ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>

ประเทศจีน

เมืองทรงเสน่ห์
- เมืองเซี่ยงไฮ้
- เมืองกวางโจว
- เมืองเซินเจิ้น
- เมืองซูโจว
- เมืองชิงเต่า
- ฮ่องกง

เมืองทรงเสน่ห์

เมืองชิงเต่า

ชิงเต่า ตั้งอยู่ในมณฑลซันตง ซึ่งเป็นมณฑล ชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศจีน และเป็นพื้นที่ปากแม่น้ำหวงเหอที่ไหลลงสู่ทะเลป๋อไห่ พื้นที่บนแผ่นดินมีอาณาเขตติดต่อกับมณฑลเหอเป่ย เหอหนัน อันฮุย เจียงซู โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 10,654 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน ในจำนวนนี้ อาศัยอยู่ในเขตเมืองประมาณ 2,270,000 คน และมีความหลากหลายทางชนชาติประกอบด้วย 54 เชื้อชาติ โดยกลุ่มเชื้อสายฮั่นมีมากที่สุดถึง 90.17 ล้านคน คิดเป็นอัตราส่วน 99.32% ประชากรชนชาติอื่นๆรวม 620,000 คน ประกอบด้วย ชนชาติมุสลิม แมนจู จ้วง เกาหลีเหนือ แม้ว ทิเบต ไป๋เป็นต้น

เศรษฐกิจ ชิงเต่าถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นท่าเรือธรรมชาติที่มีชื่อเสียง เป็นหน้าต่างด้านการค้ากับต่างประเทศที่สำคัญของภาคกลางและภาคตะวันออกของจีน มีท่าเรือเฉพาะกิจหลายแห่ง เปิดเส้นทางเดินเรือ 97 สาย เชื่อมโยงกับท่าเรือกว่า 450 แห่งที่กระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ แยกกัน ขนส่งสินค้าในตู้ container หินแร่ น้ำมันดิบและถ่านหิน นอกจากนี้ ในแต่ละเดือน เมืองชิงเต่ายังมีเที่ยวบินไปสู่ต่างประเทศ 419 เที่ยว และปี 2005 ยอดจำนวนสินค้าการนำเข้าส่งออกของท่าเรือชิงเต่าสูงถึง 187 ล้านตัน การพัฒนาอย่างรวดเร็วของชิงเต่าอาศัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยและบุคคลากรด้านต่างๆเป็นหลัก เมืองชิงเต่ามีองค์กรวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล องค์กรการศึกษาและองค์กรบริหารที่มีประสิทธิภาพชั้นสูงกว่า 20 แห่ง มหาวิทยาลัยมหาสมุทรและทะเลแห่งประเทศจีน ซึ่งเเป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านมหาสมุทรและทะเลระดับสูงของจีนก็ตั้งอยู่ในเมืองชิงเต่า บุคคลากรที่เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทะเลกว่า 50% ของจีนใช้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นศูนย์วิจัยและฐานการผลิตที่นี่จะจัดสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับทะเลระหว่างประเทศบ่อยๆ ช่วยผลิตผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลให้กับประเทศจีนเป็นจำนวนมหาศาลอีกทั้งยังเป็นเมืองท่ายุทธศาตร์ที่สำคัญของจีน มีกองเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจีน รัฐบาลจีนยกให้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันเรือใบในโอลิมปิกปี 2008 และในปี 2006 ได้เป็นเจ้าภาพแข่งขันแรลลี่ระดับชาติโดยกลุ่มยุโรปจะเข้ามาจัดที่นี

เมืองชิงเต่าอยู่ในอ้อมกอดของทะเลและภูเขา มีทัศนียภาพสวยงามและภูมิอากาศสดชื่น ประกอบกับประวัติศาสตร์ของการตกเป็นเมืองขึ้นของเยอรมนีในอดีต ซึ่งสภาพเมืองชิงเต่ามีกลิ่นไอของความเป็นยุโรปอยู่มากด้วยความที่บรรยากาศ สภาพแวดล้อม ตึกรามบ้านช่อง มีสไตล์ยุโรปกว่า 90% ทำให้เมืองนี้ดูแตกต่างจากเมืองอื่นๆของจีน ชิงเต่าจึงกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 มีทั้งอ่าวทะเลและชายหาดอันโรแมนติก ภูเขาเหลาซานที่บันทึกอยู่ในเทพนิยาย มีเมืองที่ทันสมัยและคึกคัก ตึกลามบ้านช่องสไตล์ยุโรป สถานที่บันเทิงและศูนย์จัดงานนิทรรศการ ทั้งหมดนี้ประกอบกันเป็นมนต์เสน่ห์อันน่าใฝ่ฝันของเมืองชิงเต่า ในเมืองชิงเต่ามีสถาปัตยกรรมสไตล์แตกต่างกันของ 20 กว่าประเทศ เช่น ทำเนียบผู้ว่าชิงเต่าจาก เยอรมนี โบสถ์ของศาสนาคาทอลิก คฤหาสน์แบบยุโรป ซึ่งสิ่งก่อสร้างแต่ละที่มีตำนานและที่มาของตัวเอง มีภาพยนตร์ทั้งจีนและต่างประเทศหลายเรื่องเคยใช้เมืองชิงเต่าเป็นสถานที่ถ่ายทำ หมู่บ้าน Holiday สือเหล่าเหรินซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติมีคฤหาสน์ริมทะเล อ่าวอับน้ำตามชายหาด สวนรูปบ้าน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้ทะเล เมืองเบียร์นานาชาติ สนามกอล์ฟ ศูนย์จัดนิทรรศการต่างๆ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม สนามกีฬาและคลับเรือสำราญและเรือใบเป็นต้น นับเป็นสถานบันเทิงที่ทันสมัยและครบบวงจร นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของชิงเต่าแล้ว ชาวชิงเต่ายังนิยมเล่นกีฬาอย่างมาก รับสมญานามว่า "เมืองกรีฑา" และ "เมืองฟุตบอล" ของจีน และในฐานะที่เป็นเมืองจัดการแข่งขันเรือใบของงานกีฬาโอลิมปิค 2008 เมืองชิงเต่าวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อปรับปรุงภาวะนิเวศให้ดียิ่งขึ้น โครงการพัฒนาของชิงเต่าสอดรับกับแนวความคิด "โอลิมปิคสีเขียว โอลิมปิคแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและโอลิมปิกมนุษยชาติ" พยายามจัดงานให้มีเอกรักษ์ พร้อมกันนั้น ชิงเต่าก็จะอาศัยภูมิประเทศที่มี "ภูเขา ทะเลและเมือง" เป็นแบบองค์เดียวกัน มนุษย์และธรรมชาติอยู่รวมกันอย่างกลมกลืน สร้างฐานกีฬาเหนือทะเลที่อยู่ระดับแนวหน้าของโลก และพัฒนาให้เมืองชิงเต่าเป็น "เมืองหลวงแห่งเรือใบ" ต่อไป ชิงเต่า ญี่ปุ่น และเกาหลี มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างชาติท่องเที่ยว ซึ่งตกลงในขั้นต้นที่จะสร้างเรือสำราญวิ่งระหว่างกัน เพราะทั้ง ชิงเต่า โซล โตเกียว อยู่ในแนวระนาบเดียวกัน ทำให้การท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น บินไปมาแค่ 1 ชม.เท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดนักท่องเที่ยวจากเกาหลีและญี่ปุ่นถึงเข้ามาเที่ยวในชิงเต่ามากที่สุด

สถานที่ท่องเที่ยว  

ภูเขาเหลาซาน
เขตทัศนียมภาพภูเขาเหลาซานตั้งอยู่ริมชายหาดทะเลหวงไห่ ยอดเขาหลักสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,133 เมตร เป็นยอดเขาสูงสุดในบรรดาภูเขาที่กระจายตามชายหาดของจีน สร้างชื่อเสียงโด่งดังในฐานะที่เป็น"ภูเขาเทวดากลางทะเล" และ "ภูเขาเลื่องชื่อของศาสนาเต๋า" คณะรัฐมนตรีจีนให้อนุรักษ์ไว้อย่างดี ภูมิอากาศของเขตเขานี้ดีเป็นพิเศษ หน้าหนาวอบอุ่น หน้าร้อนเย็นสบาย อารามของศาสนาเต๋าหลายแห่งอยู่กลางป่าสนอันเก่าแก่ มีประวัติอันยาวนานเกือบ 2000 ปี เคยเป็นสถานที่เผยแพร่ศาสนาเต๋าที่สำคัญของจีน หินเขาที่นี่มีรูปร่างสวยและแปลกตามีชีวิตชีวา เหมือนรูปคนและรูปสัตว์ คล้ายบรรยากาศบนสวรรค์ เป็นที่ประทับของเทพยาดา เหลาซานมีผลิตภัณฑ์จากภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ นอกจากต้นไม้โบราณและดอกไม้ลือชื่อแล้ว ยังมีน้ำพุที่เย็นฉ่ำ มีแร่ธาตุหลายชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นน้ำดื่มและน้ำที่ใช้ผลิตเบียร์คุณภาพชั้นดี ส่วนหยกทะเลบริเวณรอบนอกภูเขา  เหลาซานก็เป็นที่นิยมกันมากจากช่างฝีมือทั้งจีนและต่างประเทศ ผู้ที่สนใจและอยากศึกษาศาสนาเต๋า ต้องไม่พลาดไปปีนภูเขาเหลาซานด้วยตนเอง

