ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2541
เป็นปีที่ 53 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบัน การเงิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 218 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกำหนดขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกำหนดนี้เรียกว่า พระราชกำหนดให้อำนาจ กระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541
มาตรา 3 ให้กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำนาจ กู้เงินจากแหล่งเงินกู้ในประเทศในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อชดใช้ ความเสียหายและปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงินมูลค่าของการกู้เงินตามวรรคหนึ่งรวมกันต้องไม่เกินห้าแสนล้านบาท
มาตรา 4 ในการกู้เงินตามพระราชกำหนดนี้ นอกจากจะกู้ โดยทำเป็นสัญญากู้แล้ว ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกู้โดยการออกพันธบัตร หรือตราสารอื่นเป็นคราว ๆ ก็ได้ เงินที่ได้จากการกู้ตามวรรคหนึ่ง ให้นำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ ในการกู้ได้โดยไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง
มาตรา 5 อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย การจัดการและวิธีการที่เกี่ยวกับการกู้เงินแต่ละคราว และระยะเวลาชำระ ต้นเงินคืน ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
มาตรา 6 การกู้เงินแต่ละคราวต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันทำสัญญากู้หรือวันออกพันธบัตรหรือตราสารอื่น โดยระบุ จำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ระยะ เวลาชำระต้นเงินคืน และวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกู้
มาตรา 7 ในกรณีที่กระทรวงการคลังเห็นสมควรปรับโครงสร้าง หนี้เงินกู้ของกระทรวงการคลังตามมาตรา 3 หรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ หรือลดภาระหนี้เดิม ให้กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำนาจกู้เงิน จากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพื่อการดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ให้นำความในมาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 มาใช้บังคับโดยอนุโลม จำนวนเงินที่กู้ตามวรรคหนึ่งมิให้นำไปรวมเพื่อคำนวณวงเงินตาม มาตรา 3
มาตรา 8 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในกระทรวงการคลัง เรียกว่า กองทุนเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อ การฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ ตามพระราชกำหนดนี้ กองทุนตามวรรคหนึ่งประกอบด้วย
(1) เงินกำไรสุทธิที่ธนาคารแห่งประเทศไทยนำส่งเป็นรายได้ตาม
กฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทยในแต่ละปีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบ
(2) เงินรายได้จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในจำนวนตามหลักเกณฑ์
และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
(3) ดอกผลของกองทุน ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจหักเงินตามวรรคสอง (1) และ (2)
เพื่อนำส่งกองทุนก่อนส่งเป็นรายได้แผ่นดินและมีอำนาจจ่ายเงินกองทุนเพื่อ
ชำระคืนต้นเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้
การบริหารกองทุนให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การคลังกำหนดโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
มาตรา 9 ให้ตั้งเงินรายจ่ายเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยเงินกู้ตามพระราช กำหนดนี้ไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปี ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำส่งเงินเป็นรายได้ตามกฎหมายว่าด้วย วิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบของ เงินกำไรสุทธิที่ได้รับจากการประกอบการในแต่ละปี เพื่อชำระคืนดอกเบี้ยเงินกู้ ตามวรรคหนึ่ง การนำส่งเงินตามวรรคสอง ให้เริ่มนำส่งต่อเนื่องจากปีที่เสร็จสิ้นการ นำส่งตามมาตรา 8 วรรคสอง (1) เป็นต้นไป จนกว่าจะครบจำนวน ในการคำนวณจำนวนเงินที่จะต้องชำระคืนตามวรรคสอง มิให้คิดดอกเบี้ย จากยอดรายจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้ตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 10 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายมีอำนาจดำเนินการกู้เงินให้เป็นไปตาม พระราชกำหนดนี้
มาตรา 11 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตาม พระราชกำหนดนี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี