ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พลังโอสถทิพย์

สายปัจฉิม : สำนักเต๋าประเทศจีน

วิธีฝึก พลังโน้มนำโอสถทิพย์ (พลังขั้นพื้นฐาน)

วิธีโน้มนำ 8 ท่า

            วิธีโน้มนำ 8 ท่านี้ เป็นการฝึกเพื่อสะสมพลังงานของธรรมชาติ (พลังชีวิต) เป็นการฝึกที่เน้นหนักที่ท่าทาง พละงและการกำหนดจิต ที่มีส่วนเกี่ยวกับหลักวิทยาศาสตร์มาก ผู้ที่เริ่มฝึกต้องยึดถือหลักอย่างเคร่งครัด อย่าเปลี่ยนแปลงหรือละเลยตามอำเภอใจ เพราะอาจจะเป็นภัยแก่ผู้ฝึกเอง เมื่อผ่านการฝึกฝนแล้ว 20 ชั่วโมง โดยทั่วไปแล้วจะรู้สึกว่ามีพลังเกิดขึ้น (เริ่มแรกจะรู้สึกแน่นชาและร้อน ที่ฝ่ามือ) ถ้ายืนหยัดฝึกต่อไปอีก 20 วัน จะสามารถหายใจเข้าออกเป็นรูปแบบของท้อง คนว่สนมากจะหายใจในรูปแบบของท้อง ในลักษณะย้อนทวน และมีส่วนหนึ่งที่มีลักษณะคล้อยตาม เมื่อฝึกพลังถึงขั้นแล้ว พลังที่หายใจเข้าออกจะเหมือนกับลมพัดมากระทบผิวกาย แล้วการหายใจเข้าออกก็จะค่อยช้าลง และค่อยๆยาวขึ้น ในสมัยโบราณเรียกว่า เชื่อมต่อกับพลังดั้งเดิมก่อนมีจักรวาล
                   พลังแท้ของธรรมชาตินั้น มัอยู่ในจักรวาลและรอบๆ ร่างกายของเราในรูปแบบของอนุภาค ที่มีพลังการเจาะทะลุสูงมาก และปัจจุบันยังไม่พบว่ามีวัตถุใดสามารถขัดขวางมันได้ มันเข้าไปในร่างกายของมนุษย์ ผ่านรูขุมขน แต่ถ้าใช้จุด เหลากง (อยู่บนฝ่ามือ เมื่องอนิ้วกลางมาแตะบนฝ่ามือ จุดที่นิ้วกลางแตะคือ จุดเหลากง) บนฝ่ามือมารองรับอนุภาคพวกนี้จะได้ผลดีมาก จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้วยืนยันว่า อาการครุ่นคิดของมนุษย์นั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่สลับซับซ้อนของกระแสไฟฟ้าสิ่งมีชีวิต การกำหนดจิตแต่ละครั้งนั้นล้วนแต่มีสื่อ ดังนั้นเวลาที่เราดูดซับพลังอยู่ ก็กำหนดจิตให้พลังงานแท้เข้าสู่ร่างกายทางจุดเหลากง เมื่อหายใจออกก็เอาอนุภาคเก็บไว้ที่ ตันเถียน บริเวณท้องน้อย เมื่อเวลาผ่านไป พลังงานธรรมชาติก็จะหล่อหลอมเป็นลูกโอสถทิพย์ที่ตันเถียน จะมีความรู้สึกว่าพลังร้อนกลุ่มหนึ่ง ใหญ่พอๆกับผลแอปเปิ้ล และในที่สุดพลังงานกลุ่มนี้ ก็จะถูกกำหนดจิตชักนำโคจรรอบๆ จักรวาลน้อยในร่างกาย (คือเส้นประสาทเยิ่นและตู้สามารถเชื่อมต่อกัน) เมื่อพลังแท้ที่อุดตันสามารถไหลเวียนคล่องตัว พลังจัเป็นตัวนำให้โลหิตไหลตาม เมื่อทั้งพลังและโลหิตไหลเวียนได้สะดวก สมรรถภาพของอวัยวะในร่างกายต่างๆ ก็จะถูกปรับแต่งให้สมบรูณ์ด้วย

  1. เต่าทองคลายพลัง
    ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วนก่อน ปล่อยแขนทั้งสองข้างแล้วเลื่อนจากข้างกายไปด้านหลังตามธรรมชาติ ให้ฝ่ามือหันไปข้างหลัง แล้วหายใจออก 1 ครั้ง ขณะหายใจออกนั้น ให้ย่อตัวต่ำลง เมื่อยุติการหายใจออกให้หยุดการย่อตัว จากนั้นให้หายใจเข้า ระหว่างหายใจเข้าให้ยกตัวสูงขึ้น   เมื่อสิ้นสุดการหายใจเข้าขาทั้งสองข้างจะยืนตรงพอดี การฝึกกระบวนท่านี้ ร่างกายให้เอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้น หายใจออกและย่อต่ำเหมือนครั้งแรก การหายใจเข้าและออกนั้นหมายถึง 1 พลัง ท่านี้ต้องฝึกครบ 9 พลัง
                                 สาระสำคัญ ฝ่ามือนั้นให้อยู่ในลักษณะของเล็บเหยี่ยว เวลาหายใจเข้าออกไม่ต้องรีบร้อน หรือใช้กำลัง พยายามควบคุมให้ลึกยาวตามธรรมชาติ ไม่ต้องเกร็ง ขณะที่หายใจเข้านั้นให้ขยายหน้าอกและหดท้องน้อย เพื่อให้แอ่งบนไหลรับพลังให้เต็ม เวลาหายใจออกให้หุบหน้าอกและผ่อนช่วงท้อง เวลาหายใจเข้านั้นตัองต้องจินตนถาพว่า พลังแท้ได้ถูกดูดซับเข้าทางจุดเหลากงของฝ่ามือ   เมื่อหายใจออกให้กำหนดจิตชักนำพลังแท้เข้าไปในตันเถียนบริเวณท้องน้อย เละจินตภาพว่าที่ตันเถียน มีพลังสีขาวก้อนกลุ่มหนึ่ง ถูกพลังงานแท้ที่ลื่นไหลลงไปกระทบจนหมุนไปรอบๆ
  2. พลังปฐพีระเหิด
    เชื่อมต่อท่าที่ 1 ขณะที่หายใจออกจวนจะยุติ ให้ร่างกายอยู่ในท่าผ่อนคลายเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ค่อยๆย้ายแขนที่อยู่ด้านหลังมาอยู่ที่ขาท่อนบนทั้งซ้ายขวา ฝ่ามือหันลงสู่พื้นในลักษณะกดนวด เวลาหายใจเข้าให้ยกตัวสูง เมื่อหายใจออกให้ย่อตัวต่ำลง ท่านี้ฝึกให้ครบ 9 พลัง เหมือนท่าที่ 1
                                   สาระสำคัญ เช่นเดียวกับ ท่าที่ 1
  3. ฝ่ามือมหัศจรรย์
    เชื่อมต่อจากท่าที่ 2 ขณะที่หายใจออกจวนจะยุติ ให้ร่างกายอยู่ในท่าผ่อนคลายเหมือนเดิม แล้วยกแขนยื่นไปข้างหน้าให่สูงเสมอไหล่ ยกฝ่ามือตรงหันไปข้างหน้า หายใจออก ย่อตัวและเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย เวลาหายใจเข้ายกตัวให้ตรง และเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นหายใจเข้า ย่อตัวและเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย ท่านี้ฝึกครบ 9 พลังเหมือนท่าที่ 1
                              สาระสำคัญ เช่นเดียวกับ ท่าที่ 1
  4. แปลงพลังจักรวาล
    เชื่อมต่อจากท่าที่ 3 ขณะที่หายใจออกจวนจะยุติ ย้านแขนทั้งสองข้างจากด้านหน้าขึ้นเหนือศรีษะ ฝ่ามือทั้งสองข้างให้กว้างเสมอไหล่ และหันเข้าหากัน   เวลาหายใจเข้า แขนทั้งสองข้างให้ชูขึ้น ขาทั้งสองยืนตรง เวลาหายใจออกให้ย่อตัวต่ำ และงอเข่าเล็กน้อย ท่านี้ฝึกครบ 9 พลังเหมือนท่าที่ 1
                         สาระสำคัญ ลดสะโพก ยืดเอว ศรีษะตั้งตรง หายใจเข้าออกให้ยาวและลึกตามธรรมชาติ จินตภาพว่าแขนทั้งสองข้างยาวไม่สิ้นสุด และยื่นเข้าไปในจักรวาล ดูดเอาสุริยันจันทรา และดวงดาวเข้าทางจุดเหลากง ที่ฝ่ามือ ให้ไหลลงไปในตันเถียนบริเวณท้องน้อย
  5. เต่าทองจำศีล
    เชื่อมต่อจากท่าที่ 4 ขณะที่หายใจออกจวนจะยุติ ค่อยๆปล่อยแขนทั้งสองลงมาด้านหน้า งอข้อศอก ให้แขนท่องล่างยืดตรงตามขวาง ฝ่ามือหันขึ้นข้างบน ผ่านใต้รักแร้ไปด้านหลังของร่างกาย เหมือนท่าที่ 1 แล้วหายใจออกหนึ่งครั้ง ร่างกายผ่อนคลายเหมือนเดิม ย่อขาเล็กน้อย เวลาหายใจเข้า ให้ยืดเอวให้ตรง   ขยายหน้าอกให้ข้าง หุบท้องและลดช่วงคอ เวลาหายใจออกให้ทอดน้ำหนักตัวลง หุบหน้าอก หุบท้องและชูช่วงคอ   ซึ่งเลียนแบบเต่าทองจำศีล ท่านี้ฝึกครบ 9 พลังเหมือนท่าที่ 1
                            สาระสำคัญ    ต้องทอดน้ำหนักของหัวไหล่และข้อศอกลง ยืดหลังหุบหน้าอก หายใจเข้าตามธรรมชาติ ให้ลึกและยาว แล้วนำพลังลงไปที่จุดตันเถียนบริเวณท้องน้อย
     
  6. พลังเปี่ยมฟ้าดิน
    เชื่อมต่อจากท่าที่ 5 ขณะที่หายใจออกจวนจะยุติ   ย้ายมือทั้งสองลงมาข้างหน้าช้า ให้ฝ่ามือหันลง ยกแขนทั้งสองยืดตรงไปข้างหน้า มือทั้งสองให้กว้างเสมอไหล่ หายใจเข้า ขาทั้งสองยืนตรง แล้วยกมือทั้งสองข้างให้สูงเสมอไหล่   หายใจออกปล่อยมือทั้งสองข้างลง และทอดน้ำหนังของร่างกายลง ท่านี้ฝึกครบ 9 พลังเหมือนท่าที่ 1
                           สาระสำคัญ ให้ใช้มือทั้งสองเป็นตัวนำแขนทั้งสอง ให้เคลื่อนไหวขึ้นและลง การเคลื่อนไหวนั้นจะต้องลื่นไหลไปตามธรรมชาติ แล้วนำพลังไปที่ตันเถียนบริเวณท้องน้อย
  7. พลังคืนสู่เบ้า
    เชื่อมต่อจากท่าที่ 6 ขณะที่หายใจออกจวนจะยุติ ค่อยๆย้ายมือทั้งสองเข้ามาใกล้ตัว แล้วเอามือทั้งสองซ้อนกันที่หน้าสะดือ มือซ้ายของเพศชายอยู่ที่ด้านใน มือขวาอยู่อก จุดเหลากงด้านในของมือขวา ให้อยู่ตรงจุดเหลากงด้านนอกของมือซ้าย (เพศหญิงกลับกัน) ระหว่างสะดือและมือซ้าย ระหว่างมือซ้ายและมือขวาต่างห่างกัน 5 ซ.ม. จากนั้น ให้ร่างกายผ่อนคลายเหมือนเดิม
                        สาระสำคัญ เวลาหายใจเข้าให้จินตภาพว่า พลังแท้ได้ผ่านจากจุดเหลากงของมือทั้งสองเข้าไปในตันเถียนบรเวณท้องน้อย แล้วทะลุไปที่กระดูกสันหลังตรงจุดมิ่งเหมิน เวลาหายใจออกนั้น พลังแท้จะเคลื่อนตัวจากจุดมิ่งเหมินกลับสูงจุดตันเถียน เพื่อสกัดหลอมให้เป็นก้อนโอสถทิพย์ และจะมีความรู้สึกว่ามีพลังออกมาจากกระดูกสันหลัง
                        พลังคืนสู่เบ้านี้ เป็นวิธีโน้มนำเข้าสู่ที่สงบ เป็นท่าฝึกที่สำคัยของพลังโน้มนำ เวลาที่ฝึกแต่ละครั้งไม่ควรน้อยกว่า 15-30 นาที เมื่อฝึกติดต่อกันหลายๆวัน บริเวณตันเถียนจะปรากฎมีก้อนพลังอุ่น ลดต่ำลงมาที่จุดฮุ่ยอิน (จุดนี้อยู่ระหว่างอวัยวะเพศกับรูทวารหนัก) เวลานี้ขมิบรูทวารหนัก (เช่นเดียวกับการกลั้นปัสสาวะ) เพื่อปกป้องถุงอัณฑะ (เวลาขมิบถุงอัณฑะจะหดตัว)   แล้วหายใจเข้า จะรู้สึกมีก้อนพลังอุ่นพุ่งผ่านไปที่จุดเว่ยหลี่ (จุดนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างปลายกระดูกสันหลัง และรูทวารหนัก) แล้วก็ลอยขึ้นไปที่จุดมิ่งเหมิน เวลาที่หายใจออก แล้วกำหนดจิตนำพลังไปที่จุดตันเถียนบริเวณท้องน้อย ให้ลงไปที่จุดฮุ่ยอินอีกครั้ง การนำก้อนพลังอุ่นเคลื่อนไหวดังกล่าวข้างต้นนั้น ไม่ควรเกิน 3 รอบ จากนั้นให้กำหนดจิตเบาๆ   เพื่อไปเฝ้าที่จุดตันเถียนตรงท้องน้อย แล้วหยุดหายใจเข้าออกชั่วคราว เวลานี้จะปรากฎว่าที่จุดเสียนกวาน มีแสงสว่าง แสงนี้จะสว่างจ้าเมื่อจิตสงบนิ่งลึกๆ และจะกลมเมื่อจิตเปี่ยมบริบรูณ์ ถ้าฝึกช่วงเวลา 23.30 น. ถึง 3.30 น. ของวันใหม่ จะเห็นแสงนี้ได้ง่าย ผู้ที่ฝึกถึงขั้นนี้แล้ว จะมีความรู้สึกกายและใจผสมผสานกลมกลืน หายใจเข้าออกลื่นไหล ร่างกายไม่มีตัวตน ไร้น้ำหนักไม่ได้ยินเสียงจากรอบข้าง สุขสบายทั่วกายหาที่เปรียบมิได้
  8. ยุติเคลื่อนพลัง
    เชื่อมต่อจากท่าที่ 7 ให้มือที่ซ้อนกันหมุนตามเข็มนาฬิกา 36 รอบ (สตรีให้ทวนเข็มนาฬิกา) จากข้างในออกไปข้างนอก แล้วหมุนอีก 36 รอบ จากด้านนอกออกไปด้านใน หยุดตรงตันเถียน มือทั้งสองประกบแนบสนิท บริเวณท้องน้อย หายใจเข้าออกลึกๆ 3 ครั้ง เวลาหายใจเข้าให้รวมพลังที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วร่างกายมาไว้ที่จัดซันจง (จุดนี้อยู่ที่ศูนย์กลางของหัวนมทั้งสองข้าง บริเวณรอยบุ๋ม) และเวลาหายใจออกให้นำพลังไปที่จุดตันเถียน
                           สาระสำคัญ เวลาที่มือทั้งสองข้างหมุนนั้น ต้องสม่ำเสมอไม่ติดขัดหรือรีบร้อน เวลาหมุนขึ้นสูงนั้น ไม่ควรสูงเกินจุดซันจง และต่ำลงมา ไม่ควรต่ำกว่ากระดูกหัวเหน่า เมื่อหมุนรวบรวมพลังช่วงระยะเวลาหนึ่ง พลังแท้ดั้งเดิมที่อยู่ในตันเถียนจะหดตัวเป็นจุดเดียว และเวลากระจายก็จะไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย

ฉี้กงและพลานามัย
ประวัติย่อพลังโอสถทิพย์
การผ่อนคลาย
วิธีโน้มนำ 8 ท่า
พลังช่วยเสริม
ความหมาย "ฉี้กง"
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการฝึก
โรคที่เหมาะแก่การรักษา
  

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย