สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

นันทนจิต
(Leisure)

นันทนาการ นันทนจิต นันทนจิตศึกษา หมายถึงอะไร
ทำไมต้อง “นันทนจิต”
นันทนจิต ต่างกันหรือเหมือนกันกับ นันทนาการ หรือไม่ อย่างไร
ความหมายและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการ
ที่มาของคำ “นันทนจิต” แนวคิด ความหมายและคำที่เกี่ยวข้อง
อิวาซากิและแมนเนลล์ (Iwasaki & Mannell, 2000)
แรงกระตุ้นของนันทนจิต
นันทนจิตเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองหรือไม่
ประสบการณ์นันทนจิต (Leisure Experiences)
สรุป
บรรณานุกรม

อิวาซากิและแมนเนลล์ (Iwasaki & Mannell, 2000)

แมนเนลล์และไคลเบอร์ (Mannell & Kleiber, 1997) ได้สรุปความหมายของคำว่า นันทนจิต ว่ามีความหมายที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน เป็นความหมายที่เกี่ยวข้องกับ อิสระของการเลือก (Freedom of Choice) หรือ การเลือกอย่างมีอิสระ และเกิดจากแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) ซึ่งพฤติกรรมที่จะแสดงให้เห็น หรือพฤติกรรมที่สะท้อนกลับมาก็คือ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน และความพึงพอใจที่แต่ละคนได้รับ

ยังมีผู้แสดงทัศนะเกี่ยวกับ นันทนจิต ไว้อีกมากมาย (Mannell, R.C., & Kleiber, D.A., 1997) รวมทั้ง ออสติน (Austin, 1999) ผู้เขียนหนังสือนันทนาการบำบัดขั้นนำ (Therapeutic Recreation: An introduction) และคนอื่น ๆ (e.g., Iso-Ahola, 1980; Neulinger, 1980; Smith & Theberge, 1987) ที่ได้กล่าวถึงปัจจัยเกี่ยวกับ ความเป็นอิสระที่แต่ละคนสามารถรับรู้/เข้าใจ (perceived freedom) และ แรงจูงใจภายใน (intrinsic motivation) ที่ถือว่าเป็นคุณสมบัติกลางของคำว่า นันทนจิต ไว้ กล่าวคือ “ความเป็นอิสระที่ตนเองสามารถรับรู้/เข้าใจ” เป็นความสามารถของบุคคลในการจัดการบางสิ่งตามที่ตนเลือกไว้ หรือตามที่ตนเองกำหนด ที่เรียกว่า “self-determination” นอกเหนือจากการแสดงพฤติกรรมปกติของตัวเอง และสิ่งที่เป็นอยู่จะไม่มีการรบกวนหรือได้รับแรงกดดันจากภายนอก ส่วน “แรงจูงใจจากภายใน” เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดพลัง ซึ่งในทางจิตวิทยาถือว่าเป็นรางวัลภายใน (internally rewarding) เป็นพฤติกรรมที่เป็นแรงกระตุ้นจากภายในให้เป็นไปตามความต้องการของตนเอง และเพื่อตนเองมากกว่าที่จะเป็นหนทางไปสู่การได้รับรางวัลภายนอก ดังนั้น แรงจูงใจภายในจึงนับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญของนันทนจิตสำหรับการเข้าร่วมและดำเนินกิจการทุกสิ่งให้ประสบผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อิโซ-อาโลฮา (Iso-Ahola, 1984) ได้กล่าวถึง รางวัลอันแท้จริง (intrinsic reward) ของนันทนจิต ว่ารางวัลอันแท้จริง ที่บุคคลแสวงหาจากการเข้าร่วมในกิจกรรมนันทนจิต อาจแบ่งออกได้เป็นรางวัลส่วนตัว และรางวัลระหว่างบุคคล (personal and interpersonal rewards) รางวัลส่วนตัว อาจหมายถึงสิ่งที่นอกจากความสามารถที่จะทำอะไรตามที่ตนกำหนดด้วยตัวเองแล้ว ยังรวมถึงความรู้สึกถึงสมรรถภาวะ (competence) หรือการมีความสามารถ (mastery) การท้าทาย (challenge) การเรียนรู้ (learning) การสำรวจค้นหา (exploration) ความพยายาม (efforts) และการผ่อนคลาย (relaxation) อีกด้วย และในอีกประการหนึ่ง การเข้าร่วมในกิจกรรมของ

นันทนจิต ที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งดีมีประโยชน์สำหรับเขา เป็นความท้าทาย และทำให้เขาได้ใช้และพัฒนาทักษะและความสามารถส่วนตัว การได้เรียนรู้สิ่งใหม่หรือกิจกรรมใหม่ การได้รับทักษะใหม่ การได้ใช้ความพยายาม และการสำรวจสิ่งที่เป็นรางวัลภายในทุกอย่างที่บุคคลจะได้รับจากการเข้าร่วมในกิจกรรมนันทนจิตตามความต้องการของตนเองเพื่อตนเอง (for their own sake) ส่วนรางวัลระหว่างบุคคล (interpersonal rewards) อาจหมายถึงสิ่งหนึ่งหรือหลายสิ่งที่ได้รับ เช่น การมีปฏิสังสรรค์ทางสังคม ก็เป็นรางวัลภายในที่สำคัญที่ผู้คนต้องการ

นอกจากนั้น ยังได้กล่าวถึงนันทนจิตว่าเป็นแหล่งสำคัญสำหรับการพัฒนาส่วนบุคคล สังคมและเศรษฐกิจ และเป็นแง่มุมที่สำคัญของคุณภาพชีวิต นอกจากนั้น ยังเป็นสินค้าและอุตสาหกรรม (commodity and industry) ทางวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์การจ้างงาน สินค้าและบริการอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมก็สามารถสร้างเสริม หรือถ่วง/ขัดขวาง/เป็นอุปสรรคสำหรับการพัฒนาหรือความเจริญก้าวหน้าของนันทนจิตได้เช่นกัน

นันทนจิตในแง่ที่ดีและในภาพรวมสามารถที่จะสร้างเสริมสุขภาพและความผาสุก (Well-being) ได้ โดยการเสนอโอกาสที่หลากหลายที่จะทำให้บุคคลหรือกลุ่มสามารถเลือกกิจกรรมและประสบการณ์ที่เหมาะสำหรับความต้องการ ความสนใจและความปรารถนาของตนเอง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถบรรลุศักยภาพทางนันทนจิตที่สูงที่สุดได้ เมื่อเขาได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่แสดงให้เห็นถึงสถานะภาพทางนันทนจิตของพวกเขาทั้งหลายเองอีกด้วย

นันทนจิตเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เช่นเดียวกับการมีสิทธิทางการศึกษา การทำงาน และการมีสุขภาพที่ดี และไม่ควรมีใครก็ตามที่จะไม่ได้รับสิทธินี้ อันเนื่องมาแต่ เพศ อายุ เชื้อชาติ ความเชื่อ ศาสนา สภาวะสุขภาพ สถานะภาพทางเศรษฐกิจ และ/หรือความพิการโดยเด็ดขาด

นันทนจิตเป็นมากกว่าปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่กำลังเป็นอยู่และกำลังจะเป็น เป็นความเป็นไปได้ของปฏิบัติการที่สร้างสรรค์ (Kelly, 1996)

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย