ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป »
จังหวัดนราธิวาส
ข้อมูล » ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา ศิลปะ-วัฒนธรรม-ประเพณี สถานที่สำคัญ-แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม-ที่พัก
ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา จังหวัดนราธิวาส
นราธิวาสเดิมชื่อ "มะนาลอ" เป็นหมู่บ้านขึ้นอยู่กับเมืองสายบุรี ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงโอนไปขึ้นกับเมืองระแงะ ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในการปกครอง 7 หัวเมือง ในการสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. 2325-2353) ได้มีการแบ่งเขตการปกครอง บริเวณชายแดนภาคใต้ออกเป็น 7 หัวเมืองคือ เมืองปัตตานี เมืองหนองจิก เมืองยะลา เมืองรามัน เมืองระแงะ เมืองสายบุรี และเมืองยะหริ่ง โดยมีเจ้าเมืองเป็นผู้ปกครองในปี พ.ศ. 2444 (ร.ศ.120) รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว(พ.ศ. 2411-2453) ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล และให้ 7 หัวเมืองอยู่ในความปกครองของเทศาภิบาล เมื่อปี พ.ศ. 2449 (ร.ศ. 125) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯให้ยุบหัวเมืองทั้ง 7 เหลือแค่เพียง 4 หัวเมือง และให้ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี คือ (1) เมืองปัตตานี ประกอบด้วย หนองจิก ยะหริ่ง และปัตตานี (2) เมืองยะลา ประกอบด้วย รามัน และเมืองยะลา (3) เมืองสายบุรี (4) เมืองระแงะ
สำหรับหัวเมืองประเทศราช 4 เมือง ได้แก่ กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี (เคดาห์) และเปอร์ลิส อังกฤษเข้ายึดครองในปี พ.ศ.2452 (ค.ศ. 1909) ต่อมา หมู่บ้านมะนาลอมีความเจริญเป็นชุมชนหนาแน่นมากกว่าเมืองระแงะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 (พ.ศ. 2453-2468) ได้เสด็จพระราชดำมาเยี่ยมราษฏรภาคใต้ เมื่อ พ.ศ. 2458 ทรงมีพระราชดำริให้ย้ายศาลาว่าการเมืองระแงะ มาตั้งอยู่บ้านมะนาลอ และได้ได้พระราชทานชื่อเมืองว่า "เมืองนราธิวาส" คำว่า "นราธิวาส" แปลว่า "ที่อยู่ของคนดี"
ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม นิยมใช้ภาษาท้องถิ่น ซึ่งเป็น"ภาษามลายูท้องถิ่น" อาชีพหลักคือการทำการเกษตร เช่นการทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้ต่างๆ การทำนาการประมง และการเลี้ยงสัตว์
จังหวัดนราธิวาส เดิมมีฐานะเป็นอำเภอคือ อำเภอบางนรา ขึ้นอยู่กับเมืองสายบุรี ต่อมาได้โอนไปขึ้นกับเมืองระแงะ ดังนั้นประวัติความเป็นมาของนราธิวาส จะต้องกล่าวถึงเรื่องราวของเมืองปัตตานี เมืองสายบุรี และเมืองระแงะ
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลมหาราช พระองค์ได้มีรับสั่งให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ยกทัพหลวงมาปักษ์ใต้ เพื่อปราบปรามข้าศึกที่ยกเข้ามารุกรานพระราชอาณาเขตทางใต้ เมื่อปราบปรามข้าศึกได้ราบคาบแล้วจึงได้เสด็จไปประทับ ณ เมืองสงขลา แล้วมีรับสั่งไปยังหัวเมืองมลายูทั้งหลาย ซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นกับกรุงศรีอยุธยามาแต่ก่อนให้มาอ่อนน้อมเหมือนเดิม
พระยาไทรบุรีและพระยาตรังกานู ยอมอ่อนน้อมแต่โดยดี แต่พระยาปัตตานีได้ตั้งแข็งเมืองไม่ยอมมาอ่อนน้อม พระองค์จึงรับสั่งให้ยกกองทัพลงไปตีเมืองปัตตานี เมื่อปี พ.ศ.2332 ตีได้เมืองปัตตานี
เมื่อได้เมืองปัตตานีแล้วได้โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาสงขลา (บุญฮุย) อัญเชิญตราตั้งให้พระยาจะนะ (ขวัญช้าย) เป็นพระยาปัตตานี และให้อยู่ในความกำกับดูแลของเมืองสงขลา
เมื่อพระยาปัตตานี (ขวัญช้าย) ถึงแก่กรรม ได้โปรดเกล้า ฯ ให้นายพ่ายน้องชายพระยาปัตตานี (ขวัญซ้าย) เป็นพระยาปัตตานี และแต่งตั้งให้นายยิ้มซ้าย บุตรพระยาปัตตานี (ขวัญซ้าย) เป็นหลวงสวัสดิภักดี ผู้ช่วยราชการเมืองปัตตานี และได้ย้ายที่ว่าการเมืองปัตตานีจากบ้านมะนา (อ่าวนาเกลือ) ไปตั้งที่บ้านยานู
|| อ่านต่อ >>>
จังหวัด » กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี