ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2530
หน้า 3
หมวด 3
ตำแหน่งทางวิชาการ
_________
มาตรา 43 คณาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมีตำแหน่งทางวิชาการ ดังนี้
(1) ศาสตราจารย์
(2) รองศาสตราจารย์
(3) ผู้ช่วยศาสตราจารย์
(4) อาจารย์ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้งและถอดถอนคณาจารย์
ประจำตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ พลเรือนในมหาวิทยาลัย
มาตรา 44 อธิการบดีอาจแต่งตั้งผู้ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมและ มิได้เป็นคณาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยเป็นรองศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ และอาจารย์พิเศษได้ตามคำแนะนำของคณบดี ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งรองศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษและอาจารย์พิเศษตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไป ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 45 ศาสตราจารย์พิเศษนั้น จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งโดยคำแนะนำของสภามหาวิทยาลัย คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ ให้เป็นไป ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 46 ศาสตราจารย์ ซึ่งมีความรู้ความสามารถและความ ชำนาญเป็นพิเศษและพ้นจากตำแหน่งไปโดยไม่มีความผิด สภามหาวิทยาลัย อาจแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณในวิชาที่ศาสตราจารย์นั้นมีความ เชี่ยวชาญเพื่อเป็นเกียรติยศได้ คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
หมวด 4
ปริญญาและเครื่องหมายวิทยฐานะ
_________
เอก เรียกว่า ดุษฎีบัณฑิต ใช้อักษรย่อ ด.
โท เรียกว่า มหาบัณฑิต ใช้อักษรย่อ ม.
ตรี เรียกว่า บัณฑิต ใช่อักษรย่อ บ.
มาตรา 48 มหาวิทยาลัยมีอำนาจให้ปริญญาในสาขาวิชาที่มี การสอนในมหาวิทยาลัย การกำหนดให้สาขาวิชาใดมีปริญญาชั้นใด และจะใช้อักษรย่อ สำหรับสาขาวิชานั้นอย่างไร ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
มาตรา 49 สภามหาวิทยาลัยอาจออกข้อบังคับให้ผู้สำเร็จการศึกษา ชั้นปริญญาตรีได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งหรือปริญญาตรีเกียรตินิยม อันดับสองก็ได้
มาตรา 50 สภามหาวิทยาลัยอาจออกข้อบังคับกำหนดให้มี ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และประกาศนียบัตรสำหรับสาขาวิชาใดได้ ดังนี้
(1) ประกาศนียบัตรบัณฑิต ออกให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาในสาขา วิชาหนึ่งสาขาวิชาใดภายหลังที่ได้รับปริญญาแล้ว
(2) อนุปริญญา ออกให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรในสาขา วิชาหนึ่งสาขาวิชาใดก่อนถึงขั้นได้รับปริญญาตรี
(3) ประกาศนียบัตร ออกให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาเฉพาะวิชา
มาตรา 51 มหาวิทยาลัยมีอำนาจให้ปริญญากิตติมศักดิ์แก่บุคคลซึ่ง สภามหาวิทยาลัยเห็นว่าทรงคุณวุฒิสมควรแก่ปริญญานั้น ๆ แต่จะให้ปริญญา ดังกล่าวแก่คณาจารย์ประจำ ผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยหรือ กรรมการสภามหาวิทยาลัยมิได้ ชั้น สาขาของปริญญา และวิธีการให้ปริญญากิตติมศักดิ์ ให้เป็นไป ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 52 มหาวิทยาลัยอาจกำหนดให้มีครุยวิทยฐานะหรือเข็ม วิทยฐานะ เป็นเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตร บัณฑิต อนุปริญญา และประกาศนียบัตรและอาจกำหนดให้มีครุยประจำตำแหน่ง กรรมการสภามหาวิทยาลัยหรือครุยประจำตำแหน่งคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย ก็ได้ การกำหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่ง จะใช้ใน โอกาสใดโดยมีเงื่อนไขอย่างใด ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา 53 สภามหาวิทยาลัยอาจออกข้อบังคับกำหนดให้มีเครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือเครื่องแต่งกายนักศึกษาได้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด 5
บทกำหนดโทษ
________
บทเฉพาะกาล
_______
ในระหว่างที่ยังไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการประชุมของสภามหาวิทยาลัย ตามมาตรา 17 ให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ.2511 ว่าด้วยเรื่องนี้ใช้บังคับไปพลางก่อน
มาตรา 56 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งดำรงตำแหน่งยังไม่ครบสองปีนับแต่วันที่ได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบสองปี ให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา คงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี จะพ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาซึ่งดำรงตำแหน่งยังไม่ครบสี่ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง คงดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบสี่ปี ให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองคณบดีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าผู้ดำรงตำแหน่งคณบดี จะพ้นจากตำแหน่งตามวรรคสาม ให้ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาซึ่งดำรงตำแหน่งยังไม่ครบสามปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง คงดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบสามปี
มาตรา 57 ให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการใน คณะกรรมการประจำคณะ และคณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัยอยู่ในวันที่ พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่า จะได้มีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งขึ้นใหม่ ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 58 การนับวาระการดำรงตำแหน่งของอธิการบดี คณบดี และหัวหน้าภาควิชา ให้นับวันที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามพระราช บัญญัตินี้เป็นวาระแรก
มาตรา 59 ให้ผู้ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ประจำ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศาสตราจารย์พิเศษ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และอาจารย์ ประจำของมหาวิทยาลัยอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีฐานะเป็นศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศาสตราจารย์พิเศษ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และอาจารย์ต่อไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นอาจารย์พิเศษต่อไป ตามพระราชบัญญัตินี้ จนครบกำหนดเวลาที่ได้รับการแต่งตั้ง
มาตรา 60 ให้ผู้ได้รับประกาศนียบัตรชั้นสูงตามพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2511 เป็นผู้ได้รับประกาศนียบัตรบัณฑิตตาม พระราชบัญญัตินี้ มาตรา 61 ในระหว่างที่ยังมิได้ตราพระราชกฤษฎีกา หรือออก ประกาศทบวงมหาวิทยาลัย ระเบียบ และข้อบังคับ เพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ ให้นำพระราชกฤษฎีกา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศทบวงมหาวิทยาลัย ระเบียบ และข้อบังคับที่ใช้อยู่ในวันที่พระราช บัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษามาใช้บังคับโดยอนุโลม
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ป. ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรี
________________
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2511 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลา นานแล้ว และในขณะนี้การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยได้เพิ่มขึ้นเป็นอันมาก โดยมีการขยายเขตการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกเป็นสองวิทยาเขตและ ขยายการผลิตบัณฑิตสาขาวิชาต่าง ๆ โดยมีการสอนถึงขั้นปริญญาโท การ ค้นคว้า การวิจัย และการบริการทางวิชาการแก่สังคม ตลอดจนกิจการ อื่น ๆ ตามความต้องการของการพัฒนาประเทศ สมควรที่จะได้มีการ ปรับปรุงโครงสร้างและระบบบริหารมหาวิทยาลัย เพื่อให้การบริหาร การศึกษามีความคล่องตัวและเหมาะสมกับสภาพการณ์ จึงจำเป็นต้องตรา พระราชบัญญัตินี้
________________
พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541
มาตรา 5 บทบัญญัติแห่งมาตรา 11 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ.2530 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช้บังคับแก่บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาโดยมีผู้อุทิศให้ หรือได้มาโดยการซื้อหรือแลกเปลี่ยนจากรายได้ของมหาวิทยาลัยก่อน วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็น การสมควรกำหนดให้มหาวิทยาลัยสามารถนำรายได้ของมหาวิทยาลัยไปใช้ ในกิจการของมหาวิทยาลัยได้ โดยไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และให้ มหาวิทยาลัยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมีผู้อุทิศให้หรือได้มา โดยการซื้อหรือแลกเปลี่ยนจากรายได้ของมหาวิทยาลัยโดยไม่ถือเป็นที่ ราชพัสดุ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารกิจการของมหาวิทยาลัยและการ จัดหาประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยหรือที่มหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล หรือใช้ประโยชน์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ *[รก.2541/6ก/6/17 กุมภาพันธ์ 2541]
« ย้อนกลับ |