ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
ประเทศจีน
ท่องเที่ยวเมืองจีน
- พระราชวังโบราณในปักกิ่ง
-
กำแพงเมืองจีน
- หอบวงสรวงสวรรค์
-
พระราชวังฤดูร้อน
-
สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี
- เมืองโบราณลี่เจียง
-
ทิวทัศน์ในเมืองกุ้ยหลิน
ท่องเที่ยวเมืองจีน
ทิวทัศน์ในเมืองกุ้ยหลิน
กุ้ยหลิน(Guilin) เป็นหนึ่งในเมืองเอกของมณฑลกว่างซี มณฑลทางภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 240,000 ตารางกิโลเมตร ทางทิศใต้ติดกับมณฑลหยุนหนัน ทางเหนือติดกับกุ้ยโจว ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับหูหนัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ติดกับกว่างตง ทางใต้ติดกับอ่าวตังเกี๋ย และทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับประเทศเวียดนาม ลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบแอ่งกระทะ และเทือกเขาขนาดเล็กที่ยาวคดเคี้ยวติดต่อกัน เทือกเขาสำคัญ ได้แก่ ภูเขาต้าหมิงซันและต้าเหยาซัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นเขตหินปูนขาวที่ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของประเทศ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีถ้ำหินปูนอยู่มากมาย สภาพอากาศเป็นแบบเขตร้อน โดยทางเหนือเป็นเขตร้อนแถบเอเชียกลาง ทางใต้เป็นเขตร้อนแถบเอเชียใต้ อุณหภูมิเฉลี่ย 16-23 องศาเซลเซียส มีฝนตกชุก ฤดูร้อนยาวนานกว่าฤดูหนาว อุณหภูมิสูงสุดในเดือนกรกฎาคม ประมาณ 27-29 องศาเซลเซียส และต่ำสุดในเดือนมกราคมประมาณ 5.5-15.2 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,000-2,800 มิลลิเมตรต่อปี
สถานที่ท่องเที่ยวแม่น้ำหลีเจียง ( Li River)
หลีเจียง มีต้นน้ำมาจากเขาลูกแมวหรือที่ชาวจีนเรียกว่า มาวเอ๋อ
ในเขตอำเภอซิงอ่านเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกวางสี
ไหลลดเลี้ยวหลบหลีกขุนเขา ผ่านเมืองกุ้ยหลินถึงอำเภอหยางซั่วรวมความยาว 431
กิโลเมตร โดยมีชื่อใหม่ ช่วงต่อจากนั้นว่า กุ้ยเจียง
ไหลเข้าสู่ชายแดนที่อำเภออู๋โจวเข้าสู่ทิศตะวันตก ของมณฑลกวางตุ้งที่เมืองเฟิงคาย
มีชื่อใหม่ในกวางตุ้งว่า แม่น้ำตะวันตกหรือซีเจียง
ไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่กุ้ยหลินนี้อยู่ที่การล่องแม่น้ำหลีเจียง ที่มีความยาวกว่า
400 กิโลเมตร เพื่อชมทิวทัศน์ที่สุดงดงามของภูเขาหิน
ทั้งนี้โดยปกติแล้วการล่องแม่น้ำหลีเจียงเพื่อการท่องเที่ยวจะทำกันในระยะเวลา 60
กิโลเมตรโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเรือ 3 ชั้น
ที่สองชั้นล่างจะทำเป็นโต๊ะอาหาร
ขณะที่ดาดฟ้าจะเปิดโล่งให้นักท่องเที่ยวชมทิวทัศน์กันได้อย่างอิสระ ในราคาประมาณ
270 หยวน ( ราวพันกว่าบาท ) จุดหมายของการล่องเรือจะอยู่ที่เมืองหยางซั่ว
(Yang-Shou)
ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกุ้ยหลิน ห่างไปประมาณ 65 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงาม จนมีคำกว่าวว่า หากกุ้ยหลินเป็นเมืองที่สวยที่สุดในจีน หยางซั่วก็เป็นที่ที่สวยที่สุดในกุ้ยหลิน การเดินทางไปเมืองหยางซั่ว ทำได้ทั้งการล่องแม่น้ำหลีเจียง หรือโดยรถยนต์ หยางซั่ว เจริญเติบโตเพราะการท่องเที่ยว ทั้งหมู่บ้านแทบไม่มีสถานที่น่าสนใจ นอกจากร้านขายของ ร้านอาหาร และโรงแรม แต่รอบๆบริเวณเมืองหยางซั่ว มีสถานที่น่าเที่ยวชมหลายแห่ง นับว่าเป็นสวรรค์บนดิน ที่มีชื่อเสียง จนนักท่องเที่ยวมากุ้ยหลินแล้วต้องแวะ มาที่ หยางซั่ว ด้วย เนื่องจากการเดินทางโดย รถยนต์ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรืออาจจะนั่งเรือชมทัศนียภาพของหลีเจียง แล้วมาพักแรมที่หยางซั่ว ที่นี่จะสงบเงียบ เหมือนชนบท แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างพรั่งพร้อมแก่ นักท่องเที่ยว ในราคาถูก ซึ่งจะมีย่านซึ่งประกอบไปด้วย ที่พักราคาถูก มีวิดีโอหนังฮอลลีวู้ดฉาย พร้อมร้านอาหารคาเฟ่ สไตล์ตะวันตก มีขนมแพนเค็ก พร้อมกาแฟ เพียงแต่ลูกค้ามีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวแบบเป้ใบเดียว หรือเรียกว่า backpacker ชอบนักแล ทั้งยังสามารถเช่าจักรยาน ขี่เที่ยวเล่นชมแหล่ง ท่องเที่ยว อื่นๆ ข้างเคียง กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ประการหนึ่งคือ การนั่งเรือท่องแม่น้ำหลีเจียง เส้นทางเรือจากกุ้ยหลินถึงเมือง หย่างซั่ว เป็นระยะทางประมาณ 40 ไมล์ ( 60 กิโลเมตร ) ตลอดทางคดเคี้ยวของแม่น้ำหลี่ คือ ภูเขาน้อยใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตา กระตุ้นจินตนาการของผู้คนดังเห็นได้จากชื่อ เขางวงช้าง เขาตาเฒ่า เขาเจดีย์ และเขารู ภาพชาวประมง นกกาน้ำ และเพื่อนร่วมงานในแพไม้ไผ่แคบๆ
หุบเขาจิ่วไจ้โกว
ตั้งอยู่ในบริเวณทางทิศเหนือของมณฑลเสฉวน
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในบริเวณตอนใต้ของเทือกเขาหมิงซาน จิ่วไจ้โกว
อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเฉิงตูราว 500 กิโลเมตร อุทยานจิ่วจ้ายโกว
หรือที่ชาวตะวันตกเรียกขานกันในนามดินแดนแห่งเทพนิยาย
ตั้งอยู่ในอำเภอหนันผิงเขตปกครองตนเองของเผ่าเชียงชนชาติทิเบตทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวนหรือเสฉวน
ภาคตะวันตกของจีน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 720 ตารางกิโลเมตร
ท่ามกลางหุบเขาที่ทอดตัวคดเคี้ยวไปมา โตรกธารลดเลี้ยวผ่านผาสูงและน้ำตกขนาดใหญ่
ก่อเกิดเป็นทิวทัศน์อันตระการตาโดดเด่นด้วยสีสันของภาพภูมิทัศน์โดยรอบ
จิ่วไจ้โกวเป็นธารน้ำสองสายที่ไหลมารวมกัน สายหนึ่งไหลมาจากฉางไห่
(ทะเลสาบยาวด้านตะวันตก อีกสายหนึ่งไหลมาจากตาน้ำที่ป่าดึกดำบรรพ์ ทางด้านตะวันออก
สองสายธารไหลคู่ขนานแล้วมาบรรจบกันที่ใกล้บริเวณทะเลสาบกระจก หรือจิ้งไห่
จากนั้นไหลรวมกันลงไปสู่แม่น้ำขาวหรือไป๋สุ่ยเจียง มีลักษณะเป็นรูปตัววาย
- ทะเลสาบน้ำจืดขนาดน้อยใหญ่ที่มีจำนวนมากถึง144แห่ง
- ใบไม้เปลี่ยนสีที่ดูงดงามในต้นฤดูใบไม้ร่วง
- เทือกเขาที่ยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะที่แสนงดงาม
- น้ำตกขนาดน้อยใหญ่และลำธารมากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในหุบเขา
- หมู่บ้านทั้งเก้าของชนเผ่าต่างๆของชาวทิเบต
จิ่วไจ้โกวเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าทางตอนใต้ของเทือกเขาหมินซาน และเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำเจียหลิงที่เป็นสาขาหนึ่งของลำน้ำฉางเจียง(แยงซีเกียง) ตั้งอยู่ริมชายขอบของที่ราบสูงทิเบตดินแดนแห่งหลังคาโลก เป็นเขตต่อเชื่อมจากที่ราบสูงทิเบตสู่มณฑลซื่อชวน สภาพทางนิเวศวิทยาของบริเวณนี้เป็นร่องรอยที่เกิดจากแรงอัดและการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกหนุนขึ้นมาจนอยู่ในระดับสูง ทำให้เกิดร่องหินคดเคี้ยวเป็นทางยาว มีทั้งยอดเขาหิมะสูงเสียดฟ้า และหุบเขาลึก เฉพาะเขตที่มีการเปิดให้สาธารณชนเข้าชมก็มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 2,000 3,100 เมตร อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 7 8 องศาเซลเซียส ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีความสูงต่ำแตกต่างกันอย่างมากมายนี้ ได้ทำให้สภาพภูมิอากาศและพืช พรรณสัตว์ป่าก็มีความหลากหลายและซับซ้อนยิ่งขึ้น น้ำถือเป็นจุดดึงดูดที่สุดในบรรดาสุดยอดความงามของทิวทัศน์จิ่วไจ้โกว ทั้งในด้านรูปลักษณ์ สีสัน ความหลากหลาย อีกทั้งสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามยิ่งใหญ่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเลื่องลือระดับชาติของจีนความงามประหลาดของน้ำในจิ่วไจ้โกวนั้น มีสาเหตุจากการที่แหล่งน้ำในบริเวณนี้มีการสะสมของธาตุ แคลเซี่ยมเจือปนอยู่ในปริมาณสูง อีกทั้งโดยมากเกิดกับพืชซึ่งจมอยู่ใต้ท้องน้ำ ทำให้ทะเลสาบและธารน้ำของที่นี่มีสีสันสดใสงดงามแปลกตา ธารน้ำในจิ่งไจ้โกวประกอบด้วยธารน้ำหลัก 2 สายไหลมาบรรจบกันเป็นรูปตัววาย (Y) มีความยาว 50 กว่ากิโลเมตร ตลอดแนวธารน้ำปรากฏบึงน้ำ ทะเลสาบ น้ำตกและโตรกธารมากมาย สายน้ำสีเขียวใสเลี้ยวลดอยู่ระหว่างแมกไม้ราวกับสายสร้อยมรกตที่ประดับอยู่บนอาภรณ์แห่งป่าเขาลำเนาไพร ทะเลสาบเลื่อมสลับลายและน้ำตกที่สูงสง่าอลังการ ทำให้ผู้คนที่มาเยือนไม่อาจละสายตาได้ สำหรับป่าไม้โบราณที่ครอบคลุมอาณาบริเวณในจิ่วไจ้โกวกว่าครึ่ง แน่นครึ้มไปด้วยพืชพรรณแมกไม้หลายหลาก ทั้งยังเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์ป่าและนกนานาชนิด และเนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีความแตกต่างกัน ดังนั้นชนิดหรือพันธุ์พืชก็แตกต่างไปตามสภาพทางภูมิศาสตร์ และอากาศ นับตั้งแต่พันธุ์ไม้โบราณ พันธุ์ไม้หายาก พันธุ์ไม้ที่ขึ้นในป่าดิบชื้น พันธุ์ไม้ที่ผ่านการปรับตัวทางพันธุกรรม และเฟิร์นชนิดต่าง ๆที่มีคุณค่ามากมาย ปัจจุบันมีพื้นที่ป่าธรรมชาติกว่า 3 พันตารางกิโลเมตร สัตว์และพันธุ์พืชกว่า 2,000 ชนิด สัตว์อนุรักษ์อีก 17 ชนิด รวมทั้งสัตว์สงวนอย่าง แพนด้า กระทิง ค่างขนทอง ละมั่งลายจุด กวางปากขาว แพนด้าจิ๋ว ลิงกัง ไก่ฟ้า ห่านฟ้า เป็นต้น ปัจจุบัน เส้นทางอุทยานที่เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมมีความยาว 49 กิโลเมตร จากพื้นที่ 3 ใน 9 แคว โดยรัฐบาลจีนได้จัดทำบันไดไม้ปูลาดเป็นทางยาวเลียบไปกับเส้นทางน้ำ ผ่านโตรกธาร บึงน้ำ สระมรกต และน้ำตก เพื่อให้ได้ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดรถปลอดมลพิษไว้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวที่เมื่อยล้าหรือต้องการเดินทางไปชมในเขตที่ห่างไกลออกไปความงามแห่งสีสัน
จิ่วจ้ายโกวมีชื่อเสียงด้านความงามแห่งสีสันที่แปลกเปลี่ยนไม่รู้จบ ทะเลสาบผุดขึ้นท่ามกลางหมู่แมกไม้เขียวขจี น้ำใสเป็นประกายชุ่มฉ่ำ ยอดเขาประกายหิมะ ตัดกับท้องฟ้าใสสีครามสลับปุยเมฆขาวเบาบาง เงาไม้หลากสีสันต้องแสงแดดสะท้อนลงบนผิวน้ำใสราวกระจกของทะเลสาบ เกิดเป็นภาพธรรมชาติอันงดงามที่แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาลผลิ ร้อน ร่วง หนาว ไม่ว่ายามสงัดฟ้าใส หรือฝนตกฟ้าคะนอง ยามเช้าหรือยามเย็น หิมะโปรยหรือยามฝนพรำ สีของน้ำในทะเลสาบก็จะแปรเปลี่ยนไป บ้างเขียวครึ้ม ผสมน้ำเงินเข้ม บ้างฟ้าเขียวสดใส อีกทั้งสาหร่ายและพืชพรรณใต้น้ำที่สะท้อนเงาแดดต่างประชันขันแข่งกันให้สีเขียวมรกต เหลืองบุษราคัม ชมพูจนถึงแดงอ่อนราวกับเพชรพลอยที่ส่องแสงสะท้อนบาดตา ยามฤดูใบไม้ผลิ แมกไม้ผลิดอกใบ ทั้งสีแดง เหลือง ม่วง ขาว ของดอกกุหลาบพันปี ต้นท้อและแพร์ป่า สีขาวของลูกแพร์ สลับกับใบอ่อนสีเขียว ที่กำลังผลิดอกออกใบสะพรั่งในฤดูกาลนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ป่าทั้งผืนจะกลายเป็นสีเขียวไล่ระดับตั้งแต่เขียวอ่อน เขียวสดใส เขียวเจิดจ้า เขียวเข้ม สะท้อนถึงความเข้มข้นของชีวิตอันอุดมในผืนป่าแห่งนี้ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบทะเลสาบจะทยอยผลัดใบเปลี่ยนสีร่วงลงสู่ทะเลสาบ สร้างสีสันให้กับโลกใต้น้ำ ยิ่งกว่าภาพวาดที่จิตรกรจะสรรค์สร้างแต่งเติม ป่าผลัดใบเป็นสีสันฉูดฉาด บ้างเป็นสีส้มเข้ม เหลืองอ่อน แดงชาด แดงเข้ม จนถึงแดงคล้ำ ใบไม้ที่ร่วงหล่น ทำให้เส้นทางสู่ขุนเขาทอดตัวกลายเป็นสีแดงฉาน ราวกับภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ทุกหนแห่งถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาดตา น้ำตกที่แข็งตัว เป็นเส้นสาย หยดย้อยลงมาราวกับม่านสีเงิน ส่องประกาย วิบวับในแสงแดดอ่อน ผืนป่าถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวบางเบา ดูราวกับภาพในฝัน สายธารน้ำสีเงินผนึกตัวเป็นแผ่นน้ำแข็ง ราวกับกระเบื้องเคลือบชั้นดี ที่ประดับตกแต่งด้วยเพชรพลอยสีสดใสอยู่ภายในจิ่วจ้ายโกวเป็นผลงาน สร้างสรรค์ด้วยมือมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ขุนเขาเขียวขจี สายน้ำใสสะอาดไหลริน ขุนเขาโอบล้อมสายน้ำ สายน้ำพันรัดขุนเขา ขุนเขาสายน้ำสอดประสาน แมกไม้สายธารแนบชิด นับเป็นทิวทัศน์อันสดชื่นกระจ่างตา ภายใต้การจัดวางของธรรมชาติ ทุกสิ่งหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นความงามที่มนุษยชาติสุดจะได้พานพบในโลกนี้
ข้อมูลทั่วไป
ชนเผ่า
เมืองโบราณทั้งเจ็ดของจีน
เมืองทรงเสน่ห์
ท่องเที่ยวเมืองจีน
พิเชฎฐ์ ชัยยัง
การศึกษาอิสระ ประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู สำนักบัณฑิต
สถาบันราชภัฏเชียงราย มกราคม 2553