เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกเบญจมาศ
การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
ระยะการเก็บเกี่ยว และการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวที่เหหมาะสม จะทำให้รักษา
คุณภาพเบญจมาศได้ดี มีอายุการปักแจกันทนทาน
แต่ปัจจุบันเกษตรกรยังไม่ให้ความสำคัญกับการเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวเท่าที่ควร
ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับเบญจมาศจากต่างประเทศ
การเก็บเกี่ยว
การตัดดอกเบญจมาศจะตัดดอกเมื่อกลีบดอกบานเต็มที่ หรือประมาณร้อยละ 75
และก่อนที่เกษรตัวผู้ หรือกลีบดอกชั้นในจะบาน ควรตัดให้ช่อดอกยาว 70 -75 เซนติเมตร
และทำให้เหลือตอไว้ 10 เซนติเมตร หากตัดต่ำกว่านี้ก้านจะแข็งเกินไป
และดูดน้ำได้น้อย
หลักและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
1. กระตุ้นให้เบญจมาศดูดน้ำมากที่สุด
- เมื่อตัดดอกแล้วควรแช่น้ำให้เร็วที่สุดในที่ร่ม (ใช้น้ำสะอาดเท่านั้น) เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
- หากปลายก้านแข็งและไม่ดูดน้ำอาจจุ่มโคนก้าน (4 -5 เซนติเมตร) ในน้ำร้อน ประ มาณ 10 นาที
- อาจปรับน้ำให้มีสภาพเป็นกรดด้วยกรดมะนาว (ซิติกแอซิด) ให้สภาพความ เป็น กรดเป็นด่าง เท่ากับ 3.5 (pH) เนื่องจากน้ำที่เป็นกรดจะช่วยให้ก้านดูดน้ำได้ดีขึ้น
- ผสมสารจับใบอัตรา 0.01%โดยปริมาตร จะช่วยดูดน้ำได้ดีขึ้น
2.คัดขนาด เข้ากำ และห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือสวมด้วยซองพลาสติก
ตามที่ต้องการ
3. ชลอการเจริญของดอกหลังตัด โดยการลดอุณหภูมิ (ลดการหายใจและการ คายน้ำ)
โดยปฏิบัติดังนี้
- แช่เบญจมาศในน้ำสะอาด หรือสารละลายที่เตรียมไว้ในห้องเย็น อุณหภูมิ 4 -8 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่งโมง ก่อนการขนส่ง
- ผสมสารฟอกสี (โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ชนิดซักผ้าขาว (6%) ในอัตรา 0.5 -1.5 มิลลิลิตร (ซีซี) ต่อน้ำ 10 ลิตร ผสมสารฆ่าเชื้อ ป้องกันการเจริญของแบคทีเรียไม่ให้อุดตัน ท่อน้ำ
- อาจผสมน้ำตาล อัตรา 15 กรัม ต่อลิตร เพื่อให้ดอกสีไม่ซีด (หากใส่น้ำตาลมาก กว่า 30 กรัม ต่อลิตร จะทำให้ใบเหลืองเร็ว)
4. บรรจุกล่อง และขนส่ง
»
ประเภทของพันธุ์เบญจมาศที่จำแนกตามรูปทรง
»
ขั้นตอนการขยายพันธุ์
»
การเตรียมดิน
»
การปลูก
»
การปลูกภายใต้โรงเรือน
»
การบังคับไม่ให้เบญจมาศสร้างดอก
»
การบังคับให้เบญจมาศสร้างดอก
» การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
»
โรคและแมลงที่สำคัญ