ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระเจ้าสิบชาติ

พระเตมีย์  ผู้ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี
พระมหาชนก ผู้ทรงบำเพ็ญวิริยบารมี
สุวรรณสาม ผู้บำเพ็ญเมตตาบารมี
พระเนมิราช ผู้ทรงบำเพ็ญอธิษฐานบารมี
มโหสถบัณฑิต ผู้ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมี
พระภูริทัต ผู้ทรงบำเพ็ญศีลบารมี
พระจันทกุมาร ผู้ทรงบำเพ็ญขันติบารมี
พระมหานารทกัสสปะ ผู้ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี
วิธุรบัณฑิต ผู้บำเพ็ญสัจบารมี
พระเวสสันดร ผู้ทรงบำเพ็ญทานบารมี

มโหสถบัณฑิต ผู้ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมี

หน้า1    หน้า2     หน้า3

               พระเจ้าวิเทหราช เสด็จยาตราทัพไปปัญจาลนคร ด้วยพระอิสริยยศอันยิ่งใหญ่ ประทับที่พระราชนิเวศน์ ที่มโหสถสร้างเตรียมไว้ แล้วมีหนังสือกราบทูลพระเจ้าจุลนีพรหมทัต ให้ทรงทราบเพื่อทรงนำพระราชธิดา มาอภิเษกสมรส ณ ที่นั้น พระเจ้าจุลนีพรหมทัต ก็ทรงตอบตกลงตามนั้น ฝ่ายมโหสถบัณฑิตได้สั่งทหารของตน ไปจับพระราชมารดา พระอัครมเหสี พระราชกุมาร และพระราชธิดาของพระเจ้าจุลนีพรหมทัต มาไว้ในพระราชนิเวศน์ ของพระเจ้าวิเทหราชด้วยอุบาย โดยใช้อุโมงค์ที่ขุดไว้ ซึ่งไม่มีใครทราบ แม้แต่พระเจ้าจุลนีพรหมทัต ก็ไม่ทรงทราบว่ามีอุโมงค์ และไม่ทรงทราบว่าขณะนี้ บุคคลใกล้ชิดของพระองค์ ได้ถูกมโหสถ จับไปหมดแล้วในตอนกลางคืน พอรุ่งเช้า พระเจ้าจุลนีพรหมทัตทรงยกทัพใหญ่ไปล้อม พระราชนิเวศน์ ของพระเจ้าวิเทหราชไว้อย่างแน่นหนา
               พระเจ้าวิเทหราช ทอดพระเนตรเห็นกองทัพใหญ่ มาล้อมไว้ก็ตกพระทัย เมื่อทรงทราบว่า เป็นกองทัพของพระเจ้าจุลนีพรหมทัต จะมาจับพระองค์ปลงพระชนม์ ยิ่งหวาดหวั่นพระทัย ตรัสเรียกบัณฑิตมาทรงปรึกษาหารือ บัณฑิตทั้ง 4 คนก็หวาดหวั่นขวัญหาย คนหนึ่งแนะนำ ให้ผูกคอตาย คนหนึ่งแนะนำ ให้กินยาพิษตาย คนหนึ่งแนะ ให้จับอาวุธฆ่ากันเองให้ตาย คนหนึ่งแนะ ให้เอาไฟเผาพระราชวังนี้เสียเลย แล้วยอมตายไปพร้อมๆ กัน จะได้ไม่ถูกจับไปฆ่าให้อัปยศ พระราชาวิเทหราชทรงสดับคำบัณฑิต ทั้ง 4 ยิ่งทรงเศร้าเสียพระทัย จึงทรงอ้อนวอนมโหสถ ให้หาทางช่วยเหลือ มโหสถแกล้งกราบทูลว่า ตนช่วยไม่ได้แล้วขอให้บัณฑิต ทั้ง 4 หาทางช่วย เพราะทั้ง 4 ท่านนั้นมีปัญญา สามารถยิ่งกว่าใคร อีกทั้งเป็นผู้สนับสนุนให้พระองค์เสด็จมา ส่วนตนเองได้คัดค้านแต่แรก ว่าเป็นแผนอุบายแต่ไม่ทรงเชื่อ มิหน่ำซ้ำทรงพิโรธสั่งขับไล่ตนเสีย จึงขอให้พระราชา และท่านบัณฑิตคิดหาทางกันเอง แต่บัณฑิตทั้ง 4 ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่อ้อนวอนขอให้มโหสถช่วย

               ในที่สุด มโหสถบัณฑิตก็รับปาก ที่จะช่วยเปลื้องทุกขภัยใหญ่ครั้งนี้ จึงสั่งให้ทหารของตน เปิดอุโมงค์แล้วให้ชนทั้งหลาย มีพระราชา เป็นต้น พร้อมกับพระญาติวงศ์ ของพระเจ้าจุลนีพรหมทัต ที่จับมาเสด็จลงไปในอุโมงค์นั้น และให้ทหารพาทั้งหมดไปมิถิลาทันที ส่วนตนเองออกไปพบ พระเจ้าจุลนีพรหมทัต ทูลให้ยกทัพกลับเสีย เพราะบัดนี้พระเจ้าวิเทหราช พร้อมด้วยพระญาติวงศ์ ได้เสด็จไปมิถิลานครโดยทางลับแล้ว ถ้าไม่ทรงเชื่อขอให้ทรงส่งทหาร ไปตรวจดูในพระราชวังว่า พระญาติวงศ์ยังทรงอยู่หรือไม่ เมื่อทรงส่งคนไปตรวจดู จึงทรงทรบว่าเป็นจริง ดังคำมโหสถทุกประการ ทรงดำริว่า ศึกครั้งนี้พระองค์แพ้ ตั้งแต่ยังไม่ได้รบกัน แผนอุบายก็ล้มเหลว ต้องสูญเสียเหยื่อ อันหาค่าประมาณมิได้ไปเปล่าๆ มโหสถบัณฑิตนี้ฉลาดเลิศล้ำจริงๆ ได้ตรัสชมเชย มโหสถแล้วทรงชักชวนให้อยู่กับพระองค์ โดยพระองค์จะพระราชทานลาภ สักการะให้เป็น 2 เท่า ของที่เคยได้ เมื่อมโหสถไม่ยอมรับ จึงพระราชทานรางวัลให้มากขึ้นอีก เช่น ทอง บ้านส่วย แคว้นกาสี ทาสี 400 คน และภรรยา 100 คน แต่มโหสถบัณฑิตก็ไม่รับ และได้กราบลาพระเจ้าจุลนีพรหมทัต พาทหารและบริวารของตน กลับมิถิลา
               พระเจ้าวิเทหราช ทรงชื่นชมโสมนัสยิ่ง ตรัสกับเสนกะว่า  " ท่านอาจารย์ การอยู่ร่วม กับบัณฑิตนี้เป็นสุขดีหนอ เพราะว่าบัณฑิตมโหสถ ได้ปลดเปลื้องพวกเราผู้ตกอยู่ในเงื้อมือข้าศึก ประดุจบุคคลปลดเปลื้องฝูงนก ที่ติดอยู่ในกรง หรือฝูงปลาที่ติดแห ฉะนั้น "   ประชาชนชาวมิถิลา ต่างพากันต้อนรับ และนำสักการะเป็นอันมาก มอบให้มโหสถบัณฑิต ด้วยความเลื่อมใสยินดี ความสุขเกษมเปรมปรีดิ์ จึงบังเกิดมีแก่ชนทั่วไปในมิถิลานคร

หน้า1    หน้า2     หน้า3
     

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย