ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
พระเจ้าสิบชาติ










พระมหานารทกัสสปะ ผู้ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี
หน้า1 หน้า2
" ขอถวายพระพร เมื่อพระองค์ทรงจุติจากภพนี้แล้ว จักเสด็จไปอยู่ในนรกนั้น
ใครเล่าจะไปทวงทรัพย์ 1,000 กับพระองค์ผู้อยู่ในนรกในปรโลก ถูกฝูงแร้ง กา
สุนัขรุมกัดกินตัวขาด กระจัดกระจายเลือดไหลโซม ฯลฯ "
พระเจ้าอังคติราช ทรงสดับเรื่องราวของนรกแล้ว ทรงสะดุ้งพระทัยประหนึ่งว่า
ขุมนรกเหล่านั้น รอคอยพระองค์อยู่ไม่ไกล จึงตรัสว่า พระองค์มืดบอดไปไม่รู้ทิศ
พอฟังภาษิตของท่านนารทะจึงสว่างไสว ขอพระฤาษีเป็นที่พึ่ง
ประหนึ่งน้ำสำหรับแก้กระหาย ในเวลาร้อน ประหนึ่งเกาะเป็นที่อาศัยในมหาสมุทร
และเป็นประทีปสำหรับส่องสว่าง ในที่มืด ขอจงช่วยบอกทางบริสุทธิ์
ที่จะพึงพ้นจากนรกด้วยเถิด
พระนารทฤาษีโพธิสัตว์ จึงทูลขอให้พระราชาทรงบำรุงสมณพราหมณ์ ทรงประพฤติ
ปฏิบัติในสิ่งที่เป็นธรรม เว้นอธรรมเสีย ให้ทรงบริจาคทาน รักษาศีล
มีพระเมตตากรุณาแก่ชนทั้งปวง แล้วตรัสว่า
" มหาบพิตรจงทรงสำคัญพระวรกาย ของพระองค์ว่าเป็นดังรถ อันมีใจเป็นสารถี
กระปรี้กระเปร่า มีอวิหิงสาเป็นเพลาเรียบร้อยดี มีการบริจาคเป็นหลังคา
สำรวมเท้าเป็นกงกำ สำรวมมือเป็นพระพอง สำรวมท้องเป็นน้ำมันหยด
สำรวมวาจาเป็นความสงบเงียบ กล่าวคำสัตย์เป็นองค์รถบริบรูณ์ ไม่กล่าวคำส่อเสียด
เป็นการเข้าหน้าไม้อันสนิท กล่าวคำอ่อนหวาน เป็นเครื่องรถอันเกลี้ยงเกลา
กล่าวพอประมาณเป็นเครื่องผูก มีศรัทธาและอโลภะเป็นเครื่องประดับ การถ่อมตัวเป็นทูบ
ความไม่กระด้างเป็นงอนรถ มีศีลเป็นเชือกขันชะเนาะ ไม่โกรธเป็นอาการไม่กระเทือน
กุศลธรรมเป็นเศวตฉัตร มีพาหุสัจจะเป็นสายพาน จิตมั่นคงเป็นที่มั่น
รู้จักกาลเป็นแก่น ความแกล้วกล้าเป็นไม้ค้ำ ความถ่อมตนเป็นเชือกขันแอก
ไม่เย่อหยิ่งเป็นแอกเบา จิตไม่หดหู่เป็นเครื่องลาด คบคนเจริญเป็นเครื่องกำจัดธุลี
มีสติของนักปราชญ์เป็นปฏัก มีความเพียรเป็นสายบังเหียน
มีใจที่ฝึกฝนดีแล้วเป็นเครื่องนำทาง ความปรารถนา และความโลภเป็นทางคด
ความสำรวมเป็นทางตรง ขอถวายพระพร ปัญญาเป็นเครื่องกระตุ้นเตือนม้า
ในรถคือพระวรกายของมหาบพิตร ที่กำลังแล่นไปในรูป เสียง กลิ่น รส
พระองค์นั่นแลเป็นสารถี ถ้าความประพฤติชอบ และความเพียรมั่นมีอยู่ด้วยยานนี้
รถนั้นจะให้สิ่งที่น่าใคร่ทุกอย่าง จะไม่นำไปเกิดในนรก "
พระนารทฤาษีแสดงธรรม ให้พระเจ้าอังคติราชทรงละมิจฉาทิฐิ ดำรงอยู่ในสัมมาทิฐิแล้ว
กล่าวถวายโอวาทอีกว่า ตั้งแต่นี้ไปพระองค์จงละปาปมิตร เข้าใกล้กัลยาณมิตร
ดำรงพระชนม์ อยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด แล้วพรรณนาคุณพระนางรุจาราชธิดา
ให้โอวาทแก่ประชาชนทั้งปวง แล้วเหาะไปพรหมโลก
พระเจ้าอังคติราชทรงอยู่ในโอวาทพระนารทโพธิสัตว์ ปฏิบัติบำเพ็ญทาน ศีล
เป็นต้นอย่างสม่ำเสมอ เมื่อสิ้นพระชนม์ได้เสด็จไปสู่เทวโลกนั่นแล
หน้า1 หน้า2