วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
การเดินทางผจญภัยเพื่อหาประสบการณ์
ความสำคัญของวิชาความรู้
ความว้าเหว่และการขาดความอบอุ่นภายในครอบครัว
ความขัดแย้งและการต่อสู้ระหว่างพ่อแม่กับลูก
ความสำคัญของวิชาความรู้
แก่นเรื่องย่อยอีกแก่นหนึ่งที่ปรากฏชัดเจนจนอาจกล่าวได้ว่าเป็นแก่นเรื่องที่เกิดจากความตั้งใจของผู้แต่งอย่างแน่นอน
ก็คือความสำคัญของวิชาความรู้ หรืออีกนัยหนึ่งคือความสำคัญของการศึกษา
โดยการเดินทางไปเสาะแสวงหาครูอาจารย์ผู้มีวิชา
วรรณคดีไทยน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากวรรณคดีอินเดีย ซึ่งในเรื่องพระอภัยมณีนั้น
ผู้ที่เป็นอาจารย์มีอยู่ 3 ประเภท คือ
1. พราหมณ์
2. โยคี หรือ ฤษี
3. บาทหลวง
นอกจากครูผู้สอนจะมีความสำคัญในฐานะสั่งสอนวิชาการให้แล้ว
ยังมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของศิษย์ เพราะครูอยู่ในฐานะที่ได้รับความยกย่องเคารพ
เมื่อแนะนำหรือตักเตือนอย่างไร ผู้อื่นมักเชื่อฟังเสมอแม้จะไม่เต็มใจนัก เช่น
นางละเวงไม่เต็มใจทำตามสังฆราช แต่ก็ต้องทำเพราะความเกรงใจ เป็นต้น
บทบาทของครูในเรื่องพระอภัยมณีนี้ สุนทรภู่ยึดเค้าจากวรรณคดีเก่า
ทำให้บทบาทเหล่านั้นมีความเด่นน่าสนใจ และแปลกไปจากบทบาททำนองเดียวกันในเรื่องอื่น
ๆ
นอกจากลักษณะที่น่าสนใจเกี่ยวกับบทบาทแล้ว
สิ่งที่น่าศึกษาอีกอย่างหนึ่งคือวิชาที่กล่าวถึงในเรื่อง
จะสังเกตได้ว่าวิชาที่กล่าวถึงมากที่สุดในเรื่องประเภทนี้
คือวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคมต่าง ๆ
ซึ่งในสมัยก่อนเชื่อถือกันว่าเป็นเรื่องจริงและมีความสำคัญมาก
โดยเฉพาะในการศึกษาของผู้ชาย
วิชาเหล่านี้ถือเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกันตัวที่จำเป็นต้องเรียนรู้
ในเรื่องพระอภัยมณี วิชาไสยศาสตร์ก็ได้รับการกล่าวถึงบ่อยครั้ง เช่น การทำเสน่ห์
การใช้คาถาอาคม อำนาจลึกลับต่าง ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องนี้
คือแนวความคิดของสุนทรภู่เกี่ยวกับการศึกษาวิชาความรู้
สุนทรภู่ได้เน้นให้เห็นชัดหลายครั้งว่า วิชาความรู้ที่ประกอบด้วยการใช้ความคิด
ซึ่งได้รับการฝึกฝนให้เฉียบแหลมนั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด
ดังเช่นที่โยคีสอนสุดสาครว่า
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
ในเรื่องนี้ ตัวละครทุกตัวได้รับการศึกษาอบรมมาเป็นอย่างดีทั้งสิ้น
บ้างก็มีความรู้ด้านการรบ บ้างก็ด้านเวทมนต์คาถา
ดังเช่นนางสุวรรณมาลีก็ได้ร่ำเรียนวิชาการรบ เพราะอยู่ในฐานะลูกกษัตริย์
แสดงว่าแม้จะเป็นหญิงหรือชาย ก็มีความจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เท่าเทียมกัน
ตัวละครหญิงแทบทุกตัวในเรื่องพระอภัยมณีล้วนแต่มีวิชาความรู้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชายเลย
ความคิดของสุนทรภู่ในการที่แต่งให้พระอภัยมณีเรียนวิชาดนตรีแทนวิชาอย่างอื่น ๆ นั้น
สันนิษฐานว่าเป็นเพราะสุนทรภู่มีวิชาสำคัญประจำตัวอยู่อย่างเดียวคือ
วิชาการแต่งกลอน ฉะนั้นสุนทรภู่จึงแต่งให้ พระอภัยมณีมีวิชาปี่อย่างเดียว
เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าวิชาศิลปะนั้นมีความสำคัญและมีคุณค่าไม่ด้อยกว่าวิชาอื่น
ไม่ใช่แต่เพียงสอนวิธีเป่าปี่เท่านั้น
พินทพราหมณ์ยังสอนเนื้อความหรือเนื้อหาของเพลงที่จะเป่าว่าจะเลือกเนื้อความและท่วงทำนองอย่างไร
จึงจะได้ผลสมความต้องการ
วิชาประจำตัวของพระอภัยมณีนั้นสามารถช่วยตัวพระอภัยมณีให้รอดพ้นจากที่คับขันได้
ในเรื่องปรากฏว่า พระอภัยมณีเป่าปี่ถึง 11 ครั้ง ครั้งสำคัญที่กล่าวได้ว่า
เพลงปี่ช่วยให้รอดพ้นอันตรายนั้น ได้แก่ครั้งที่เป่าสังหารนางผีเสื้อ
และครั้งที่สะกดทัพนางละเวงวัณฬาซึ่งเป็นการ คับขันจวนตัวอย่างยิ่ง
แสดงว่าวิชาดนตรีนั้นช่วยตัวเองได้จริง แต่สิ่งที่ปรากฏแน่ชัดคือ
สุนทรภู่มีเจตนาที่จะแสดงความสำคัญของวิชาความรู้ว่าจำเป็นยิ่งนักสำหรับทุกคน
วิชานั้นจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องเรียนรู้จริงและใช้ได้จริง