เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>

ข้อมูลการเกษตร

ไม้ดอก-ไม้ประดับ

การปลูกไม้ดอกกระถาง

การย้ายปลูกลงกระถาง

กระถาง
มีขนาดตั้งแต่ 6 ถึง 12 นิ้ว แล้วแต่ชนิดและจำนวนกล้าที่จะปลูก โดยทั่วไปถ้าปลูกต้นเดียวมักใช้กระถางขนาด 6 ถึง 9 นิ้ว

ดินผสม
ดินผสมที่ใช้ย้ายปลูกลงกระถางควรเป็นดินผสมที่มีเนื้อดินจริง ๆ น้อยซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรพอที่จะใช้แทนกันได้ เพียงขอให้เป็นสูตรที่มีดินจริง ๆ อยู่น้อย ถ้าใช้ไม่มากแนะนำให้ซื้อดินผสมสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไป แต่ถ้าจะผสมใช้เองควรเลือกสูตรที่หาวัสดุได้ง่าย หรือดัดแปลงสูตรให้ใช้วัสดุที่หาได้ง่ายแทน

ตัวอย่างสูตรดินผสมสำหรับปลูกไม้ดอกทั่วไป

  • ทรายหยาบ 1 ส่วน
  • ดิน 1/2 ส่วน
  • ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
  • ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1/2 ส่วน
  • ถ่านแกลบ 1 ส่วน
  • แกลบดิบ 1/2 ส่วน

การย้ายปลูก
การย้ายปลูกเริ่มด้วยการนำเศษกระถางแตกวางคว่ำ ปิดรูก้นกระถางเพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุปลูกไหลออกทางรูก้นกระถาง ถ้าเป็นกระถางพลาสติกซึ่งมีรูที่ก้นกระถางมากอาจใส่วัสดุปลูกได้เลย ถ้าเป็นรูขนาดเล็ก แต่ถ้าเป็นรูขนาดใหญ่ให้ใช้ใยมะพร้าวที่เหลือจากการร่อนขุยมะพร้าว, มะพร้าวสับ, เปลือกถั่วลิสงหรือแกลบดิบรองก้นกระถางให้หนาประมาณ 1 นิ้วก่อน จากนั้นใส่วัสดุปลูกลงไปให้หนาประมาณ 1 นิ้ว ใส่ปุ๋ยเม็ดสูตรเสมอ เช่น สูตร 16-16-16 ลงบนวัสดุปลูก ประมาณกระถางละ 10 ถึง 15 เม็ด แล้วเอาวัสดุปลูกกลบปุ๋ยเม็ดให้สูงอย่างน้อย 1 นิ้ว

ไม้ดอกกระถางนำกล้าออกจากถุงหรือกระถาง โดยพยายามให้รากขาดน้อยที่สุด นำกล้าวางบนวัสดุปลูกในกระถาง ให้ต้นตั้งตรงอยู่กลางกระถาง แล้วใส่วัสดุปลูกให้ถึงประมาณ 1 นิ้วจากปากกระถาง ถ้ากล้าต้นเตี้ย เมื่อกลบวัสดุปลูกอาจทับยอด ให้ขยับต้นกล้าขึ้นกะให้วัสดุปลูกอยู่ระดับเดียวกับใบเลี้ยง แต่ถ้ากล้าต้นสูงมาก ให้นำดินบริเวณรากของต้นกล้าออกบ้างเพื่อทำให้ต้นกล้าอยู่ต่ำลง ใช้นิ้วมือกดผิวด้านบนวัสดุปลูกเบา ๆ เพื่อให้วัสดุปลูกกระชับกับรากมากขึ้น

รดน้ำด้วยบัวฝอย ให้น้ำท่วมผิวหน้าวัสดุปลูกประมาณ 1/2 นิ้วจึงหยุดรด รอให้น้ำซึมลงไปก่อนค่อยรดต่อ รดเช่นนี้จนกว่าน้ำไหลออกก้นกระถางจึงหยุดรด นำกระถางไปไว้ในที่รำไรประมาณ 1 ถึง 2 วัน จึงค่อยนำออกแดดเต็มที่ การรดน้ำครั้งต่อไปจะรดเมื่อผิวหน้าวัสดุปลูกเริ่มแห้ง ถ้ารดด้วยสายยางให้เปิดน้ำเบา ๆ ให้ปลายสายยางอยู่ใกล้ปากกระถาง แล้วรดแบบวนไปมารอบต้นกล้าเพื่อให้น้ำขังเหมือนการรดด้วยบัวรดน้ำ รอให้น้ำซึมลงไปก่อนค่อยรดอีก แต่ถ้าเริ่มเห็นน้ำไหลออกก้นกระถางให้หยุดรดได้ ไม่รดน้ำถูกดอกเพาะอาจทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้

หมายเหตุ

  1. กองวัสดุที่เบาที่สุดไว้ชั้นล่างสุด และวัสดุที่หนักกว่าวางไว้ชั้นต่อไป
  2. ต้องย่อยวัสดุทั้งหมดให้มีขนาดไล่เลี่ยกัน ใหญ่สุดไม่เกิน 3/4 นิ้ว
  3. วัสดุทั้งหมดไม่ต้องร่อน
  4. วัสดุทั้งหมดต้องแห้งหรือชื้นไม่เปียก
  5. ต้องผสมแบบย้ายกอง ประมาณ 3 ถึง 4 ครั้ง
  6. ควรผสมปูนมาร์ล, ปูนดิบ หรือปูนขาว ประมาณ 1/2 กก. และปุ๋ยเม็ดสูตรเสมอ เช่น สูตร16-16-16 ประมาณ 1/2 กก. ต่อดินผสมที่ผสมเสร็จแล้วในสภาพแห้ง 1 ลบม.
  7. เมื่อผสมเสร็จในสภาพแห้งแล้ว ให้พรมน้ำและคลุกให้ชื้นหรือเย็นมือเหมือนผสมวัสดุเพาะ
  8. ส่วนผสมข้างต้นไม่ตายตัว สามารถปรับเพิ่มหรือลดอัตราส่วนต่าง ๆ ได้ โดยมีหลักดังนี้ คือ ถ้าเป็นดินไม่ดี เช่น ดินเค็ม, ดินเปรี้ยว, ดินด่าง ไม่ควรใส่มาก ปุ๋ยหมักจะมีความเป็นด่าง ไม่ควรใส่มาก ปุ๋ยคอกสดไม่ควรใช้ถึงแม้จะตากแห้งแล้วก็ตาม เพราะมียูเรียและจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุโรคพืชอยู่มาก แกลบดิบถ้าเป็นแกลบใหม่ห้ามใส่มากเพราะเวลาสลายตัวจะใช้ธาตุไนโตรเจนมากทำให้พืชขาดธาตุไนโตรเจน

การให้น้ำ
การให้น้ำมีหลักคือ หลังจากย้ายกล้าหรือย้ายปลูกต้องรดน้ำให้มาก จนน้ำไหลออกก้นกระถาง จากนั้นจะไม่รดจนกว่าผิวหน้าวัสดุปลูกเริ่มแห้งหมาด ๆ จึงจะเริ่มรดน้ำอีก จนน้ำไหลออกก้นกระถาง การที่เหลือที่ว่างระหว่างปากกระถางถึงผิวเครื่องปลูกประมาณ 1 นิ้วเพราะต้องการให้เป็นที่เก็บน้ำตอนรดน้ำ น้ำจะค่อย ๆ ซึมลงยังก้นกระถางทำให้ ประหยัดเวลาในการรดน้ำ

» การเพาะเมล็ด
» การย้ายกล้า
» การย้ายปลูกลงกระถาง
» การเด็ดยอด
» การให้น้ำ
» การให้ปุ๋ย
» การใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
» โรคของไม้ดอกกระถาง
» การแพร่ระบาดของโรค
» ลักษณะอาการของโรค
» การป้องกันกำจัดโรคพืช
» แนวทางการป้องกันกำจัดโรค
» การปฏิบัติเพื่อให้มีอายุใช้งานได้นาน

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย