ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
สมถะวิปัสสนา
จิตตสังขารเป็นไฉน
บุคคลย่อมศึกษาว่า จักรู้แจ้งจิตตสังขารหายใจออกย่อมศึกษาว่า จักรู้แจ้งจิตตสังขารหายใจเข้า อย่างไร
จิตตสังขาร เป็นไฉน สัญญาเวทนาด้วยสามารถลมหายใจออกยาว เป็นเจตสิก ธรรมเหล่านี้เนื่องด้วยจิต เป็นจิตสังขาร
สัญญาเวทนาด้วยสามารถลมหายใจเข้ายาว เป็นเจตสิก ธรรมเหล่านี้เนื่องด้วยจิต เป็นจิตตสังขาร
สัญญาและเวทนาด้วยสามารถความเป็นผู้รู้แจ้งสุขหายใจออก ด้วยสามารถความเป็นผู้รู้แจ้งสุขหายใจเข้า เป็นเจตสิก ธรรมเหล่านี้เนื่องด้วยจิต เป็นจิตตสังขาร นี้เป็นจิตตสังขาร
จิตตสังขารเหล่านั้นย่อมปรากฏ อย่างไร
เมื่อรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถลมหายใจออก สติย่อมตั้งมั่น จิตตสังขารเหล่านั้นย่อมปรากฏด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น
เมื่อรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถลมหายใจเข้ายาว สติย่อมตั้งมั่น จิตตสังขารเหล่านั้นย่อมปรากฏด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น
เวทนา ด้วยสามารถความเป็นผู้รู้แจ้งจิตสังขารหายใจออก ปรากฏ สติเป็นอนุปัสสนาญาณ เวทนาปรากฏ ไม่ใช้สติ สติปรากฏด้วย เป็นตัวสติด้วย บุคคลย่อมพิจารณาเวทนานั้นด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น เพราะเหตุดังนี้ท่านจึงกล่าวว่า สติปัฏฐานภาวนา คือการพิจารณาเวทนาในเวทนา
บุคคลย่อมศึกษาว่า จักระงับจิตตสังขารหายใจออกย่อมศึกษาว่า จักระงับจิตตสังขารหายใจเข้า อย่างไร
จิตตสังขารเป็นไฉน สัญญาและเวทนา ด้วยสามารถ ลมหายใจออกยาว เป็นเจตสิก ธรรมเหล่านี้เนื่องด้วยจิต เป็นจิตสังขาร บุคคลระงับ คือดับ สงบจิตสังขารเหล่านั้นศึกษาอยู่ สัญญาและเวทนาด้วยสามารถลมหายใจเข้ายาว เป็นเจตสิก ธรรมเหล่านี้เนื่องด้วยจิต เป็นจิตสังขาร
บุคคล ระงับ คือ สงบจิตสังขารเหล่านั้นศึกษาอยู่ สัญญาและเวทนา ด้วยความเป็นผู้รู้แจ้งสิตสังขารหายใจเข้า ด้วยความสามารถด้วยความเป็นผู้รู้แจ้งจิตตสังขารหายใจออก เป็นเจตสิก ธรรมเหล่านี้เนื่องด้วยจิต เป็นจิตสังขาร
บุคคลระงับ คือ ดับ สงบจิตสังขารเหล่านั้นศึกษาอยู่ เวทนา ด้วยความสามารถความเป็นผู้ระงับจิตสังขารหายใจออก หายใจเข้า ปรากฏสติเป็น อนุปัสสนาญาณ เวทนาปรากฏ ไม่ใช้สติ สติปรากฏด้วย เป็นตัวสติด้วย บุคคลพิจารณาเวทนานั้นด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น เพราะเหตุดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า สติปัฏฐานภาวนา คือการพิจารณาเวทนาในเวทนาทั้งหลาย