ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ

พระราชบัญญัติ การจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พ.ศ. 2541

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2541
เป็นปีที่ 53 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ ปริญญาตรีในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการจัดการ ศึกษาระดับปริญญาตรีในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พ.ศ. 2541"

มาตรา 2* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป *

[รก.2541/79ก/13/2 พฤศจิกายน 2541]

มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ "สถาบัน" หมายความว่า สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ในสังกัดกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ "คณะกรรมการสถาบัน" หมายความว่า คณะกรรมการสถาบันบัณฑิต พัฒนศิลป์

มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการเพื่อปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการนั้นเมื่อได้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด 1
บททั่วไป
______

มาตรา 5 ให้สถาบันมีอำนาจจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีด้าน ช่างศิลป์ นาฏศิลป์ และดุริยางคศิลป์ทั้งไทยและสากล และศิลปวัฒนธรรม

มาตรา 6 การจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกสำนักงานอธิการ คณะหรือภาควิชา หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือ ภาควิชา ให้ทำเป็นประกาศกระทรวงศึกษาธิการ การจัดระบบบริหารงานในสำนักงานอธิการ คณะหรือภาควิชา หรือ หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือภาควิชา ให้เป็นไปตาม ข้อบังคับของสถาบัน

มาตรา 7 ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดสรรเงินงบประมาณให้แก่ กรมศิลปากรตามที่เห็นสมควรเพื่อดำเนินกิจการของสถาบัน นอกจากเงินงบประมาณตามวรรคหนึ่ง สถาบันหรือกรมศิลปากร อาจมีรายได้และทรัพย์สิน ดังนี้

(1) เงินผลประโยชน์และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่สถาบันได้รับจาก การดำเนินกิจการของสถาบัน
(2) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการใช้ที่ราชพัสดุที่กรมศิลปากร ปกครอง ดูแล หรือใช้ประโยชน์เพื่อการดำเนินกิจการของสถาบัน
(3) เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่สถาบันหรือกรมศิลปากร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของสถาบัน
(4) เงินอุดหนุนจากราชการส่วนท้องถิ่น หรือเงินอุดหนุนอื่นที่สถาบัน หรือกรมศิลปากรได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของสถาบัน
(5) รายได้หรือผลประโยชน์อื่น ให้กรมศิลปากรมีอำนาจในการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้ และ จัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของกรมศิลปากรที่มีไว้เพื่อการดำเนินกิจการของ สถาบัน ทั้งที่เป็นที่ราชพัสดุตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ และที่เป็นทรัพย์สินอื่น ของสถาบัน รายได้รวมทั้งเบี้ยปรับที่กรมศิลปากรได้รับจากการดำเนินกิจการ ตามวัตถุประสงค์ของสถาบัน ไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตาม กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เว้นแต่เบี้ยปรับ ที่เกิดจากการผิดสัญญาลาศึกษาและเบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาซื้อทรัพย์สินหรือ สัญญาจ้างทำของที่ดำเนินการโดยใช้เงินงบประมาณ

มาตรา 8 บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่กรมศิลปากรได้มาโดยมีผู้ยกให้ แก่กรมศิลปากรเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของสถาบัน หรือได้มาโดยการ ซื้อหรือแลกเปลี่ยนจากเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่กรมศิลปากรเพื่อประโยชน์ ในการดำเนินกิจการของสถาบันตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ไม่ถือเป็น ที่ราชพัสดุ และให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกรมศิลปากร

มาตรา 9 บรรดารายได้และทรัพย์สินที่สถาบันหรือกรมศิลปากร ได้มาเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของสถาบัน หรือได้มาเนื่องจากการ ดำเนินกิจการของสถาบัน สถาบันหรือกรมศิลปากรจะต้องจัดสรรเพื่อประโยชน์ ในการดำเนินกิจการของสถาบัน การจัดสรรรายได้และทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง ให้อยู่ภายในขอบแห่ง วัตถุประสงค์ของสถาบันและเงื่อนไขที่ผู้อุทิศให้กำหนดไว้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตาม ข้อบังคับของสถาบัน

มาตรา 10 การจัดการรายได้และทรัพย์สินที่สถาบันได้รับจัดสรร ตามมาตรา 9 ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบันและตามเงื่อนไขที่ผู้อุทิศให้ กำหนดไว้

 | หน้าถัดไป »

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย