ศาสนา
ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม
การเดินทางของพุทธศาสนาสู่ประเทศไทย
พระพุทธศาสนาในประเทศไทย
เส้นทางติดต่อระหว่างอินเดียกับสุวรรณภูมิ
พุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ
พุทธศาสนาสมัยฟูนัน
พุทธศาสนาสมัยทวาราวดี
พุทธศาสนาสมัยศรีวิชัย
พุทธศาสนาสมัยลพบุรี
พุทธศาสนาสมัยลานนา
พุทธศาสนาลังกาวงศ์สู่ลานนา
พุทธศาสนาสมัยสุโขทัย
การปกครองคณะสงฆ์ และศิลปกรรม
พระมหาธรรมราชาลิไทกับพุทธศาสนา
พุทธศาสนาสมัยอยุธยา
พุทธศาสนาสมัยธนบุรี
พุทธศาสนาสมัยรัตนโกสินทร์
เส้นทางติดต่อระหว่างอินเดียกับสุวรรณภูมิ
คนอินเดียส่วนมากมาตั้งหลักแหล่งในบริเวณสุวรรณภูมิ
มาจากตอนใต้และมีครอบครัวกันใหม่อีกครั้งในแผ่นดินผืนใหม่นี้
และเชื่อกันว่าในบริเวณตอนใต้ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (พวกละว้า-มอญ
เป็นชนพื้นเมืองดั่งเดิม) ได้มาตั้งอยู่ก่อนแล้ว และนับถือนิกายเถรวาท
ส่วนใหญ่มาทางทะเล ในสมัยพระเจ้าอโศกครองราชย์ได้ 8
ปีแล้วได้ยาตราทัพลงไปปราบแคว้นกาลิงคะนั้น และทีรอดตายถูกจับเป็นเชลย 150,000 คน
ส่วนใหญ่ลงเรือหนีมายังสุวรรณภูมิและเลยไปเกาะชวาก็มี เส้นทางสำคัญมี 3 สายคือ
1. ทางบก ผ่านมาทางเบงกอล (บังคลาเทศ) อัสสัม ข้ามเทือกเขาปาดไก่
เข้าสู่ตอนเหนือพม่ามาประเทศไทย
2. ทางเรือ ข้ามอ่าวเบงคอลมาขึ้นที่อ่าวเมาะตะมะ หรือมาขึ้นที่ท่ามะริด ทวาย
ตะนาวศรี แล้วเดินบกสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างบริเวณ นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี
อ่างทอง ราชบุรี
3. ทางเรือ ข้ามมหาสมุทรอินเดียเข้าช่องแคบมะละกา ขึ้นบกที่แหลมมลายู
หรืออ้อมแหลมไปยังกัมพูชา และจัมปา จีน
สำหรับเส้นทางทั้ง 2
สายนั้นมีเส้นทางแยกไปอีกคือ ขึ้นที่ตักโกละบ้าง ที่ตรังบ้าง
ตรงมายังสุวรรณภูมิก็มี บางรายไปอ่าวบ้านดอนต่อไปยังฟูนันก็มี
บางรายออกจากจังหวัดตรังไปยังนครศรีธรรมราช
สรุปว่ามีชาวอินเดียมาตั้งหลักแหล่งเริ่มตั้งแต่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี
ลงไปจนสุดแหลมมลายู ส่วนเส้นทางสายที่สามเป็นที่นิยมกันมากมาแต่ครั้งโบราณแล้ว
ชาวอินเดียที่ไปตั้งอาณานิคมอยู่ทางตะวันออก เช่น ชวา มลายู และจาม เป็นต้น
ไม่นิยมเดินทางบก เพราะมีอันตรายขนส่งสินค้าลำบากเมื่อทำการค้า
อีกทั้งชาวอินเดียมีความรู้ทางทะเลและฤดูมรสุมจึงสามารถเดินเรือได้เป็นอย่างดี
ในย่านเหล่านี้เมื่อพระเถระทั้งสองได้แก่ พระโสนะ พระอุตตระ
โดยพระเจ้าอโศกส่งมาประกาศพุทธศาสนา จึงเป็นไปด้วยความสะดวก
เพราะมีคนอินเดียมาตั้งหลักแหล่งอยู่กันมาก และใช้ภาษาเดียวกัน
หรือมีล่ามชาวอินเดียช่วยเหลืออีกทีหนึ่ง
ส่วนใหญ่คงใช้ทางน้ำ แม้ท่านฟาเหียน (ภิกษุชาวจีน)
ได้ออกเดินทางจากเมืองเชียงอัน ผ่านตอนกลางประเทศจีนลงสู่แคชเมียร์ คันธาระ
เที่ยวศึกษาอยู่ในอินเดียแล้วเลยไปลังกา จากลังกาก็กลับเมืองจีน
โดยผ่านอ่างเบงคอลไปยังหมู่เกาะชวาแล้วจึงเดินทางต่อไปเมืองจีน (ใช้เวลา 15 ปี)
ต่อมาท่านอี้จิงก็อาศัยการเดินทางเรือเส้นทางนี้เช่นเดียวกัน