เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกไม้ดอกกระถาง
โรคของไม้ดอกกระถาง
ไม้ดอกไม้ประดับเป็นพืชที่สำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทย ก่อให้เกิดรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูก จากการใช้กันภายในประเทศและจากการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศสามารถก่อให้เกิดรายได้เป็นกอบเป็นกำแก่ผู้ปลูก ทั้งรายที่เป็นมืออาชีพและรายสมัครเล่น จนสามารถยึดเป็นอาชีพหลักและอาชีพรอง และเมื่อเปรียบเทียบกับพืชอื่น ๆ อีกหลายชนิดแล้ว ไม้ดอกไม้ประดับเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง
ในกลุ่มของไม้ดอกไม้ประดับนั้น
ไม้ดอกกระถางได้รับความสนใจนิยมจากผู้บริโภคมากกว่าสมัยก่อน
และมีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าพืชอื่น ๆ
เนื่องจากพื้นที่ของบ้านเรือนที่อยู่อาศัยลดน้อยลง
และการใช้ชีวิตในสังคมเมืองที่รีบเร่ง
ประกอบกับไม้ดอกกระถางมีความต้องการพื้นที่ไม่มาก มีความสวยงามหลายหลาก
และบางชนิดสามารถปลูกและดูแลรักษาง่าย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ
จึงทำให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวข้อกับการปลูกไม้ดอกกระถางอย่างมากมาย
แม้ว่าการปลูกไม้ประดับรวมทั้งไม้ดอกกระถางจะก่อให้เกิดรายได้อย่างงดงามแก่ผู้ปลูกก็ตาม
และแม้ว่าไม้กระถางบางชนิดจะสามารถปลูกเลี้ยงดูได้ง่าย
แต่ปัญหาการปลูกเลี้ยงดูให้เจริญงอกงามและรักษาป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายก็มีอยู่มิใช่น้อย
ปัญหาสำคัญเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดกับต้นพืช
อย่างหนึ่งนั้นเป็นผลที่เกิดจากการทำลายของโรค
ที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในด้านคุณภาพ ความสวยงามที่ลดต่ำลง
หรือความผิดปกติที่เกิดกับส่วนของต้นพืช
ซึ่งจะทำให้เกิดความกังวลแก่ผู้ปลูกหรือได้รับการปฏิเสธจากผู้บริโภค
ระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับไม้ดอกไม้ประดับมีความสัมพันธ์โดยตรงกับคุณภาพทางการตลาด
เนื่องจากการใช้ประโยชน์จากไม้ดอกไม้ประดับนั้นจะใช้ประโยชน์จากความสวยงามเป็นหลัก
ความเสียหายหรือความผิดปกติจากการทำลายของโรคหรือศัตรูพืช แม้เพียงเล็กน้อย
แต่บางครั้งอาจจะถือว่าคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพทางการตลาด
และไม่เป็นที่ยอมรับหรือไม่ต้องการของผู้บริโภค
ดังนั้นการดูแลปฏิบัติไม้ดอกไม้ประดับหรือไม้กระถาง
จึงเป็นเรื่องที่ต้องการความปราณีตและพิถีพิถันพอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
การป้องกันความเสียหายหรือการรักษาอาการผิดปกติของไม้ดอกกระถางมีวิธีการต่าง ๆ หลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุของความเสียหายหรือความผิดปกติ ชนิดของพืช และการพิจารณาตัดสินใจตามหลักวิชาการ ผู้ปลูกเลี้ยงพืชหรือเกษตรกรบางรายอาจตัดสินใจใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีวางจำหน่ายอยู่อย่างแพร่หลาย เพื่อควบคุมความเสียหายหรือการทำลายของโรค ซึ่งหลายรายปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติโดยไม่ถูกต้องเช่น เลือกชนิดของสารเคมีไม่ถูกต้องตรงกับสาเหตุของโรค ปฏิบัติไม่ละเอียดถี่ถ้วนตามคำแนะนำในรายละเอียดของสารเคมี ทั้งในด้านของอัตราการใช้ วิธีการฉีดพ่น และข้อระมัดระวังอื่น ๆ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างไม่ถูกต้อง และอาจก่อให้เกิดผลเสียหายข้างเคียงตามมา เช่น การปนเปื้อนของสารเคมีในสภาพแวดล้อม การเป็นอันตรายหรือความเป็นพิษต่อผู้ปลูกหรือผู้บริโภค รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มหรือสิ้นเปลืองไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และกลายเป็นต้นทุนของการผลิตที่สูงขึ้นสำหรับผู้ปลูกหรือผู้ผลิต โดยอาจจะยังคงมีความเสี่ยงต่อความล้มเหลวในการควบคุมความเสียหาย หรือการรักษาความผิดปกติของพืชได้
การตัดสินใจใช้ หรือเลือกใช้วิธีการใด ๆ เพื่อการป้องกันกำจัดศัตรูพืชหรือโรคพืช หรือ การควบคุมความเสียหายและรักษาอาการผิดปกติของพืชที่เกิดจากศัตรูพืชหรือโรคพืช ของผู้ปลูกเลี้ยงหรือเกษตรกรผู้ผลิต จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับต้นพืช การเลี้ยงดูปฏิบัติที่ถูกต้องกับชนิดของพืช การให้ปุ๋ยและแร่ธาตุอาหาร การให้น้ำ ต้องรู้หรือเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะอาการผิดปกติหรือความเสียหายที่เกิดจากศัตรูพืช ชนิดหรือสาเหตุของความผิดปกติหรือความเสียหาย สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเกิดอาการผิดปกติ การระบาดของอาการผิดปกติ ตลอดจนวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถเลือกนำมาปฏิบัติเพื่อป้องกันควบคุมความเสียหายนั้น ๆ ได้
ชนิดหรือสาเหตุของโรคไม้ดอกกระถาง
เนื่องจากพืชที่จัดเป็นไม้ดอกกระถาง หรือเป็นไม้ดอกที่สามารถปลูกในกระถาง
หรือใช้ประโยชน์ในสภาพที่ปลูกอยู่ในกระถางนั้น
ประกอบด้วยพืชกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่มีความหลากหลายของพันธุ์พืช
แตกต่างกันหลายชนิดหลายวงศ์ ตั้งแต่พืชล้มลุก พืชกึ่งล้มลุก และพืชยืนต้น
ดังนั้นโรคหรืออาการผิดปกติที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ
ของพืชไม้ดอกกระถางจึงมีความหลากหลาย ทั้งเหมือนและแตกต่างไป
การจำแนกชนิดหรือสาเหตุของโรคที่ทำให้เกิดความเสียหายและความผิดปกติกับไม้ดอกกระถาง
เป็นกลุ่มหรือหมวดหมู่สามารถทำให้ง่ายและเกิดความเข้าใจชนิด
หรือสาเหตุของโรคที่ทำให้เกิดความเสียหายกับพืช
และสามารถทำให้เข้าใจในการเลือกวิธีการควบคุม
ป้องกันความเสียหายที่เกิดหรืออาจจะเกิดขึ้นได้
ชนิดหรือสาเหตุของโรคพืชหรือโรคของไม้ดอกกระถาง สามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ คือ
1. สาเหตุของโรคซึ่งเป็นสิ่งที่มีชีวิต โรคหรืออาการผิดปกติที่เกิดจากสาเหตุในกลุ่มนี้ อาจเกิดหรือปรากฎได้กับทุกส่วนของต้นพืช เป็นโรคที่เกิดขึ้นแล้วสามารถแพร่ระบาดหรือกระจายจากต้นที่เป็นโรคไปยังต้นอื่น ๆ ที่อยู่ข้างเคียง หรือแปลงปลูกอื่น ๆ ได้ บางครั้งเรียกโรคในกลุ่มนี้ว่า โรคระบาดหรือโรคติดเชื้อ สาเหตุในกลุ่มนี้ได้แก่
- พืชชั้นสูง ได้แก่ พืชที่มีการสร้างดอก
พืชชั้นสูงชนิดที่สามารถเข้าทำลายต้นพืชที่ปลูก และทำให้พืชเกิดอาการผิดปกติ
ได้แก่ กาฝาก ฝอยทอง เกร็ดนาคราช
พืชชั้นสูงที่เป็นปรสิตเหล่านี้มักขึ้นหรือเจริญบนพืชอื่น ๆ
โดยเฉพาะไม้ผลและพืชยืนต้น ทำให้ต้นพืชถูกแย่งอาหารไม่ออกดอกผล และอาจตายได้
- สาหร่าย โดยเฉพาะสาหร่ายที่มีชื่อว่า เซฟาลูโรส (Cephaleuros)
สามารถเจริญบนส่วนของพืช เช่น ใบ ผล กิ่ง และลำต้น ทำให้เกิดเป็นจุด ๆ
สีเขียวถึงสีน้ำตาลเขียว อาจทำให้ใบเหลืองและร่วง
ทำให้กิ่งและลำต้นมีสีเขียวปนน้ำตาล ดูสกปรก
และอาจทำให้ต้นพืชมีการเจริญเติบโตน้อยลง
- เชื้อรา เป็นพืชชั้นต่ำชนิดที่สังเคราะห์แสงเพื่อปรุงอาหารเองไม่ได้
ส่วนมากมีลักษณะเป็นเส้นใย มีการสืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์
เชื้อราชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคสามารถเจริญได้บนเซลล์ของพืช
หรือเข้าทำลายโดยเข้าไปเจริญภายในเซลล์พืช สามารถทำลายพืชได้ทุกส่วน
และแย่งดูดกินน้ำเลี้ยงจากเซลล์พืชมาเลี้ยงหรือเพื่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- เชื้อแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมาก มีลักษณะเป็นเซลล์เดียว
ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ยกเว้นในกรณีที่อยู่เป็นกลุ่ม (โคโลนี)
บนอาหารเลี้ยงเชื้อในห้องปฏิบัติการ จะมีลักษณะเป็นเมือกของเหลวเหนียวข้น
แบคทีเรียชนิดที่ทำให้พืชเกิดโรคได้สามารถทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น อาการเน่า
ใบไหม้ ใบเป็นจุด ใบเป็นแผลสะเก็ด อาการเหี่ยว เป็นต้น
- ไวรัส มีลักษณะเป็นอนุภาค มีขนาดเล็กมาก
ไม่สามารถมองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบธรรมดา ต้องใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูงมาก
ๆ หากเข้าทำลายพืชมักทำให้เกิดอาการใบด่าง ยอดบิด ต้นเตี้ย แคระแกร็น
เป็นเชื้อที่สามารถเพิ่มหรือขยายจำนวนได้ภายในเซลล์ของพืช
- ไวรอยด์ เป็นเชื้อที่คล้ายไวรัส และมีองค์ประกอบบางส่วนแตกต่างจากไวรัส
แต่มีขนาดเล็กกว่าไวรัส
ไวรอยด์ที่เป็นสาเหตุของโรคมีเพียงชนิดที่ทำให้เกิดโรคกับพืช
- มายโคพลาสมา เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่มีผนังเซลล์
มีขนาดอยู่ระหว่างแบคทีเรียและไวรัส เมื่อเข้าทำลายพืชจะอยู่ภายในเซลล์พืช
ทำให้พืชเกิดการผิดปกติต่าง ๆ เช่น ใบมีขนาดเล็กลง แตกเป็นกระจุก
หรือเป็นพุ่มฝอย ดอกเปลี่ยนเป็นสีเขียว แตกตาเป็นกิ่งขนาดเล็ก ๆ เป็นกระจุก
เป็นต้น
- ไส้เดือนฝอย เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำตัวไม่เป็นข้อ ไม่เป็นปล้อง ขนาดเล็กมาก ยาวเพียงประมาณ 0.3-0.4 มิลลิเมตร แต่สามารถมองดูได้โดยการใช้กล้องสเตอริโอหรือกล้องจุลทรรศน์ ไส้เดือนฝอยมักมีรูปร่างผอมยาวหรือโป่งพองจนเป็นถุงกลม ส่วนมากไส้เดือนฝอยมักเข้าทำลายส่วนของรากหรือโคนต้น ทำให้เกิดอาการรากเป็นแผล รากเป็นปม หรือรากกุดงอ
2. สาเหตุของโรคซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ได้แก่ การดูแลปฏิบัติหรือปัจจัยสภาพแวดล้อมของต้นพืชที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้องต่อการเจริญเติบโตของพืช และมีผลทำให้พืชมีลักษณะรูปร่างหรือเกิดอาการผิดปกติ เช่น
- อุณหภูมิสูงเกินไป หรือแสงแดดมากเกินไป ทำให้ต้นพืชเกิดอาการไหม้ลวก
อาจเกิดบนใบหรือผล
หรืออุณหภูมิบริเวณผิวดินที่สูงเกินไปอาจทำให้ต้นอ่อนหรือต้นกล้าของพืชเกิดอาการไหม้ลวกทั้งต้นได้
- แสง (แดด) ไม่เพียงพอ อาจทำให้ใบของพืชมีสีเขียวซีด ลำต้นยืดยาวผิดปกติ
ต้นไม่แข็งแรงหรือไม่ออกดอกผล
- ความชื้นในดินสูง หรือน้ำมากเกินไป อาจทำให้พืชไม่แข็งแรง ใบล่าง ๆ เหลือง
ร่วง เกิดอาการรากเน่าหรือโคนต้นเน่า และต้นพืชอาจตายได้
- ความชื้นในอากาศน้อยหรือต่ำเกินไป มักทำให้ปลายใบหรือขอบใบไหม้แห้ง
ใบอาจบิดเบี้ยว ช่อดอกแห้งร่วง ผลเหี่ยว ต้นพืชเหี่ยว
- อากาศเป็นพิษ (มลภาวะ) เช่น มีหมอกควันหรือละอองฝุ่น
หากปกคลุมใบหรือต้นพืชทำให้ต้นพืชสังเคราะห์แสงได้น้อยหรือไม่ได้
อาจทำให้ใบมีจุดขาวซีดหรือใบเปลี่ยนสีหากในหมอกควันหรือฝุ่นละอองนั้นมีก๊าซพิษหรือสารพิษมาด้วย
- ธาตุอาหารน้อยหรือมากเกินความต้องการ
อาการผิดปกติเกิดบนส่วนหนึ่งส่วนใดของพืชขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของธาตุอาหารนั้น
ๆ เช่น การได้รับธาตุไนโตรเจนน้อยหรือขาด
มักทำให้พืชมีใบสีเขียวอ่อนหรือซีดเหลืองลง ลำต้นผอมและเตี้ยแคระ
พืชมีการเจริญเติบโตลดลง หรือหากพืชได้รับธาตุไนโตรเจนมากเกินไป
ทำให้พืชมีต้นและใบอวบใหญ่ อาจเกิดอาการเฝือใบ ไม่ออกดอกหรือออกดอกน้อยลง
- ความเป็น กรด-ด่าง ของดิน
ดินที่มีความเป็นกรดหรือด่างจัดมากเกินไปทำให้ต้นพืชไม่สามารถใช้ธาตุปุ๋ยได้ตามปกติ
หรืออาจขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุชนิดอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการขาดธาตุอาหารได้
- พิษจากสารเคมีกำจัดวัชชพืช ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น ใบบิดเบี้ยว
ใบด่าง ใบย่น ใบเป็นจุด ใบไหม้หรือซีดเหลือง
- พิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดโรค
การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืชเพื่อการควบคุมโรคอาจเกิดความผิดพลาด เช่น
ใช้ผิดชนิดหรือผิดวิธีการ
โดยเฉพาะการใช้สารที่มีกำมะถันและทองแดงเป็นองค์ประกอบ
อาจทำให้เกิดอาการใบไหม้หรือร่วงได้
- การปฏิบัติดูแลไม่ถูกต้อง ได้แก่ การพรวนดินใกล้รากหรือโคนต้นมากไป อาจทำให้รากขาดหรือโคนต้นเป็นแผล อาจทำให้ต้นเหี่ยว การให้น้ำ การให้ปุ๋ย หากให้โดยไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี หรือไม่ถูกต้องกับระยะการเจริญของต้นพืช อาจทำให้ต้นพืชเกิดอาการผิดปกติได้หลาย ๆ แบบ เช่น น้ำอาจขังมากไปทำให้รากเน่า ใส่ปุ๋ยมากไปทำให้เกิดอาการใบซีดเหลือง ใบร่วง เป็นต้น การปลูกในสภาพที่ไม่เหมาะสมต่อความต้องการของพืช เช่น นำพืชที่ชอบสภาพแล้งไปปลูกในสภาพดินชื้นแฉะ อาจทำให้พืชมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติได้เช่นกัน หรือแม้แต่การไม่แกะเอาผ้าพลาสติกที่ใช้เพื่อการทาบกิ่งออกจากต้นหรือกิ่งที่ทาบไว้ก่อนนำไปปลูก จะทำให้ต้นพืชมีลำต้นคอดกิ่ว (เนื่องจากถูกผ้าพลาสติกรัดไว้) ทำให้ต้นพืชที่ปลูกไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร
การเกิดโรคหรืออาการผิดปกติ
การเกิดโรคหรือการเกิดอาการผิดปกติของไม้ดอกกระถาง
จะเกิดขึ้นได้จะต้องประกอบด้วยปัจจัยเกี่ยวข้อง 4 ประการ คือ
- พืชที่ปลูก
- เชื้อสาเหตุโรคพืช
- สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- ระยะเวลาที่เชื้อโรคสัมผัสกับพืช
ในกรณีของโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส จะต้องมีปัจจัยที่ 5 เข้ามามีบทบาทร่วมด้วยเพิ่มขึ้น อีกประการหนึ่ง คือ พาหะนำโรค ซึ่งส่วนมากได้แก่แมลงชนิดต่าง ๆ
พออธิบายได้ว่า หากไม่ปลูกพืชย่อมไม่เกิดโรค ถ้าปลูกพืชแม้ว่าจะมีเชื้อโรคเข้าทำลาย แต่ถ้าสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการเกิดโรค โรคก็ไม่เกิดขึ้นเช่นกัน ถ้าปลูกพืชในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดโรคแต่ไม่มีเชื้อสาเหตุของโรคพืชอยู่ในบริเวณนั้น โรคก็ย่อมไม่เกิด แต่หากเมื่อใดที่ปลูกพืชซึ่งเป็นพืชที่อ่อนแอต่อการเกิดโรค มีเชื้อโรคชนิดรุนแรง มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดโรค เช่น มีความชื้นหรืออุณหภูมิที่พอเหมาะต่อการเจริญของเชื้อ และมีเวลามากพอที่จะทำให้เชื้อเข้าทำลายพืชก็จะทำให้พืชนั้นเป็นโรคได้ แต่ในกรณีของเชื้อไวรัสบางชนิด มีความจำเป็นต้องอาศัยแมลงพาหะเพื่อนำโรคแพร่ระบาดไปด้วยอีกปัจจัยหนึ่ง
»
การเพาะเมล็ด
»
การย้ายกล้า
»
การย้ายปลูกลงกระถาง
»
การเด็ดยอด
»
การให้น้ำ
»
การให้ปุ๋ย
»
การใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
» โรคของไม้ดอกกระถาง
»
การแพร่ระบาดของโรค
»
ลักษณะอาการของโรค
»
การป้องกันกำจัดโรคพืช
»
แนวทางการป้องกันกำจัดโรค
»
การปฏิบัติเพื่อให้มีอายุใช้งานได้นาน