สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
โรคพยาธิตืดวัว (Taenia saginata)
โรคพยาธิตืดหมู (Taenia solium)
Echinococcus granulosus โรคถุงน้ำ hydatid
โรคพยาธิตืดแคระ (Hymenolepis nana)
โรคพยาธิตืดหนู (Hymenolepis diminuta)
Raillietina siriraji
โรคพยาธิตืดวัว (Taenia saginata)
พบได้ทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่นิยมรับประทานเนื้อวัว พบได้บ่อยในเม็กซิโก
อเมริกาใต้ แอฟริกาตะวันออกและตะวันตก เยอรมัน ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์
อังกฤษ อิตาลี ลาว ฯลฯ ในประเทศไทยมีมากในภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การติดต่อ การรับประทานถุงพยาธิตืดวัวที่มีตัวอ่อน (Cysticercus bovis)
ที่ปนเปื้อนไปกับอาหารหรือ น้ำดื่ม หรือ
รับประทานเนื้อวัวที่มีตัวอ่อนอยู่โดยไม่ทำให้สุกก่อน
อาการ ตัวเต็มวัยในลำไส้เท่านั้นที่ทำให้เกิดโรค
โดยพยาธิจะแย่งอาหารในลำไส้ ถ้ามีหลายตัวจะทำให้ปวดบริเวณลิ้นปี่ ไม่สบายท้อง
อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งมีอาการอุจจาระร่วง หรือท้องผูก
น้ำหนักตัวอาจลดลง ปล้องสุกที่เคลื่อนตัวออกมาทางทวารหนักทำให้ผู้ป่วยเกิดความกังวล
ปล้องสุกที่หลุดออกมาอาจจะเข้าไปไส้ติ่ง ทำให้เกิดการอักเสบได้
การวินิจฉัยโรค
- การตรวจด้วยตาเปล่า เป็นการดูลักษณะทั่ว ๆของอุจจาระ เช่น ดูสี ดูลักษณะว่า เป็นก้อนอ่อน เหลว หรือเป็นน้ำ ดูมูก กลิ่น เลือด และการพบปล้องสุกหรือไข่ในอุจจาระ
- การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อตรวจหาไข่หรือปล้องสุก และความรุนแรงของการติดเชื้อ
- นับจำนวนแขนงของมดลูกโดยการฉีด indian ink เข้าไปในมดลูกของพยาธิ หรือ โดยการย้อมสี เพื่อแยกจากพยาธิตืดหมู
การักษา ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10-20 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
ให้รับประทาน ครั้งเดียวก่อนนอน
การป้องกัน
- การรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อวัว ควรทำให้สุกเสียก่อน
- ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
- ให้ความรู้เกี่ยวกับพยาธิตัวตืดแก่ประชาชน
- คนที่เป็นโรคควรได้รับการรักษาทุกคน