ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>
อังกะลุง
ต้นกำเนิดอังกะลุง
อังกะลุงมีต้นกำเนิดจากประเทศชวา ทำด้วยไม้ไผ่เป็นท่อน ๆ แขวนไว้เป็นตับ ตับละ 2
ท่อน ใช้ถือคนละ 1 ตับ บรรเลงโดยใช้เข่ากระแทกกระบอกไม้ไผ่ที่แขวนไว้ในราง
ให้ส่วนล่างของกระบอกกระแทกตัวราง
กระบอกไม้ไผ่จะเกิดเสียงดังตามที่เทียบกระบอกเสียงไว้ เป็นเสียงสูงหรือต่ำ
ซึ่งกระบอกไม้ไผ่จะมีขนาดใหญ่ กลาง เล็ก มีทั้งหมด 5 เสียง ผูกแขวนเป็นตับ ๆ
ดนตรีชนิดนี้เรียกว่า อุงคะลุง
อังกะลุงในประเทศไทย
อังกะลุง เข้ามาในประเทศไทยในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงแนะนำและอนุญาตให้สมเด็จเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้าพระยาภานุพันธ์ วงศ์วรเดช เสด็จประพาสยังประเทศชวา
พร้อมด้วยหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2450
เจ้าฟ้าพระยาภานุพันธ์ วงศ์วรเดช
หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
***ที่มาของภาพ: http://www.talkingmachine.org/homrongnews.html
สมเด็จเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าพระยาภานุพันธ์ วงศ์วรเดช จึงเสด็จจากกรุงเทพมหานคร
มุ่งไปยังเมืองได ของประเทศชวา (ประเทศอินโดนิเชีย) เป็นแห่งแรก
และทรงตั้งพระทัยว่า จะเสด็จไปยังตำบลมาโตเออ เมื่อเสด็จถึงตำบลมาโตเออ
พวกประชาชนประมาณ 10 หมู่บ้าน ต่างพากันต้อนรับพระองค์อย่างสมพระเกียรติ
โดยจัดดนตรีนำมาแสดงถวายให้ทอดพระเนตร ประชันกันถึง 7 วง พระองค์สนพระทัยวง
อุงคะลุงเป็นพิเศษ
เมื่อพระองค์เสด็จกลับประเทศไทย จึงมีรับสั่งให้กงศุลไทยในชวา
ซื้อดนตรีชนิดนี้ส่งมา 1 ชุด ภายในปี พ.ศ. 2451
แล้วทรงนำดนตรีชนิดนี้ฝึกสอนมหาดเล็กของพระองค์ในวังบูรพาก่อน
จึงเกิดมีดนตรีชนิดนี้ขึ้นในประเทศไทย ต่อมาได้แพร่หลายออกไปทั่วประเทศ
ซึ่งคนไทยเรียกว่า อังกะลุง
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
แห่งราชวงศ์จักรี ได้มีการพัฒนาอังกะลุงเพิ่มเป็น 3 กระบอก ลดขนาดให้เล็กและเบาลง
เพิ่มเสียงจนครบ 7 เสียง และได้พัฒนาการบรรเลงจากการไกวเป็นการเขย่าแทน
นับว่าเป็นต้นแบบของการบรรเลงอังกะลุงในปัจจุบัน
ต้นกำเนิดอังกะลุง
ส่วนประกอบของอังกะลุง
เครื่องดนตรีในวงอังกะลุง
ประเภทของวงอังกะลุง
การฝึกปฏิบัติอังกะลุง
แบบฝึกทักษะการเขย่าอังกะลุง
บรรณานุกรม