สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>

โรคติดต่อ

โรคไวรัสตับอักเสบ เอ

เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ซึ่งในสมัยก่อนมักพบค่อนข้างสูงในเด็กอายุระหว่าง 5-14 ปี โดยเด็กที่ป่วยมักไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง แต่ทำให้เกิดการสร้างภูมิคุมกันต่อโรคเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ปัจจุบัน การสาธารณะสุขดีขึ้นจำนวนเด็กที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบเอมีน้อยลง ส่งผลให้เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้ ซึ่งผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ จะมีอาการรุนแรงกว่าผู้ป่วยเด็กอย่างเห็นได้ชัด

อาหารไม่สะอาด อาจเป็นสาเหตุของโรคไวรัสตับอักเสบเอ

ติดต่อกันได้ทางอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยผู้ป่วยจะขับถ่ายเชื้อออกมากับอุจจาระ ซึ่งถ้าไม่ถ่ายในส้วม ไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะไปสัมผัส หรือปรุงอาหารก็จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อได้อย่างรวดเร็ว

โรคไวรัสตับอักเสบ เอ เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีตนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น สถานรับเลี้ยงเด็กที่มีสุขอนามัยไม่ดี โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนเด็กเล็กโรงเรียนประถม โรงอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นกลุ่มคนที่มีโอกาสรับเชื้อ หรือมีโอกาสเสี่ยงสูง ที่จะเป็นพาหะของโรคก็คือ เด็กๆที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายยังไม่ดีพอ พ่อครัว แม่ครัว กลุ่มผู้ประกอบอาหาร พนักงานรักษาความสะอาด พนักงานเก็บขยะ หรือผู้ใหญ่ทั่วไปที่ไม่เคยไปรับเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ มาก่อน ดังนั้นจึงยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้

โรคไวรัสตับอักเสบ เอ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย

ผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีอาการประมาณ 15-50 วัน หลังได้รับเชื้อ อาการของโรคตับอักเสบจะคล้ายคลึงกันไม่ว่าจะเกิดจากไวรัสตับอักเสบ เอ หรือ บี โดยในระยะ 3-7 วันแรกจะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บที่ใต้ชายโครงขวา ต่อจากนั้นจะมีปัสสาวะสีเข้มเหมือนสีชา บางคนอาจมีอุจจาระสีเหลืองซีดลง ไข้เริ่มลดลง ผู้ป่วยหยุดอาเจียนและเริ่มอยากอาหาร ในขณะเดียวกับที่สังเกตเห็นว่ามีตัวเหลืองตาเหลือง(ดีซ่าน)เกิดขึ้น อาการนี้จะเป็นอยู่ราว 1-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติในเวลาไม่เกิน 1-2 เดือนมีบางรายที่อาจมีดีซ่านรวมกับอุจจาระสีเหลืองซีด แต่ในที่สุดจะหายเป็นปกติไม่มีผู้ใดเป็นเรื้อรัง
การพักผ่อนคือการรักษาที่ดีที่สุด

การป้องกัน

1. การรักษาอนามัยที่ดี
2. ขับถ่ายในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
3. ล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบจับอาหาร
4. ควรเลือกรับประทานอาหารที่สุก สะอาด ไม่มีแมลงวันตอม
5. หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้กับผู้ป่วย

การป้องกันที่ดีที่สุด และได้ผลดี คือการฉีดวัคซีน

โรคตาแดง
โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
โรคคอตีบ
โรคบาดทะยัก
โรคโปลิโอ
โรคสุกใส
โรคอุจจาระร่วงในเด็ก
โรคไอกรน
โรคไวรัสตับอักเสบ เอ
โรคคางทูม
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัด

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย