สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

การสื่อสารในการประชุม

ถามและตอบให้มีประสิทธิผล

การถาม และการตอบเป็นกระบวนการสื่อสารที่กระทำอยู่ตลอดเวลา ทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน และการประกอบกิจการทุกอย่าง วิธีถามและวิธีตอบที่ดีจะทำให้การสื่อสารครั้งนั้นดำเนินไปได้ด้วยดี เกิดผลตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

จุดประสงค์ของการถามและการตอบ

จุดประสงค์ของการถาม

  1. เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นของอีกฝ่ายหนึ่ง
  2. เพื่อทดสอบว่า ผู้ตอบมีความรู้หรือไม่ หรือมีความคิดเห็นอย่างไร
  3. เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของกลวิธีให้ ความรู้หรือข้อคิดแก่บุคคลอื่น
  4. เพื่อแสดงอัธยาศัยไมตรี
  5. เพื่อแสดงความสนใจ

จุดประสงค์ของการตอบ

  1. เพื่อให้ข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นสนองตอบคำถาม
  2. เพื่อแสดงให้ผู้ถามทราบว่า ผู้ตอบมีความรู้เพียงใดหรือมีความคิดเห็นอย่างไร
  3. เพื่อใช้ร่วมเป็นส่วนประกอบของกลวิธีให้ความรู้หรือข้อคิดแก่บุคคลอื่น
  4. เพื่อสนองอัธยาศัยไมตรี
  5. เพื่อสนองความสนใจ

ข้อคำนึงในการถาม

ในบางครั้ง แม้ผู้ถามมีเจตนาดีที่จะหาความรู้และแสดงความเป็นมิตร แต่ถ้าตั้งคำถามไม่ดี ความสัมพันธ์อันดีอาจขาดลงได้หรืออาจไม่ได้รับความรู้ จึงมีข้อควรคำนึงในการตอบดังนี้

  1. มารยาท ไม่ถามเรื่องส่วนตัวของคนที่เพิ่งรู้จัก ในบางครั้งเราต้องถามเรื่องส่วนตัวเขา เราต้องกล่าวขออภัยที่ต้องถามละลาบละล้วง และพึงละเว้นคำถามที่ไม่สุภาพ หรือก่อให้เกิดความกระดากอาย หรือกระทบกระเทือนผู้อื่น และคำถามแสดงความโอ้อวด หรือคำถามที่ยกตนข่มท่าน
  2. บุคคล เราต้องพิจารณาว่าผู้ที่เราถามเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับเราแค่ไหน อยู่ในฐานะอย่างไร ทั้งนี้เพื่อเราจะได้ใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม
  3. กาลเทศะ ก่อนถามควรดูกาลเทศะว่า ผู้ที่เราถามมีอารมณ์อย่างไร หากจุกจิกกวนใจเขา เขาก็อาจรำคาญไม่ตอบคำถามก็ได้ และไม่ควรถามคำถามที่ซ้ำซากบ่อยๆ
  4. สาระ คำถามควรมีสาระ และผู้ถามควรมีความรู้นั้นมาบ้างพอสมควร
  5. ภาษา คำถามควรกะทัดรัดและชัดเจน มีเนื้อความเป็นลำดับ ไม่สับสน ไม่ถามหลายๆประเด็นพร้อมกัน

วิธีตั้งคำถาม

  1. วิธีตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง คำถามประเภทนี้มักใช้คำว่า ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร เท่าไร หรือไม่ ทำไม ฯลฯ เช่น ใครคือนักวิทยาศาสตร์คนเเรกที่ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า
  2. วิธีตั้งคำถามเพื่อได้ข้อคิดเห็น คำถามประเภทนี้อาจมีคำว่า ใคร อะไร อย่างไร ทำไม ฯลฯ เช่นเดียวกับการถามที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริง แต่ผู้ถามต้องการทราบเหตุผลมากกว่าเนื้อหาของคำถาม
  3. วิธีตั้งคำถามเพื่อทดสอบ คำถามประเภทนี้ในบางครั้งก็มีการออกคำสั่งกำกับไว้ด้วย เพื่อให้รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร หรือตอบไปในแนวใด เช่น เหตุใดคนไทยทุกคนจึงต้องช่วยป้องกันและขจัดมลพิษในสิ่งแวดล้อม จงอภิปราย
  4. วิธีตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบหลากหลาย คำถามประเภทนี้ช่วยให้ได้ความรู้ และความคิดที่กว้างขวางยิ่งขึ้น
  5. วิธีตั้งคำถามเพื่อแสดงความสุภาพของผู้ถาม ผู้ถามต้องรู้จักใช้คำที่ช่วยให้คำถามนั้นสุภาพนุ่มนวล เช่น กรุณา โปรด ขอประทานโทษ ใคร่ เป็นต้น

 

ข้อควรคำนึงในการตอบ

  1. การจับประเด็น ผู้ตอบควรจับประเด็นให้ได้ว่าผู้ถามต้องการถามประเด็นใด และควรพิจารณาว่าจะตอบคำถามในแง่ไหน พยายามตอบทุกคำถาม เรียงลำดับความคิดไม่ให้สับสน
  2. การใช้ภาษา ผู้ตอบควรคำนึงถึงว่าผู้ฟังเป็นใคร อยู่ในฐานะใด และผู้ตอบควรใช้ภาษาที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายมากที่สุด
  3. การแสดงมารยาท ผู้ตอบควรรู้จักหลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามที่อาจก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนแก่ผู้อื่นหรือตนเอง ถ้าจำเป็นต้องตอบ ควรตอบให้สุภพ

วิธีตอบ

ในการตอบคำถาม ก่อนตอบต้องแน่ใจว่าเข้าใจคำถามเป็นอย่างดี แล้วจึงค่อยตอบคำถาม วิธีตอบที่ดีคือ

  1. ตอบให้ตรงคำถาม อาจต้องทวนคำถามบ้างตามสมควร ในบางกรณีอาจขอคำยืนยันจากผู้ถามว่า ผู้ตอบเข้าใจประเด็นที่ถามตรงตามความต้องการของผู้ถามหรือไม่ แล้วจึงตอบ เมื่อตอบเสร็จ ควรเปิดโอกาสให้ผู้ถามภามต่อจนสิ้นข้อสงสัย
  2. ตอบให้แจ่มแจ้ง เป็นคำตอบที่แสดงชัดว่าผู้ตอบมีความคิดเห็นอย่างไร เนื้อความในคำตอบไม่ค้านกันเอง ถ้าต้องตอบยาว ควรสรุปลงท้ายไว้ด้วยเพื่อผู้ฟังจะได้จับประเด็นได้ถูกต้อง
  3. ตอบให้ครบถ้วน หากมีหลายคำถามต่อเนื่องกัน ต้องตอบให้ครบทุกคำถาม และตอบเรียงลำดับไป การตอบไม่ครบอาจทำให้เสียประโยชน์ ทำให้การสื่อสารไม่สมบูรณ์

วิธีสื่อสารและการใช้ภาษาในการประชุม
การส่งสารด้วยการพูด
ถามและตอบให้มีประสิทธิผล
การพูดให้สัมฤทธิ์ผล

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย