วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>
เซอร์ ไอแซก นิวตัน
นิวตัน เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี คศ. 1643 ที่เมืองวูลส์ชอร์ป
ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ทำทางด้านเกษตรกรรม เหนือจากกรุงลอนดอนประมาณ 200 กิโลเมตร
ขณะที่นิวตันเกิด พ่อของเขาได้เสียชีวิตก่อนหน้าแล้วประมาณสามเดือน
หลังจากนั้นไม่นาน มารดาของนิวตันได้แต่งงานใหม่
และย้ายไปอยู่กับสามีที่ในเมือง นิวตันอาศัยอยู่กับย่าที่วูลส์ชอร์ป
นิวตันได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นคนสนใจในการเรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็ก
เขาชอบคิดค้นและประดิษฐ์ของต่าง ๆ
นิวตันได้สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านแถบนั้นด้วยการประดิษฐ์นาฬิกาที่ทำจากกลไก
และใช้พลังน้ำเป็นตัวขับเคลื่อนยังความประหลาดใจกับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ในวัยเด็ก นิวตันได้เข้าศึกษาที่ คิวสคูล ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมและมัธยม
ที่อยู่ห่างจากบ้านเขาพอควร เขาต้องจากย่าไปอยู่บ้านพักใกล้โรงเรียน
นิวตันแสดงความเป็นคนช่างสังเกต ใฝ่หาความรู้ เขาตั้งคำถาม ถามตัวเองเสมอว่า
ดวงจันทร์ ดวงใหญ่อยู่ไกลจากโลกเท่าไร บนท้องฟ้ามีดาวกี่ดวง
ต่อมาเมื่อสามีใหม่ของมารดาที่อาศัยอยู่ด้วยกันที่ในเมืองเสียชีวิต
นิวตันจึงต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยมารดาทำไร่ และเลี้ยงสัตว์อยู่ที่วูลส์ชอร์ป
นิวตันได้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่สนใจในการทำไร่
แต่มักจะนำหนังสือติดตัวไปอ่านด้วยเสมอ เมื่อน้าเขาเห็นแววของการใฝ่รู้
จึงสนับสนุนให้เขาได้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในสายของวิทยาลัยทรินิตี
นิวตันได้แสดงแววของการเรียนรู้อย่างสร้างสรร
เขาได้ทำการศึกษาแนวคิดของนักคณิตศาสตร์ตั้งแต่ยุคโบราณ ไม่ว่าจะเป็น อริสโตเติล
ยูคลิด เคปเลอร์ กาลิเลโอ เดส์คเวิทส์ เขาจึงสานต่อความคิดของกาลิเลโอ
เพราะในปีที่เขาเกิดเป็นปีที่กาลิเลโอเสียชีวิต
เคปเลอร์ได้แสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์
และมีกฎเกณฑ์ของการโคจรสามข้อ
ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ วิทยาลัยทรินิตี
นิวตันได้ศึกษาวิชาการทางด้านดาราศาสตร์ แสง คณิตศาสตร์ ระหว่างนั้นเกิดโรคระบาด
ทำให้มหาวิทยาลัยต้องปิดลง เขาจึงกลับบ้าน และทำการศึกษาคิดหาคำตอบว่า
ทำไมลูกแอปเปิ้ล จึงตกลงสู่พื้นดิน ทำไมดวงจันทร์จึงโคจรรอบโลกได้
นิวตันได้ศึกษาค้นคว้า "กฎการเคลื่อนที่" กล่าวคือ
วัตถุเมื่อเคลื่อนที่จะเคลื่อนที่ต่อไป และถ้ามีแรงมากระทำ
ก็จะเกิดการเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร่งตามแนวทิศแรงนั้น
การคิดค้นกฎแห่งการเคลื่อนที่ของนิวตัน
ทำให้สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ได้อย่างมากมาย
และเป็นที่มาของกฎแห่งแรงโน้มถ่วง ซึ่งกล่าวว่า
มีแรงชนิดหนึ่งกระทำระหว่างวัตถุสองชิ้น เช่น โลกกับดวงอาทิตย์
แรงนี้จะแปรผกผันกับระยะทางกำลังสองระหว่างดาวทั้งสองและจะแปรตามมวลของวัตถุทั้งสองนั้น
นิวตันได้พัฒนาคิดค้นแคลคูลัส ซึ่งเป็นเรื่องของดิฟเฟอเรนเชียนและอินทิกรัล
เพื่อใช้ในการพิสูจน์กฎเกณฑ์ทางดาราศาสตร์ และยังได้พัฒนาทฤษฎีไบโนเมียล
ผลงานวิจัยของนิวตันทำให้ทราบถึงเหตุผลว่าทำไมวัตถุทั้งหลายจึงตกลงสู่เบื้องล่าง
แรงที่กระทำระหว่างวัตถุกับโลกขึ้นกับอะไรบ้าง
ทำไมดวงจันทร์จึงโคจรรอบโลกโดยไม่หลุดลอยออกไป
ผลงานวิจัยของนิวตันจึงเป็นงานระดับสุดยอด เขาได้รับการยกย่องให้เป็นนักวิจัยชั้นนำ
นอกจากงานคิดค้นในเรื่องคณิตศาสตร์แล้ว นิวตันยังประสบผลสำเร็จอีกมากมาย
เช่น การค้นพบว่าแสงเป็นคลื่น และสามารถหักเหได้โดยมีคลื่นความถี่ต่างกัน
มีสีแตกต่างกัน เมื่อผ่านปริซึมสามารถแยกสีออกจากกันได้
และยังได้ประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์ชนิดสะท้อนแสงที่มีขนาดเล็ก
ผลงานเหล่านี้ทำให้นิวตันเป็นศาสตราจารย์ด้วยวัยเพียงอายุ 27 ปี
เนื่องจากนิวตันเป็นคนที่ถ่อมตน ผลงานวิจัยของนิวตันได้ทำขึ้นด้วยใจรัก
นิวตัวไม่ได้ประกาศให้โลกรู้ จึงทำให้ภายหลังมีข้อโต้แย้งว่าใครเป็นผู้คิดได้ก่อน
ระหว่างนิวตันกับโรเบิร์ตฮูกานักฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษและไลปฟิซ
นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน
เอดิมันด์ ฮัลเลย์ ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง
ในการค้นพบการโคจรของดาวหาง และเป็นผู้ค้นพบดาวหางฮัลเลย์ที่รู้จักกันดี
ฮัลเลย์รู้สึกเสียดายผลงานของนิวตัน
จึงขอร้องให้นิวตันรวบรวมผลงานค้นคว้าและเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ฮัลเลย์ช่วยสนับสนุนในการจัดพิมพ์โดยตั้งชื่อหนังสือว่า PRINCIPIA
หนังสือ PRINCIPIA เป็นสมบัติล้ำค่าของมนุษยชาติ เป็นการรวบรวมการค้นพบต่าง ๆ
ของนิวตัน การค้นพบหลาย ๆ อย่างมีรากฐานมาจากกฎการเคลื่อนที่ และกฎแห่งแรงโน้มถ่วง
ฮัลเลย์ได้ใช้กฏเกณฑ์เหล่านี้ จนทำให้ค้นพบดาวหาง และสามารถคำนวณวงโคจรของดาวหาง
และพยากรณ์การกลับมาของดาวหางได้ถูกต้อง
ในสมัยนั้น เป็นที่รู้กันมาตั้งแต่โบราณว่าดาวเคราะห์มี 5 ดวง คือ ดาวพุธ
ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ เพราะเป็นดาวที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
ต่อมาจึงค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ ๆ ซึ่งก็ใช้หลักการเคลื่อนที่ของนิวตัน ในปี ค.ศ.
1681 ฮาเซล นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษค้นพบดาวยูเรนัส
จากการศึกษาวงโคจรและการเคลื่อนที่ของดาวยูเรนัส ทำให้รูบริเอ
ชาวฝรั่งเศสและอดัมส์ชาวอังกฤษใช้กฎการเคลื่อนที่นี้พยากรณ์ว่าจะมีดาวเคราะห์อีกดวงห่างออกไป
และสามารถค้นพบดาวพลูโตในปี ค.ศ. 1846
นิวตันได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ปี ค.ศ. 1727 ณ กรุงลอนดอน
ประเทศอังกฤษ นิวตันได้ทิ้งผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกมากมาย
ลูกกระสุนปืนใหญ่ของนิวตัน
ลูกกระสุนปืนใหญ่ของนิวตัน (Newton's cannonball) เป็น การทดลองทางความคิด ที่
ไอแซค นิวตัน ใช้ตั้งสมมติฐานว่า แรงของ ความโน้มถ่วง นั้นใช้ได้ทั่วไป
และเป็นแรงสำคัญสำหรับ การเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์
การทดลอง
ในการทดลองนี้
นิวตันนึกภาพปืนใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงมาก หากไม่มีแรงโน้มถ่วง
ลูกกระสุนปืนใหญ่จะสามารถเคลื่อนที่ไปตามเส้นตรงออกไปจากโลกได้ ดังนั้น
ตราบใดที่ยังมีแรงโน้มถ่วงกระทำต่อลูกกระสุนปืนใหญ่
กระสุนยังเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางขึ้นอยู่กับความเร็วเริ่มต้นของมัน
- ถ้าอัตราเร็วต่ำ มันจะตกลงกลับมาบนผิวโลกง่าย ๆ
- ถ้าอัตราเร็วเท่ากับ ความเร็วโคจร เริ่มต้น มันจะเคลื่อนที่วนรอบโลกไปตามวงโคจรวงกลมซึ่งอยู่กับที่เหมือนกับ ดวงจันทร์
- ถ้าอัตราเร็วสูงกว่าความเร็วโคตร แต่ไม่สูงพอที่จะหลุดไปจากโลก (คือ ต่ำกว่า ความเร็วหลุดพ้น) มันจะยังคงเคลื่อนที่ไปรอบโลกตามวงโคจร
- ถ้าอัตราเร็วสูงมาก มันจะหลุดไปจากโลก