ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. 2533
หน้า 2
หมวด 2
การดำเนินการ
________
(1) นายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง
(2) กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง ได้แก่ อธิการบดี
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสภาหอการค้า แห่งประเทศไทย
(3) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนสองคน ซึ่งสภาวิชาการเลือก จากกรรมการสภาวิชาการ
(4) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนห้าคน ซึ่งเลือกตั้งจากคณาจารย์ ประจำ
(5) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่น้อยกว่าเก้าคน แต่ไม่เกินสิบสองคน
ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งจากบุคคลภายนอก
และในจำนวนนี้จะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนสี่คน คุณสมบัติ
หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัย ตาม (3)
และการเลือกตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยตาม (4) ให้เป็นไป ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ให้สภามหาวิทยาลัยเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่ง
เป็นอุปนายกสภามหาวิทยาลัย และให้อุปนายกสภามหาวิทยาลัยทำหน้าที่แทน
นายกสภามหาวิทยาลัยเมื่อนายกสภามหาวิทยาลัยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือ
เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย
ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีคนหนึ่งเป็นเลขานุการสภา มหาวิทยาลัย
โดยคำแนะนำของอธิการบดี
มาตรา 15 นายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ตามมาตรา 14 (3) (4) และ (5) มีวาระดำรงตำแหน่งสองปี แต่จะทรง พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งหรืออาจได้รับเลือกหรือได้รับเลือกตั้งใหม่ อีกได้ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามวรรคหนึ่ง นายกสภา มหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามมาตรา 14 (3) (4) และ (5) พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ถอดถอน
(4) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยในประเภทนั้น
ในกรณีที่นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยตาม มาตรา 14 (3) (4) และ
(5) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และได้ทรง พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง
หรือได้มีการเลือกหรือเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง แทนแล้ว
ให้ผู้ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง หรือได้รับเลือกหรือ
ได้รับเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ในกรณีที่นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยพ้นจาก ตำแหน่งตามวาระ
แต่ยังมิได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งนายกสภา
มหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือยังมิได้เลือก
หรือเลือกตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยอื่นขึ้นใหม่ ให้นายกสภามหาวิทยาลัย
หรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยซึ่งพ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า
จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการ
สภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือได้มีการเลือก หรือเลือกตั้งกรรมการสภา
มหาวิทยาลัยอื่นขึ้นใหม่แล้ว
มาตรา 16 สภามหาวิทยาลัยมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการ ทั่วไปของมหาวิทยาลัย และโดยเฉพาะมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
(1) วางนโยบายของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการศึกษา การวิจัย การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม การปรับแปลง การถ่ายทอดและพัฒนา เทคโนโลยี และการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
(2) วางระเบียบ ออกประกาศ ข้อกำหนด และข้อบังคับของ มหาวิทยาลัย และอาจมอบหมายให้ส่วนงานใดในมหาวิทยาลัยเป็นผู้วาง ระเบียบและออกข้อบังคับสำหรับส่วนงานนั้นเป็นเรื่อง ๆ ไปก็ได้
(3) อนุมัติให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และ ประกาศนียบัตร
(4) อนุมัติการจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกสำนักวิชา สถาบัน ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ รวมทั้งการแบ่งส่วนงานของหน่วยงานดังกล่าว
(5) อนุมัติการรับเข้าสมทบหรือการยกเลิกการสมทบของสถาบัน การศึกษาชั้นสูงและสถาบันวิจัย
(6) อนุมัติการเปิดสอนและหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับ มาตรฐานที่ทบวงมหาวิทยาลัยกำหนด
(7) พิจารณาดำเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง และพิจารณาถอดถอนอธิการบดี ศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์พิเศษ
(8) แต่งตั้งและถอดถอนรองอธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยการศูนย์ และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ และศาสตราจารย์เกียรติคุณ
(9) ออกข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน สวัสดิการ และประโยชน์เกื้อกูลอื่น การบรรจุ แต่งตั้ง การให้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้าง การออกจากงาน ระเบียบวินัย การลงโทษ การร้องทุกข์ และการอุทธรณ์ การลงโทษของพนักงานและลูกจ้าง
(10) วางระเบียบและออกข้อบังคับต่าง ๆ เกี่ยวกับการเงินและ ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
(11) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายของมหาวิทยาลัย
(12) แต่งตั้งคณะกรรมการ อนุกรรมการ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อ กระทำการใด ๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย
(13) ปฏิบัติหน้าที่อื่นเกี่ยวกับกิจการของมหาวิทยาลัยที่มิได้ระบุให้เป็น หน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะ
มาตรา 17 ให้มีสภาวิชาการ ประกอบด้วย
(1) ประธานสภาวิชาการ ได้แก่ อธิการบดี
(2) กรรมการสภาวิชาการโดยตำแหน่ง ได้แก่ คณบดี ผู้อำนวยการ สถาบัน ผู้อำนวยการศูนย์ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ และศาสตราจารย์
(3) กรรมการสภาวิชาการที่คณาจารย์ประจำเลือกจากคณาจารย์ ประจำสำนักวิชา สำนักวิชาละสามคน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกกรรมการสภาวิชาการตาม (3) ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ให้สภาวิชาการแต่งตั้งรองอธิการบดีคนหนึ่งเป็นเลขานุการสภาวิชาการ โดยคำแนะนำของอธิการบดี
มาตรา 18 กรรมการสภาวิชาการตามมาตรา 17 (3) มีวาระการ ดำรงตำแหน่งสองปี แต่อาจได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งใหม่อีกได้ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการสภาวิชาการตาม มาตรา 17 (3) พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก (3) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการสภาวิชาการในประเภทนั้น ในกรณีที่กรรมการสภาวิชาการตามมาตรา 17 (3) พ้นจากตำแหน่ง ก่อนวาระและได้มีการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งแทนแล้ว ให้ผู้ที่ได้รับเลือกอยู่ใน ตำแหน่งเพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่กรรมการสภาวิชาการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ แต่ยังมิได้ เลือกกรรมการสภาวิชาการขึ้นใหม่ ให้กรรมการสภาวิชาการซึ่งพ้นจากตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการเลือกกรรมการสภาวิชาการอื่นขึ้นใหม่แล้ว
มาตรา 19 สภาวิชาการมีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้
(1) พิจารณากำหนดหลักสูตร การสอน และการวัดผลการศึกษา
(2) เสนอการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และ ประกาศนียบัตร
(3) เสนอการจัดตั้ง ยุบ รวม และเลิกสำนักวิชา สถาบัน ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ รวมทั้งการเสนอแบ่งส่วนงานในหน่วยงานดังกล่าว
(4) พิจารณาการรับสถาบันวิชาการชั้นสูงหรือสถาบันวิจัยอื่นเข้าสมทบ ในมหาวิทยาลัย
(5) พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งและถอดถอน ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์
(6) พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศาสตราจารย์พิเศษ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ และ อาจารย์พิเศษ
(7) พิจารณาให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งหัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้า สถานวิจัย และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชา หรือสถานวิจัย
(8) จัดหาวิธีการอันจะทำให้การศึกษา การวิจัย การบริการทาง วิชาการแก่สังคม การปรับแปลง การถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี และ การทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเจริญยิ่งขึ้น
(9) พิจารณาให้ความเห็นแก่สภามหาวิทยาลัยในเรื่องเกี่ยวกับวิชาการ ของมหาวิทยาลัย (10) ให้คำปรึกษาแก่อธิการบดีและปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่สภามหาวิทยาลัย หรืออธิการบดีมอบหมาย (11) แต่งตั้งคณะกรรมการ อนุกรรมการ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อ กระทำการใด ๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภาวิชาการ
มาตรา 20 การประชุมของสภามหาวิทยาลัยและการประชุมของ สภาวิชาการ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 21 ให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดและรับผิดชอบการ บริหารงานของมหาวิทยาลัย และอาจมีรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดี หรือ จะมีทั้งรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี ตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด ก็ได้ เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่อธิการบดีมอบหมาย
มาตรา 22 อธิการบดีนั้นจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง จากบุคคลผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 23
อธิการบดีมีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี และจะทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งใหม่อีกได้ รองอธิการบดี ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งโดยคำแนะนำของอธิการบดี จากบุคคลผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 23 ผู้ช่วยอธิการบดี ให้อธิการบดีเป็นผู้แต่งตั้งจากบุคคลผู้มีคุณสมบัติตาม มาตรา 27 เมื่ออธิการบดีพ้นจากตำแหน่ง ให้รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี พ้นจากตำแหน่งด้วย
มาตรา 23 อธิการบดีและรองอธิการบดีต้องมีคุณสมบัติได้รับ ปริญญาชั้นใดชั้นหนึ่งหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น ที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหาร มาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัย รับรอง
มาตรา 24 อธิการบดีมีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้
(1) บริหารกิจการของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อกำหนด ข้อบังคับ รวมทั้งนโยบายและวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
(2) ควบคุมบุคลากร การเงิน พัสดุ สถานที่ และทรัพย์สินอื่นของ มหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อกำหนด และข้อบังคับ ของมหาวิทยาลัย
(3) บรรจุ แต่งตั้ง ถอดถอนพนักงานและลูกจ้าง รวมทั้งดำเนินการ บริหารงานบุคคลตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
(4) จัดทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัยและดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบาย และแผนงาน รวมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของ มหาวิทยาลัย
(5) จัดหาทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจ ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศทางวิชาการ
(6) เป็นผู้แทนของมหาวิทยาลัยในกิจการทั่วไป
(7) เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับกิจการด้านต่าง ๆ ของ มหาวิทยาลัยต่อสภามหาวิทยาลัย
(8) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามระเบียบและข้อบังคับของมหาวิทยาลัย หรือ ตามที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมาย
มาตรา 25 ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองอธิการบดีเป็นผู้รักษาการแทน ถ้ามีรองอธิการบดีหลายคน ให้รองอธิการบดี ที่อธิการบดีมอบหมายเป็นผู้รักษาการแทน ถ้าอธิการบดีมิได้มอบหมายให้รอง อธิการบดีที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้รักษาการแทน ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือไม่มีผู้รักษาการแทน อธิการบดีตามความในวรรคหนึ่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้สภา มหาวิทยาลัยแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 23 เป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดี
มาตรา 26 ในสำนักวิชาหนึ่งให้มีคณบดีเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบ งานของสำนักวิชา และจะให้มีรองคณบดีคนหนึ่งหรือหลายคนก็ได้ เพื่อทำหน้าที่ และรับผิดชอบตามที่คณบดีมอบหมาย คณบดีนั้น ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งจากบุคคลที่มีคุณสมบัติตาม มาตรา 27
รองคณบดีนั้น ให้อธิการบดีเป็นผู้แต่งตั้งโดยคำแนะนำของคณบดีจาก บุคคลที่มีคุณสมบัติตามมาตรา 27 คณบดีมีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ เมื่อคณบดีพ้นจากตำแหน่ง ให้รองคณบดีพ้นจากตำแหน่งด้วย
มาตรา 27 คณบดีและรองคณบดีจะต้องมีคุณสมบัติได้รับปริญญาชั้นใด ชั้นหนึ่งหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัย รับรอง และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า สามปีในมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง
มาตรา 28 ในสำนักวิชาหนึ่ง ให้มีคณะกรรมการประจำสำนักวิชา ประกอบด้วยคณบดีเป็นประธาน รองคณบดี หัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัย เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และมีกรรมการที่คณาจารย์ประจำในสำนักวิชาเลือก จากคณาจารย์ประจำในสำนักวิชา มีจำนวนไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ โดยตำแหน่ง กรรมการที่คณาจารย์ประจำในสำนักวิชาเลือกตามวรรคหนึ่งจะเป็น คณาจารย์ประจำในสาขาวิชาหรือสถานวิจัยเดียวกันเกินหนึ่งคนไม่ได้ ถ้าไม่มีการแบ่งสาขาวิชาหรือสถานวิจัย หรือมีแต่ไม่ถึงสี่สาขาหรือ สถานวิจัย ให้คณาจารย์ประจำในสำนักวิชาเลือกกรรมการประจำสำนักวิชา เพิ่มเติมให้ได้จำนวนทั้งหมดไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคน ให้คณะกรรมการประจำสำนักวิชาแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็น เลขานุการของคณะกรรมการประจำสำนักวิชา
กรรมการประจำสำนักวิชาที่คณาจารย์ประจำในสำนักวิชาเลือก ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งสองปี แต่อาจได้รับเลือกใหม่อีกได้ ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการประจำสำนักวิชาที่คณาจารย์ประจำใน สำนักวิชาเลือกว่างลงก่อนครบวาระ และได้มีการเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง แทนแล้ว ให้ผู้ที่ได้รับเลือกขึ้นแทนอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ ของผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่มีการเลือกกรรมการเพิ่มขึ้น ให้ผู้ได้รับเลือกอยู่ในตำแหน่ง เพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับเลือกไว้ก่อนแล้วนั้น จำนวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกกรรมการประจำ สำนักวิชา และการประชุมของคณะกรรมการประจำสำนักวิชา ให้เป็นไป ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 29 คณะกรรมการประจำสำนักวิชามีอำนาจและหน้าที่พิจารณา ดำเนินงานด้านบริหารและวิชาการของสำนักวิชา และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่สภา มหาวิทยาลัย สภาวิชาการ หรืออธิการบดีมอบหมาย
มาตรา 30 ในกรณีที่มีการแบ่งสาขาวิชา สถานวิจัย หรือหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัย ให้มีหัวหน้า สาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัยคนหนึ่ง เป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบ งานของหน่วยงานดังกล่าว และอาจมีรองหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าวคนหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่หัวหน้าหน่วยงานมอบหมาย
หัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัย และรองหัวหน้าหน่วยงาน ดังกล่าว ให้แต่งตั้งจากคณาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยซึ่งได้ทำการสอน มาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภา มหาวิทยาลัยรับรอง การแต่งตั้งหัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย หรือหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัย ให้อธิการบดี แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของสภาวิชาการ ส่วนรองหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าว ให้อธิการบดีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของหัวหน้าหน่วยงานนั้น ๆ หัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัย มีวาระการดำรงตำแหน่ง สี่ปีและอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ เมื่อหัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัยพ้นจากตำแหน่ง ให้รองหัวหน้า หน่วยงานดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งด้วย
มาตรา 31 ในสถาบัน ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มี ฐานะเทียบเท่าสำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ ให้มีผู้อำนวยการหรือหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์เป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของหน่วยงานดังกล่าว และอาจมีรอง ผู้อำนวยการหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ คนหนึ่งหรือหลายคนก็ได้ เพื่อทำหน้าที่และ รับผิดชอบตามที่ผู้อำนวยการหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าสำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์มอบหมาย การแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง และคุณสมบัติของผู้อำนวยการ หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ รวมทั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองของตำแหน่งดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง ให้นำบทบัญญัติมาตรา 26 มาตรา 27 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 32 การจัดให้มีคณะกรรมการประจำและการจัดระบบบริหาร งานภายในสถาบัน ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 33 หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งคณบดี ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยการศูนย์ หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักวิชา สถาบัน หรือศูนย์ หัวหน้าสาขาวิชา หัวหน้าสถานวิจัย หรือหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสาขาวิชาหรือสถานวิจัย ให้ เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย