ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม>>

พื้นฐานพระคริสตธรรมคัมภีร์

4

พระสัญญาต่อโนอาห์

มนุษย์กลายเป็นคนชั่วร้ายมากขึ้นทุกวัน หลังยุคสมัยของอาดัมและเอวา ศีลธรรมเสื่อมโทรมลงจนถึงจุดที่พระเจ้าทรงตัดสินพระทัยที่จะกวาดล้างทุกสิ่งเสีย แต่โนอาห์และครอบครัวเป็นส่วนที่ถูกยกเว้น (ปฐมกาล 6:5-8) พระเจ้าสั่งให้
โนอาห์ต่อเรือเพื่อให้เขาและบรรดาสัตว์ต่างๆ อาศัยอยู่ในระหว่างที่น้ำท่วมโลก ตามเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในพระคัมภีร์ โลกไม่ได้ถูกทำลายล้าง มีเพียงคนที่ชั่วร้ายที่อาศัยบนโลก "บรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวก็ตายสิ้น" (ปฐมกาล 7:21) พระเยซู (มัทธิว 24:37) และเปโตร (2 เปโตร 3:6-12) ต่างได้เห็นการพิพากษาที่คล้ายคลึงกับการพิพากษาในยุคของโนอาห์ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมาอีกครั้ง ความชั่วร้ายของมนุษย์ในยุคของโนอาห์ก็เหมือนกับความชั่วร้ายของโลกปัจจุบันซึ่งจะถูกพิพากษาเมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมา

เพราะความชั่วร้ายที่เพิ่มมากขึ้น จึงมีความเชื่อ แม้ในหมู่คริสเตียนว่า โลกนี้จะถูกทำลาย ความคิดนี้แสดงให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจถึงข่าวที่พระคริสตธรรมคัมภีร์นำมานั่นคือ พระเจ้าทรงห่วงใยโลกนี้ และพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาเพื่อก่อตั้งแผ่นดินของพระเจ้าบนโลก ถ้ามนุษย์ได้รับอนุญาตให้ทำลายโลกนี้ คำสัญญาต่างๆ ก็ถูกยกเลิก หลักฐานที่ชี้ว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมาตั้งอยู่บนโลกนี้ปรากฏอยู่ในบทเรียนที่ 4:7 และ 5 ข้อความต่อไปนี้น่าจะเป็นบทพิสูจน์ได้ว่าโลกและระบบสุริยะจะไม่ถูกทำลาย

- แผ่นดินโลกซึ่งพระองค์ตั้งไว้เป็นนิตย์ (สดุดี 78:69)

- แผ่นดินโลกคงเดิมอยู่เป็นนิตย์ (ปัญญาจารย์ 1:4)

- ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ บรรดาดาว ฟ้าสวรรค์ พระองค์ทรงสถาปนามันไว้เป็นนิจกาล พระองค์ทรงกำหนดเขตซึ่งมันข้ามไปไม่ได้ (สดุดี 148:3-6)

- แผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่องของพระเจ้า ดั่งน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น (อิสยาห์ 11:9; กันดารวิถี 14:21) เป็นการยากที่พระเจ้าจะปล่อยให้โลกทำลายล้างตัวเอง แล้วพระสัญญานี้ก็จะไม่สำเร็จ

- พระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงเป็นแผ่นดินโลกและทำมันไว้ พระองค์มิได้ทรงสร้างมันไว้ให้ยุ่งเหยิง พระองค์ทรงปั้นมันไว้ให้มีคนอาศัย” (อิสยาห์ 45:18) ถ้าพระเจ้าทรงสร้างโลกไว้เพื่อดูมันถูกทำลาย การทรงสร้างของพระองค์ก็ไร้ประโยชน์

แต่ในพระธรรมปฐมกาล พระเจ้าได้ทำพันธสัญญาเหล่านี้กับโนอาห์ เมื่อโนอาห์เริ่มต้นใช้ชีวิตอีกครั้งในโลกใหม่หลังน้ำท่วม เขาอาจจะกลัวว่าจะมีการทำลายล้างอีกครั้ง ความกลัวนี้อาจจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ฝนตก พระเจ้าจึงทำพันธสัญญาว่า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

"นั่นแน่ะ เราเองเป็นผู้ตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้า (สังเกตดูคำว่า "เรา" การอัศจรรย์ของพระเจ้าในการเลือกทำพันธสัญญากับมนุษย์) ว่าจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยให้น้ำท่วมอีก และจะไม่ให้มีน้ำท่วมทำลายโลกอีกต่อไป" (ปฐมกาล 9:9-12)

พันธสัญญานี้ได้รับการยืนยันทางรุ้งกินน้ำ

"เมื่อเราให้มีเมฆเหนือแผ่นดิน และมีรุ้งขึ้นที่เมฆนั้น เราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้า พันธสัญญาถาวรระหว่างพระเจ้ากับบรรดาสัตว์โลกที่มีชีวิต ซึ่งอยู่บนแผ่นดินโลก นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญา" (ปฐมกาล 9:13-17)

เพราะพันธสัญญานี้ที่พระเจ้าทรงกระทำกับมนุษย์และสัตว์บนโลก โลกจึงต้องมีมนุษย์และสัตว์อาศัยอยู่ตลอดไป นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะอยู่บนโลกมากกว่าอยู่บนสวรรค์

พันธสัญญาที่พระเจ้ากระทำกับโนอาห์ เป็นรากฐานของข่าวประเสริฐของแผ่นดินสวรรค์และชี้ให้เห็นว่าพระเจ้ามุ่งความสนใจมาที่โลก และมีพระประสงค์นิรันดร์ต่อโลกอย่างไร แม้เมื่อทรงกริ้ว พระองค์ทรงระลึกถึงความกรุณา (ฮาบากุก 3:2) และความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่พระองค์ทรงห่วงใยแม้บรรดาสัตว์ที่พระองค์ทรงสร้าง (1 โครินธ์ 9:9; โยนาห์ 4:11)

<<ย้อนกลับ || หน้าถัดไป>>

1 พระเจ้า
2 พระวิญญาณของพระเจ้า
3 พระสัญญาของพระเจ้า
4 พระเจ้ากับความตาย
5 แผ่นดินของพระเจ้า
6 พระเจ้าและความชั่วร้าย
7 การบังเกิดพระเยซู
8 ธรรมชาติของพระเยซู
9 การรับบัพติศมา
10 ชีวิตในพระคริสต์

  


คำเผยพระวจนะส่วนตัว

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย