สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
พริก
พริกขี้หนู (cayenne pepper)
พริกชี้ฟ้า (chili Spur pepper)
พริกหยวก
(red-pepper หรือ sweet pepper)
พริกเป็นอาหารสมุนไพรที่ใช้กับทุกครัวเรือน
ท่านทราบหรือไม่ว่าพริกนั้นมีคุณค่าทางอาหารและคุณค่าทางยาที่วิเศษชนิดหนึ่ง
พริกที่เรานำมาปรุงเป็นอาหารจะใช้ทั้ง พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า และพริกหยวก
ในพริกมีสาร capsaicin ซึ่งมีมากในไส้พริก เป็นสารที่มีรสเผ็ด
นอกจากนี้ยังมีสาร carotenoid วิตามินซี วิตามินเอ ไขมัน และ โปรตีน
สรรพคุณ
- พริกช่วยขับเสมหะ ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง สารแคปไซซินช่วยลดความไวของปอด
ต่อการเกิดอาการต่างๆ เช่น การบวมของเซลล์หลอดลมใหญ่และเล็ก
ลดการหดเกร็งเนื้อรอบหลอดลม พริกเผ็ดจึงเป็นประโยชน์ต่อคนที่เป็นหอบหืด
เมื่อเราลองกินพริกที่รสเผ็ดๆ น้ำตา น้ำมูกไหล ซึ่งอธิบายได้ว่า
พริกช่วยให้เสมหะที่ข้นเหนียว เจือจางลง
ร่างกายจะขับเสมหะออกจากหลอดลมได้ง่ายขึ้น
- ช่วยสลายลิ่มเลือด มีรายงานการวิจัย นายแพทย์สุคนธ์ วิสุทธิพันธ์และคณะ
จากศิริราชพยาบาล ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบ 2 กลุ่มคือคนที่ได้รับพริก
และไม่ได้รับพริกในอาหาร
ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับพริกจะมีการทำงานของร่างกายเพื่อสลายลิ่มเลือดได้เร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับพริก
แต่หลังจากกินพริกแล้วครึ่งชั่วโมง
ความสามารถในการสลายลิ่มเลือดจะกลับคืนสู่ปกติ
และยังมีการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ของชาวอินเดีย
เปรียบเทียบชาวไทยกับชาวอเมริกันที่อาศัยในไทยแต่ไม่รับประทานพริก
พบว่าคนอเมริกันมี fribrinogen ในเลือดสูง และเลือดมีโอกาสจะจับตัวเป็นลิ่ม
และนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจได้ง่ายกว่า ดังนั้นผลดีที่คนไทยใช้พริกประกอบอาหาร
โอกาสจะเกิดโรคหัวใจจึงมีน้อยกว่า
- บรรเทาอาการปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน สารแคปไซซิน
ออกฤทธิ์ต่อเซลประสาทโดยชะลอการหลั่งของ neurotransmitter ที่ปลายประสาท
substance P ส่งผลให้สมองส่วนกลางรับรู้การเจ็บปวดช้าลง
- พริกช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอ็นดอร์พิน (endorphins)
ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข
เมื่อรับประทานพริกจะเกิดความสุขและเป็นส่วนหนึ่งทำให้อยากเพิ่มขนาดพริกในอาหารขึ้นเรื่อยๆ
สารเอ็นดอร์พินมีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน คือ การออกฤทธิ์ทำให้เกิดการผ่อนคลาย
ทำให้อยากหลับ (opiates)
ซึ่งนั้นก็ให้เกิดความสุขแก่ตัวเราและทำให้ความดันโลหิตลดลง
- พริกจะช่วยกระตุ้นให้อยากอาหาร
- พริกช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องจากในพริกมีทั้งวิตามิน เอ ซี และโปรตีน
ข้อควรระวัง
แม้ว่าพริกจะมีสรรพคุณนานัปการอย่างที่กล่าวแล้ว
แต่ท่านต้องใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ควรรับประทานรสเผ็ดจัด และในผู้ที่มีโรคประจำตัว
เช่น เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือหลอดอาหาร ไม่ควรรับประทานพริกมาก
เพราะอาการเจ็บป่วยของท่านอาจเป็นมากขึ้น ไม่ควรทานเผ็ดในช่วงท้องว่าง
ควรปรุงเป็นอาหาร ไม่ควรเคี้ยวพริกสด ๆ
เพราะอาจจะเกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร
อาจจะทำให้ท่านเป็นแผลเรื้อรังและกลายเป็นมะเร็งได้