ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์

การศึกษาเพื่อสันติภาพ

โดย บิช็อบคาร์ลอส ฟิลิเป ซีเมเนส เบโล

วัฒนธรรม
สันติภาพคืออะไร
การศึกษาเพื่อสันติภาพ
ขอบเขตของการศึกษาเพื่อสันติภาพ

สันติภาพคืออะไร

คำว่า “peace” ในภาษาอังกฤษ คำว่า “paix” ในภาษาฝรั่งเศส คำว่า “pace” ในภาษา อิตาเลียนและคำว่า “paz” ในภาษาโปรตุเกสและสเปน ล้วนมาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า “pax” หรือ “paics” ตามความเห็นของนักประวัติศาสตร์คำว่า “pax” ถือกำเนิดขึ้นในจักรวรรดิโรมัน คำคำนี้หมายถึง ช่วงเวลาที่ไม่มีสงครามหรือสงครามกลางเมือง หรือถ้าจะใช้ให้ถูกคำว่า “Pax Romana” น่าจะเหมาะสมที่สุด ชาวโรมันยังเชื่อมโยงความหมายของคำว่า “pax” กับนามธรรมอื่นๆ เช่น การสอดคล้องกัน, เกียรติยศ, และคุณธรรม เป็นต้น Santo Agostinho ซึ่งเป็นบิชอบในนิกายแคทอลิกในศตวรรษที่ 4 ได้ให้นิยามคำว่า “Paz” ไว้ว่าหมายถึง ความสงบเรียบร้อย

ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับศาสนาของชาวยิวและศาสนาคริสต์ สันติภาพในภาษาฮิบรู คือคำว่า “Shalom” ซึ่งพัฒนามาจากรากศัพท์ว่า “shelemut” อันหมายถึงความสมบูรณ์และ ความเต็มพร้อม ในพระคัมภีร์ไบเบิลคำว่า “Shalom” มีความเกี่ยวข้องกับภาวะแห่งความ สงบสุขและความอุดมสมบูรณ์ “Shalom” ยังหมายถึงพระพรของพระเจ้า พระคุณของพระเจ้า ความสง่างาม ความยุติธรรม สัจธรรม ความสุข และความเป็นอยู่ที่ดี จากพระธรรมอิสยาห์ 32:17 สันติภาพคือผลของความชอบธรรม พระธรรมอิสยาห์ 9:5 ได้กล่าวว่า “พระเจ้าทรงเป็นองค์สันติราช”

สำหรับชาวคริสเตียน (นิกายแคทอลิก) “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นสันติสุขของเรา” (พระธรรมเอเฟซัส 2:14) และพระธรรมกาลาเทีย 5:22-23 ได้กล่าวไว้ว่า “ผลของพระวิญญาณนั่นคือ... สันติสุข” หลังจากที่พระเยซูได้ทรงฟื้นจากความตาย พระองค์ทรงตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถอะ” (พระธรรมยอห์น 20:21) พระองค์ทรงเป็นผู้ให้สันติสุขแก่เรา “เรามอบสันติสุข ไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย” (พระธรรมยอห์น 14:27)

ในบริบทของ Christian spirituality ศาสนศาสตร์เชิงจิตวิญญาณจำแนกความแตกต่าง ระหว่างสันติภาพของบุคคลหรือสันติภาพภายใน กับสันติภาพของสังคมหรือสันติภาพภายนอก ไว้ว่าสันติภาพของบุคคลนั้นเป็นความสงบสุขที่ถือกำเนิดจากจิตวิญญาณภายในและการ ตระหนักรู้ถึง สัมพันธภาพของตนกับพระผู้เป็นเจ้าและกับผู้อื่น ส่วนสันติภาพทางสังคมนั้น เป็นการอยู่ร่วมกันภายใต้กฎระเบียบทางสังคมอย่างสงบ ในแง่นี้ศาสนจักรแคทอลิกได้ กล่าวเสริมไว้ว่าสันติภาพไม่ได้เป็นเพียงแค่การปราศจากสงคราม หรือเป็นเพียง สัมพันธภาพที่สมดุลกันระหว่างผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกันเท่านั้น ตามคำสอนของนิกายแคทอลิค การที่จะทำให้เกิดสันติภาพทางสังคมได้นั้นมนุษย์จะต้องเต็มใจที่จะเคารพในศักดิ์ศรีของ ผู้อื่นและเริ่มกระทำการใดๆที่ก่อให้เกิดภราดรภาพ

ตามความเห็นของพระสันตปาปาเปาโล ที่ 6 (ค.ศ. 1963 – 1978) สันติภาพหมายถึง การพัฒนา ถ้าพิจารณาตามความหมายนี้แล้วสันติภาพหมายถึงการขจัดความอยุติธรรมและ ความเหลื่อมล้ำของ ระดับชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ, การขจัดความอิจฉาริษยาและ การไม่ไว้วางใจ รวมถึงความเย่อหยิ่งซึ่งเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น สิ่งเหล่านี้จัดว่าเป็น ภาวะคุกคามต่อสันติภาพทั้งสิ้น จึงนับว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่นานาชาติจะได้จัดหา ปัจจัยทางสังคมที่จำเป็น เช่น อาหาร, การศึกษา, การดูแลสุขภาพ, และการจ้างงาน ซึ่งมีอยู่พร้อมในประเทศที่พัฒนาแล้วแต่กลับขาดแคลนในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยสงครามและผู้อพยพที่ยากจน

พระสันตะปาปา ยอห์นที่ 13 ได้ทรงส่งสาส์นชื่อว่า Pacem in Terris (สันติสุขบนโลก) ถึง ชาวคริสต์นิกายแคทอลิกว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นเหมือนกับความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคล ในแง่ที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นไม่ควรจะถูกสร้างขึ้นโดยใช้กำลัง บังคับหรือใช้ความรุนแรง แต่สันติภาพควรจะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้เหตุผลบนพื้นฐานของ สัจธรรม, ความยุติธรรม, และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในแง่ที่เกี่ยวข้องกับสัจธรรมนั้น การแบ่งแยกทางเชื้อชาติควรจะ ถูกกำจัดให้หมดสิ้นไป และในทำนองเดียวกันการตระหนักถึง ศักดิ์ศรีของแต่ละบุคคลก็ควรจะถูกสร้างขึ้นด้วย คนแต่ละคนมีสิทธิในการมีชีวิตอยู่ และมีสิทธ ิในการครอบครองทรัพย์สินที่จำเป็นซึ่งจะช่วยให้เขาพึ่งตนเองได้ แต่ละประเทศสามารถทำให้ วัฒนธรรม อารยธรรมและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของตนแตกต่างไปจากประเทศอื่นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ประเทศนั้น ๆ ตัดสินว่าตนเองเหนือกว่าประเทศอื่นๆ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม หมายความว่ารัฐควร ตระหนักถึงสิทธิระหว่างกันและควรให้ความร่วมมือในการพัฒนาโลก รัฐยังมีสิทธิที่จะดำรงอยู่, ได้รับการพัฒนา, และใช้ทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้เกิดสัมฤทธิผลในการพัฒนาบนพื้นฐานของ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จากหลักการของสัจธรรมและความยุติธรรมดังกล่าว ข้างต้น รัฐควรจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เป็นไปเพื่อการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ในทางสังคม การเมืองและวัฒนธรรม พร้อมทั้งนำเสนอภาพพจน์ของโลกที่เป็นจริงด้วย ในทางตรงกันข้าม ความเคารพนับถือและความก้าวหน้าของชีวิตมนุษย์นั้นก็ต้องการ สันติภาพเพราะสันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้ในโลกถ้าปราศจากการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินของ ผู้คน, การติดต่อสื่อสารอย่างเสรีในกลุ่มคน, การเคารพในศักดิ์ศรีของผู้อื่นและการยึดถือปฏิบัติ เพื่อทำให้เกิด ภราดรภาพ จากความเชื่อเช่นนี้สงครามควรจะถูกกำจัดหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด อย่างสิ้นเชิง การใช้อาวุธนิวเคลียร์, ยุทธวิธีการแทรกซึมเพื่อก่อการร้าย, หรือการขู่กรรโชกต่างๆ ควรถูกตอบโต้ อย่างจริงจัง การทำลายล้างเผ่าพันธุ์, ชาติพันธุ์, หรือชนกลุ่มน้อยควรถูกประณาม และถือว่าเป็นการ ก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษย์ การปฏิบัติการอย่างก้าวร้าวที่ทำลายล้างเมือง ทั้งเมืองหรือพื้นที่ใดๆ ในวงกว้างที่นำไปสู่การฆาตกรรมผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นนับเป็น อาชญากรรมต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อมวลมนุษยชาติ

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย