วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>
การผ่าศพทางนิติเวชศาสตร์ (Forensic autopsy)
การผ่าศพทางนิติเวชศาสตร์มีวิธีการเช่นเดียวกับการผ่าศพทางพยาธิวิทยา
(Patho-logical autopsy) คือต้องเริ่มตั้งแต่การตรวจสภาพศพภายนอก
ตรวจบาดแผลและการเปลี่ยนแปลงต่างๆของร่างกายภายนอก แล้วจึงผ่าศพเพื่อตรวจภายใน
เพื่อหาสาเหตุการตาย กลไกในการตาย
และในบางรายอาจจะช่วยเป็นแนวทางให้ทราบถึงพฤติการณ์ในการตายได้
ส่วนวิธีการที่จะใช้มีดกรีดผิวหนังให้เป็นรูปร่างใด
ขึ้นอยู่กับความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ในแต่ละรายให้เหมาะสม
เพื่อให้ได้รายละเอียดและข้อมูลตามต้องการ
การผ่าศพทางพยาธิวิทยาจะเน้นไปทางด้านการเจ็บป่วยของผู้ตาย
เพื่อวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคใด เหตุตายคืออะไร กลไกในการตายเป็นอย่างไร
แพทย์ผู้รักษาต้องให้ความร่วมมือในการส่งรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติ อาการของโรค
การดำเนินโรค การรักษาพยาบาล ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
อาการที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างการรักษา
และพยาธิแพทย์จะใช้ข้อมูลทั้งหมดเพื่อสรุปว่าผู้ป่วยตายเพราะเหตุใด
การวินิจฉัยหรือการรักษาพยาบาลที่ให้แก่ผู้ป่วยรายนี้น่าจะมีความเหมาะสมหรือไม่
อันจะใช้เป็นแนวทางในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยรายอื่นที่ได้รับการวินิจฉัยแบบเดียวกันหรือมีอาการคล้าย
ๆ กัน ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ไป
ส่วนการผ่าศพทางนิติพยาธินั้น จะเน้นเกี่ยวกับพยาธิสภาพของบาดแผล
เพราะการตรวจผู้เสียชีวิตอันจะเป็นหน้าที่ของนิติพยาธิแพทย์ คือการตายอย่างกะทันหัน
เช่น ถูกทำร้าย อุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย หรือการตายโดยไม่ทราบเหตุ
ฉะนั้นประวัติด้านการรักษาพยาบาลอาจจะมีน้อย
ยกเว้นในรายที่ผู้ตายไม่ได้ตายทันทีหลังเกิดเหตุ
อาจจะได้รับการรักษาพยาบาลมาช่วงเวลาหนึ่ง
ซึ่งในกรณีอย่างนี้แพทย์ผู้รักษาต้องให้ความร่วมมือในการส่งรายละเอียด
การรักษาพยาบาล การดำเนินโรค การเปลี่ยนแปลงของอาการ
ตลอดจนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เหมือนกับการส่งให้พยาธิแพทย์เช่นกัน
และถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วย พนักงานผู้ชันสูตร
พลิกศพสามารถส่งหมายเรียกให้มาให้ปากคำได้ ถ้าแพทย์ผู้รักษาไม่ให้ความร่วมมือ
ถึงแม้การผ่าศพทางนิติพยาธิจะเน้นการตรวจบาดแผลภายนอก แต่การผ่าศพ
ตลอดจนการตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางกล้องจุลทรรศน์ยังจำเป็นมาก
ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ผู้ตายมักจะตายในขณะเกิดเหตุ บาดแผลต่าง ๆ
อาจยังไม่ทันมีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพ
จึงตรวจไม่พบการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อทางกล้องจุลทรรศน์
แต่ยังมีผู้ตายในกรณีอื่น ๆ เช่น ผู้ที่ตายอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด
หรือผู้ป่วยที่ตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการตายตามธรรมชาติ
การตัดชิ้นเนื้อทางกล้องจุลทรรศน์จึงเป็นข้อมูลสำคัญในการวินิจฉัย
อีกกรณีหนึ่งซึ่งพบมากขึ้น
คือญาติผู้ตายร้องเรียนว่าแพทย์ให้การรักษาพยาบาล
ไม่เหมาะสมเป็นเหตุให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตาย
ทำให้การตายนั้นกลายเป็นคดีเข้าข่ายที่ต้องให้นิติเวชแพทย์เป็นผู้ตรวจ ทั้ง ๆ
ที่เหตุตายเป็นการตายจากโรคทางธรรมชาติ
ส่วนใหญ่ผู้ตายผิดธรรมชาติมักตายในขณะเกิดเหตุ หรือหลังเกิดเหตุในเวลาสั้น ๆ
และนิติพยาธิแพทย์จะเน้นทางด้านบาดแผลดังกล่าวแล้ว
ประวัติหรือเรื่องราวที่เกิดเหตุจึงค่อนข้างสั้น และในหลาย ๆ
กรณีสามารถตรวจสอบได้ง่ายเมื่อเห็นสถานที่เกิดเหตุ เช่น
ในที่เกิดเหตุพบผู้ตายแขวนคอตายที่ขื่อเพดานในห้องนอน
โดยที่ประตูหน้าต่างห้องนอนปิดสนิท เครื่องปรับอากาศยังทำงานอยู่
ในห้องมีสภาพเรียบร้อยไม่มีร่องรอยการต่อสู้
และมีจดหมายเขียนด้วยลายมือผู้ตายอ้างเหตุฆ่าตัวตายอยู่บนโต๊ะน่าจะเชื่อได้ว่าผูกคอตนเองไปกว่า
80% แล้ว เมื่อพิจารณาร่วมกับการผ่าศพที่ไม่พบว่ามีบาดแผลใดใดในร่างกาย
นอกจากบาดแผลการรัดที่ลำคอ การบาดเจ็บภายในลำคอก็พบน้อยมาก พนักงาน
ผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพสามารถสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายผูกคอตนเอง
อาจจะกล่าวได้ว่าการผ่าศพทางนิติพยาธิเริ่มตั้งแต่ที่เกิดเหตุ( Forensic autopsy
begins at crime scene)
นอกจากนั้นการดูศพตั้งแต่ที่เกิดเหตุ
ยังทำให้สามารถดำเนินการป้องกันหรือรักษาสภาพบางส่วนของศพเป็นพิเศษได้ เช่น
เมื่อมีเหตุยิงกันตายและผู้ตายมีส่วนร่วมในการยิงกันด้วย
ควรรักษามือที่ใช้ยิงเป็นกรณีพิเศษ เช่น
ใช้ถุงหุ้มมือข้างนั้นไม่ให้มีการปนเปื้อนและไม่ให้มีการพิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือก่อนจะทำการตรวจเขม่าดินปืนเป็นต้น
หรือในรายที่เกิดการข่มขืนและฆ่า ก็ควรห่อหุ้มมือทั้ง 2
ข้างในลักษณะที่จะรักษาสิ่งที่อาจจะอยู่ในมือผู้ตาย ซึ่งสามารถใช้เป็นวัตถุพยานได้
การที่นิติพยาธิแพทย์เน้นทางด้านการตรวจบาดแผลภายนอก
ทำให้ต้องเน้นไปถึงเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มด้วย
เนื่องจากเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายจะรองรับอาวุธ หรือวัตถุที่ก่อให้เกิดบาดแผลก่อน
ร่องรอยของอาวุธอาจจะปรากฏบนเสื้อผ้า แทนที่จะไปปรากฏบนบาดแผล ก็ได้
นอกจากนั้นบาดแผลที่ทะลุผ่านเสื้อผ้ากับบาดแผลที่ไม่ทะลุผ่านเสื้อผ้าก็มีความหมายต่างกัน
เช่น ถ้าเป็นการฆ่าตัวตาย บาดแผลจะเกิดที่ส่วนของร่างกายที่เลือกตำแหน่งแล้ว
และมักไม่ทะลุผ่านเสื้อผ้าของตนเอง
ความแตกต่างอีกประการหนึ่งระหว่างพยาธิและนิติพยาธิคือ พยาธิแพทย์มัก
ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการประเมินระยะเวลาในการตายของผู้ตาย
เนื่องจากผู้ตายส่วนใหญ่จะตายในโรงพยาบาลและทราบเวลาตายอยู่แล้ว
หลังตายก็สามารถเก็บศพไว้ในตู้เย็น
โอกาสของพยาธิแพทย์ที่จะได้รับศพที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการเน่าสลายตัวแทบจะไม่มี
ส่วนนิติพยาธิแพทย์จะต้องพบศพที่เน่าสลายตัวทุกรูปแบบ
และจำเป็นต้องพยายามประเมินระยะเวลาตายให้ใกล้เคียงด้วย
บทบาทของนิติเวชศาสตร์ต่อกระบวนการยุติธรรม
การชันสูตรพลิกศพ
การชันสูตรและผ่าศพในประเทศไทย
การผ่าศพทางนิติเวชศาสตร์
การพิสูจน์หลักฐาน
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชันสูตรพลิกศพ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ
บรรณานุกรม