สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
นันทนาการ นันทนจิต นันทนจิตศึกษา หมายถึงอะไร
ทำไมต้อง นันทนจิต
นันทนจิต ต่างกันหรือเหมือนกันกับ นันทนาการ หรือไม่ อย่างไร
ความหมายและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการ
ที่มาของคำ นันทนจิต แนวคิด ความหมายและคำที่เกี่ยวข้อง
อิวาซากิและแมนเนลล์ (Iwasaki & Mannell, 2000)
แรงกระตุ้นของนันทนจิต
นันทนจิตเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองหรือไม่
ประสบการณ์นันทนจิต (Leisure Experiences)
สรุป
บรรณานุกรม
ประสบการณ์นันทนจิต (Leisure Experiences)
เป็นอีกคำหนึ่งที่มีการใช้ในนันทนจิต
อันมีความหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
เป็นประสบการณ์ที่เหมือนกับประสบการณ์ที่เป็นแบบอย่างอื่น ๆ ทั่วไป
ที่รวมกิจกรรมการเล่นที่ชักจูงใจผู้เข้าร่วม
ทำให้ผู้เข้าร่วมเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน เป็นกิจกรรมประเภทสร้างสรรค์และศิลปะ
(art and creative activities) กิจกรรมที่ท้าทายและผจญภัย (adventure challenges
activities) กิจกรรมประเภทเกมและกีฬา (sports and games)
กิจกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว (travel and vacations)
และ/หรือเป็นกิจกรรมสำหรับการเฉลิมฉลองเนื่องในวันหยุด (holiday celebrations)
ซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยของประสบการณ์ นันทนจิต ซึ่ง
คอร์เดสและอิบราฮิม (1996) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบสำคัญของประสบการณ์นันทนจิตไว้ 3
องค์ประกอบ ดังนี้
1. ความมีอิสระที่รับรู้เข้าใจได้ (Perceived Freedom) หมายถึง
บุคคลสามารถลงมือ
กระทำหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดที่จะสร้างเสริมประสบการณ์ของตน
และสามารถละเลิกการกระทำหรือการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ๆ ได้ตามที่ตั้งใจ ตัวอย่างเช่น
เรามีอิสระที่จะขับรถยนต์ไปเที่ยวชายทะเลในวันอาทิตย์
พักผ่อนหย่อนใจอยู่ที่บริเวณชายหาดได้นานเท่าที่เราต้องการ
หลังจากนั้นเราก็ขับรถยนต์กลับเมื่อรู้สึกว่าอยากจะกลับ อย่างไรก็ตาม
ในวันทำงานเราก็คงไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้
2. กิจกรรมที่เข้าร่วมมีจุดจบ/ความมุ่งหมายในตัวเองและเพื่อตัวเอง
(Autotelic
Activity) หมายถึง กิจกรรมนั้น ๆ
มีความมุ่งหมายหรือผลประโยชน์อยู่ภายในตัวเอง (possessing internal purpose)
และการเข้าร่วมในกิจกรรมของบุคคลใดก็เป็นไปเพื่อการเข้าร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ
เท่านั้น
โดยมิได้มุ่งถึงการที่จะให้ได้รับรางวัลหรือเพื่อการหลีกเลี่ยงจากการถูกกระทำโทษ
(done for its own sake)
3. ผลที่ได้รับเป็นสิ่งมีประโยชน์ (Beneficial Outcome) หมายถึง
การที่บุคคลเข้าร่วม
ในกิจกรรม
บุคคลย่อมรับรู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเขา เช่น
เขาเข้าไปออกกำลังกาย/เล่นกีฬาในสถานที่สำหรับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก
สร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย หรือเพื่อการพัฒนาระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจ เป็นต้น
ความหมายของนันทนจิตจึงอาจสรุปได้เป็น 3 ลักษณะ
ลักษณะแรก นันทนจิตในฐานะเวลาที่เหลืออยู่ (Leisure as Residual Time)
อันหมายถึงเวลาที่ว่าง (Free Time)
จากการปฏิบัติภารกิจที่จำเป็นประจำวันสำหรับร่างกาย (Time for Existence)
และเวลาที่ต้องประกอบอาชีพ (Time for Subsistence)
ระหว่างเวลาทั้งสามนี้จะมีเวลาที่คาบเกี่ยวกันอยู่
ไม่สามารถแยกออกจากกันได้โดยเด็ดขาด (เป็นลักษณะวงกลมสามวงวางทับกัน
จะเกิดส่วนที่ทับซ้อนกัน/เหลื่อมกันอยู่) ลักษณะที่สอง นันทนจิตในฐานะกิจกรรม
(Leisure as Activity) อันหมายถึงปฏิบัติการในพฤติการณ์เฉพาะ (Specific Deed or
Act) ซึ่งแม้ว่าพฤติการณ์ของมนุษย์จะมีมากมาย
แต่ก็จะมีลักษณะที่เป็นของแน่นอนร่วมกันอยู่
ยกตัวอย่างจากการวิเคราะห์ของนักจิตวิทยาสังคม (เชื้อสาย อเมริกัน-ญี่ปุ่น)
คนหนึ่งที่ชื่อ ทาโมทสึ ชิบูทานิ (Tamotsu Shibutani) ที่กล่าวว่า
พฤติการณ์ใดใดของบุคคลมักเกิดจากการที่สภาพของร่างกายอยู่ในสภาวะของการขาดสมดุล
(Condition of Disequilibrium) เมื่อสภาพดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว
บุคคลนั้นจะต้องทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพที่มีสมดุลให้ได้ เช่น กรณีที่จะลื่นหกล้ม
ก็ต้องมีการปรับแต่งส่วน ต่าง ๆ
ของร่างกายให้อยู่ในสภาวะที่จะช่วยให้ร่างกายมีการทรงตัวที่ดีมีความมั่นคงโดยเร็ว
หรือ ถ้าหิว ก็ต้องรีบไปหาอาหารมารับประทาน และถ้าในขณะที่หิวนั้น
กำลังอยู่กับเพื่อน ๆ ด้วยก็ต้องคิดว่า เรามีเงินที่จะไปซื้ออาหารมาทานไหม
เพื่อนจะรู้ไหมว่าถึงเวลาที่จะต้องทานอาหารแล้ว จะไปหาอาหารรับประทานได้ที่ไหน
หรือถ้าแต่งกายไม่เรียบร้อยก็จะรู้สึกกังวลไม่สบายใจ เป็นต้น
และนันทนจิตในฐานะสุดท้ายคือในฐานะภาวะของจิตใจ (Leisure as State of Mind)
ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้เขียนนำมาคิดเป็นคำไทยคำใหม่
รายละเอียดดังที่ได้กล่าวมาแล้วตั้งแต่ต้น อันมีความหมายว่า
ภาวะของจิตใจของแต่ละบุคคลจะเป็นตัวกำหนดว่ากิจกรรมแท้จริงใดเป็นนันทนจิต
บางท่านอาจคิดว่าการได้เล่นปล้ำกับเพื่อนในดินโคลนเป็นนันทนจิตที่สุดยอดของเขา
ในขณะที่ท่านอื่นอาจชอบสะสมแสตมป์ สะสมของเก่า ปลูกผักชีวภาพ
หรือเพียงให้ได้นอนในเปลญวนเท่านั้นก็เป็นความพึงพอใจอย่างที่สุดแล้ว
จากที่กล่าวมาแต่ต้น ท้ายที่สุด
คำถามสำคัญที่ตามมาหลังจากมีความพยายามที่จะทำความเข้าใจนันทนจิตในวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมหนึ่งก็คือ
ทำไมบุคคลจึงประกอบกิจกรรมนั้น ๆ? ผู้เข้าร่วมทำการตัดสินใจเลือกได้อย่างไร?
และอะไรเป็นผลที่ตามมา? จาก นันทนจิต ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วม
หรือการตัดสินใจที่จะเลือกเข้าร่วมอย่างมีอิสระในนันทนจิต ด้วยนันทนจิต
และเพื่อนันทนจิต ด้วยก็ตาม