วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>

แนวปะการัง

ความสำคัญของแนวปะการัง
ประเภทของแนวปะการัง
สิ่งมีชีวิตในแนวปะการัง
ชีววิทยาของปะการัง
แนวปะการังที่สำคัญของประเทศไทย
สภาวะความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง
สาเหตุความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง
การฟื้นฟูแนวปะการัง
ข้อควรพิจารณาในการฟื้นฟูแนวปะการัง

ข้อควรพิจารณาในการฟื้นฟูแนวปะการัง

1. การเลือกพื้นที่ดำเนินการ
การเลือกพื้นที่ดำเนินการเป็นปัจจัยสำคัญประการแรกที่มีผลต่อความสำเร็จในการฟื้นฟูแนวปะการัง การเลือกพื้นที่ที่จะฟื้นฟูควรเลือกบริเวณที่เคยมีแนวปะการังพัฒนาอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ได้ว่าบริเวณนั้นๆ มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมแก่การดำรงชีวิตของปะการัง นอกจากนี้ยังควรพิจารณาถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของปะการัง เช่น ลักษณะของพื้นท้องทะเลที่ไม่เป็นโคลน ความลึก ความใสของน้ำ ความรุนแรงของคลื่นลมโดยเฉพาะช่วงมรสุม กิจกรรมของมนุษย์ รวมทั้งมลพิษต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของปะการัง

2. การเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมในการฟื้นฟูแนวปะการังในแต่ละพื้นที่
จากการที่แนวปะการังในแต่ละบริเวณมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีสาเหตุของ ความเสื่อมโทรม แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ การเลือกวิธีการฟื้นฟูแนวปะการังให้เหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งจากการศึกษาของสถาบันฯ ก็มีด้วยกันอยู่ 2 วิธีคือการย้ายปลูก และการเพิ่มพื้นที่ในการลงเกาะให้กับตัวอ่อนของปะการัง แต่ละวิธีก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปะการัง เช่น สภาพพื้นท้องทะเล ความขุ่นใสของน้ำบริเวณนั้น เป็นต้น

3. ค่าใช้จ่ายและแรงงาน
การฟื้นฟูแนวปะการังโดยมนุษย์จำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณ รวมทั้งแรงงานที่ค่อนข้างมาก จากรูปแบบวิธีการฟื้นฟูแนวปะการังแบบต่างๆ จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อที่จะได้เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย



4. การหาแหล่งพันธุ์ปะการัง
ในการฟื้นฟูปะการังโดยการย้ายปลูก ส่วนใหญ่จะต้องอาศัยแหล่งพันธุ์ปะการังในธรรมชาติ โดยการย้ายบางส่วนเข้ามาในบริเวณที่ต้องการฟื้นฟู แต่ในปัจจุบันพบว่าแนวปะการังที่มีความอุดมสมบูรณ์พอที่จะใช้เป็นแหล่งพันธุ์มี่ค่อนข้างน้อย การย้ายจึงจำเป็นที่จะต้องทำด้วยวิธีการที่เหมาะสม และปริมาณปะการังที่ทำการย้ายจะต้องไม่มากเกินไป เพื่อให้แนวปะการังที่เป็นแหล่งพันธุ์สามารถฟื้นตัวตัวได้โดยไม่เป็นการทำลายแหล่งปะการังนั้นๆ นอกจากนี้ยังอาจใช้ปะการังที่แตกหักอยู่แล้วตามธรรมชาติเพื่อลดการทำลายแนวปะการังที่เป็นแหล่งพันธุ์และเป็นการลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น และควรคำนึงถึงเรื่องพันธุกรรมของปะการังที่ใช้ในการฟื้นฟูด้วย เพราะหากใช้ปะการังที่กำเนิดจากพ่อแม่เดียวกันเป็นจำนวนมากในบริเวณเดียว จะทำให้แนวปะการังที่ทำการฟื้นฟูมีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อมได้จำกัด

5. ความรู้ด้านชีววิทยาปะการัง
และข้อมูลเบื้องต้นของแนวปะการังในแต่ละบริเวณ การฟื้นฟูแนวปะการังไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม จำเป็นต้องศึกษาถึงข้อมูลพื้นฐานทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เช่น คุณภาพน้ำ ปริมาณตะกอนแขวนลอย กระแสน้ำ ลักษณะพื้นท้องทะเล ปริมาณตัวอ่อนหรือแหล่งพันธุ์ที่มีอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในรูปโคโลนีปะการังหรือเศษปะการังที่ยังมีชีวิต องค์ประกอบชนิดของปะการัง ตลอดจนกิจกรรมของมนุษย์ที่อาจส่งผลกระทบในบริเวณนั้น ซึ่งข้อมูลบางอย่างจำเป็นต้องศึกษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพในการฟื้นตัวของแนวปะการังในแต่ละบริเวณ หรือเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการฟื้นฟูแนวปะการัง นอกจากนี้การดูแลรักษาปะการังที่มีการตายลงหลังการย้าย ตลอดจนการติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพปะการังที่ทำการฟื้นฟู ยังมีความสำคัญและจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

การฟื้นฟูแนวปะการังในแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป การจะเลือกใช้วิธไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของพื้นที่ที่เราต้องการจะฟื้นฟูเป็นหลัก รวมทั้งสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นด้วย รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของปะการัง วิธีที่ดีที่สุดในการที่จะฟื้นฟูแนวปะการัง และการอนุรักษ์ทรัพยากรปะการังไว้ก็คือ การป้องกันหรือลดความเสื่อมโทรมที่จะเกิดขึ้นกับแนวปะการัง โดยวิธีการต่างๆ เช่น การวางทุ่นผูกเรือ การให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชน การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากร ตลอดจนการกำหนดมาตรการในการคุ้มครองดูแลพื้นที่แนวปะการัง ทั้งนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรปะการังทุกคน

เอกสารอ้างอิง

  • กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. 2546. การประชุมสัมมนาเรื่องการฟื้นฟูแนวปะการัง. วันที่ 13 มิถุนายน 2546. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตอและสิ่งแวดล้อม. 66 หน้า.
  • นลินี ทองแถม ไพทูล แพนชัยภูมิ และสมหญิง พ่วงประสาน. 2546. การฟื้นฟูแนวปะการังใน ทะเลอันดามันของประเทศไทย. สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. 32 หน้า.
  • ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล. 2538. สู่โลกสีคราม. คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
  • สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์. 2538. โครงการอุทยานใต้ทะเล จุฬาภรณ์ 36. คู่มือสัตว์และพืชในแนวปะการัง หมู่เกาะสุรินทร์และ สิมิลัน. 109 หน้า.
  • สุรินทร์ มัจฉาชีพ และสมสุข มัจฉาชีพ. 2539. สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ. ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. หน้า 67-71.

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย