch Hose หรือ Jet Shower
1.
ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติเส้นเลือดขอด
2. ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติโรคหัวใจ
3. ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติเป็นโรคความดัน
4. ไม่ควรใช้กับลูกค้าขณะร่างกายมีการอักเสบ
5. ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่กำลังตั้งครรภ์
Swiss Shower
เป็นเทคนิคการบำบัดด้วยน้ำ โดยมีหัวเจ็ท 9
หัวหรือมากกว่าฉีดน้ำออกมาตั้งแต่ศีรษะถึงบริเวณด้านข้างลำตัว
ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
อีกทั้งช่วยบรรเทาปวดหลังเรื้อรังได้
ข้อควรระวัง
1.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติโรคหัวใจ
2.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติเกี่ยวกับเส้นเลือด เส้นเลือดขอด
การลอยตัวในน้ำ (Floatation) หรือ Isolation Tank
คือการนอนลอยตัวในอ่างน้ำพิเศษ
ที่บรรจุน้ำผสมเกลือยิปซั่มที่มีความถ่วงจำเพาะสูงจนสามารถพยุงให้ตัวลอยน้ำได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุง
การลอยตัวในน้ำจะทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายอย่างลึกซื้งเพราะแรงดึงดูดของโลกหมดไป
ทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายผ่อนคลายและมีความตึงตัวน้อยลง
การลอยตัวในน้ำมีจุดมุ่งหมายให้เกิดความสงบและลดความตึงเครียด
และมักใช้แสงและเสียงที่เหมาะสมประกอบด้วย
ข้อแนะนำก่อนการใช้เทคนิคการลอยตัว
1. ถอดเครื่องประดับทุกชนิดออก
2. อาบน้ำให้สะอาดก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้รวมไปถึงการล้างหน้าเอาเครื่องสำอางออก
3. รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและรับประทานก่อนก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
4. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอกลอฮอล์ก่อนใช้บริการ
5.
ควรดื่มน้ำสะอาดก่อนใช้บริการ
ข้อแนะนำหลังการใช้การลอยตัว
1. ดื่มน้ำสะอาดหลังการใช้บริการ
2. อาบน้ำการใช้บริการ
ประโยชน์ของการใช้เทคนิคการลอยตัว
1. ช่วยคลายตัวช่วย
2. ช่วยให้เกิดการผ่อนคลายอย่างล้ำลึก
3. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้
4. ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย
5. ช่วยเพิ่มการไหลของโลหิตในร่างกาย
6. ช่วยลดอาการตึงตัวกล้ามเนื้อ
7.ช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลง
ข้อควรระวังของการใช้เทคนิคการลอยตัว
1. ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่กลัวความมืด
2.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติทางด้านอารมณ์และจิตใจแปรปรวน
3.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีโรคลมชัก
4.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติโรคหัวใจ
5.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติโรคไต
6.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติโรคเบาหวาน
7.ไม่ควรใช้กับลูกค้าที่มีประวัติโรคผิวหนัง