โรงเบียร์ชิงเต่าโรงเบียร์
ตั้งอยู่ในเมืองชิงเต่า มณฑลซันตงทางตะวันออก เป็นเบียร์ยี่ห้อเก่าแก่บนแผ่นดินใหญ่จวบจนวันนี้ก็มีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นของโรงเบียร์แห่งนี้ ต้องนับย้อนไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1903 โรงงานผลิตเบียร์นี้ก่อตั้งขึ้นด้วยการทุ่มเงิน 400,000 มาร์คของพ่อค้าชาวเมืองเบียร์ร่วมกับพ่อค้าชาวอังกฤษ ใช้ชื่อเริ่มต้นว่า “บริษัทเบียร์เจอมานิสเชส (Germanisches) แห่งเมืองชิงเต่า จำกัด” และใช้เทคโนโลยีการหมักบ่มและวัตถุดิบจากประเทศเยอรมัน กิจการของพวกเขาดำเนินไปได้ 13 ปี ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 โรงงานผลิตเบียร์แห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของทหารญี่ปุ่นอีก 29 ปี และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงงานผลิตเบียร์ไดนิปปอน คอร์เปอเรชั่น” หลังจากนั้นเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม โรงงานแห่งหนึ่งก็ตกอยู่ในมือของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองได้ทำให้กิจการดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่นนัก การกลับมามีชีวิตใหม่ของโรงเบียร์ชิงเต่า เริ่มต้นตั้งแต่ 2 มิถุนายนปี 1949 เมื่อทหารกองทัพปลดปล่อยแห่งพรรคคอมมิวนิสต์มีชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋งในเมืองชิงเต่า และยึดโรงเบียร์แห่งนี้เป็นวิสาหกิจของรัฐอย่างเต็มตัว ซึ่งมีกิจการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 1959 ศักยภาพทางการผลิตก็เริ่มทะลุ 10,000 ตัน ถัดมาในปี 1963 ได้รับยกย่องให้เป็นเบียร์แห่งชาติยี่ห้อเดียวของจีน และเป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมนี้บนแผ่นดินใหญ่เรื่อยมาจนทุกวันนี้ในปี 1993 โรงงานผลิตเบียร์แห่งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อต้องปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทเบียร์ชิงเต่าจำกัด และเข้าสู่ตลาดทุนเป็นครั้งแรก ด้วยการปรากฏตัวทั้งในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และฮ่องกง และเมื่อจีนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก(WTO) เบียร์ชิงเต่าก็ได้ใช้โอกาสนี้เป็นพันธมิตรกับอันเฮาเซอร์ บุช ผู้ผลิตเบียร์ ‘บัดไวเซอร์’ จากสหรัฐฯ

ตึกหินหลากสี
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทางเส้นทางแปดสาย เป็นรูปแบบอาคารแบบเยอรมัน ที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมของโรมันและแบบโกธิค และเคยเป็นที่พักของพรานป่าชาวเยอรมัน ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นโรงแรมไปแล้ว

หลางหยาไถ
ตั้งอยู่ที่หลางยาในเมืองเจียวหนาน เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดและเป็นฐานที่ตั้งทางทหารในสมัยโบราณ เมืองเก่าหลางยาได้ถูกทำลายไประหว่างแผ่นดินไหว เมื่อสิ้นสุดยุคสมัยอื่น แต่ซากต่างๆทางประวัติศาสตร์ ที่หลงเหลืออยู่ เป็นภาพที่น่าประทับใจ

เส้นทางแปดสาย
ตั้งอยู่ในตัวเมืองซึ่งตั้งชื่อตามเส้นทางที่มีชื่อเสียงทั้งแปด ทั้งหมดเป็นต้นไม้และพืชพรรณที่สวยงาม ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ ต้นเชอรี่ เดือนเมษายนและ พฤษภาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมต้นเชอรี่ที่ออกดอกบานสะพรั่ง บริเวณทั้งหมดมีบ้านพักกว่า 200 หลัง ที่สร้างหลากหลายแบบอย่างสวยงาม

ข้อมูลทั่วไป
ชนเผ่า
เมืองโบราณทั้งเจ็ดของจีน
เมืองทรงเสน่ห์
ท่องเที่ยวเมืองจีน

พิเชฎฐ์ ชัยยัง การศึกษาอิสระ ประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู สำนักบัณฑิต สถาบันราชภัฏเชียงราย มกราคม 2553
 

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย