ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ

พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ. 2539

หน้า 2

หมวด 2
การดำเนินงาน
 ______

มาตรา 13 ให้มีสภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วย

(1) นายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง
(2) กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง ได้แก่ อธิการบดี ประธานสภาคณาจารย์ และประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย
(3) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนเก้าคน ซึ่งเลือกตั้งจากบรรดา ผู้ดำรงตำแหน่งรองอธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการวิทยาลัย ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการศูนย์ และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มี ฐานะเทียบเท่าคณะ
(4) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนเก้าคน ซึ่งเลือกตั้งจาก คณาจารย์ประจำในมหาวิทยาลัยซึ่งได้ทำการสอนในมหาวิทยาลัยมาแล้วไม่น้อยกว่า ห้าปี และมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งตาม (3)
(5) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนเก้าคน ซึ่งจะได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งจากบุคคลภายนอก โดยคำแนะนำของนายก สภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัยตาม (2) (3) และ (4)

คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการ สภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิตาม (5) คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกตั้ง กรรมการสภามหาวิทยาลัยตาม (3) และ (4) ให้เป็นไปตามข้อบังคับของ มหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่ง เป็นอุปนายกสภามหาวิทยาลัย และให้อุปนายกสภามหาวิทยาลัยทำหน้าที่แทนนายก สภามหาวิทยาลัยเมื่อนายกสภามหาวิทยาลัยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้หรือเมื่อไม่มีผู้ดำรง ตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีคนหนึ่งเป็นเลขานุการสภา มหาวิทยาลัยโดยคำแนะนำของอธิการบดี

มาตรา 14 นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ตามมาตรา 13 (3) (4) และ (5) มีวาระการดำรงตำแหน่งสองปี แต่จะ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง หรืออาจได้รับเลือกตั้งใหม่อีกได้ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามวรรคหนึ่ง นายกสภา มหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามมาตรา 13 (3) (4) และ (5) พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ถอดถอน เพราะขาดคุณสมบัติ ของการเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรง คุณวุฒิ
(4) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยในประเภทนั้น

ในกรณีที่นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยตาม มาตรา 13 (3) (4) และ (5) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง หรือได้มีการเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทนแล้ว ให้ผู้ซึ่งได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง หรือได้รับเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่ากับ วาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัย พ้นจากตำแหน่งตามวาระ แต่ยังมิได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งนายก สภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือยังมิได้เลือกตั้ง กรรมการสภามหาวิทยาลัยอื่นขึ้นใหม่ ให้นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการ สภามหาวิทยาลัย ซึ่งพ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรง คุณวุฒิ หรือได้มีการเลือกตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยอื่นขึ้นใหม่แล้ว

มาตรา 15 สภามหาวิทยาลัยมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการ ทั่วไปของมหาวิทยาลัย และโดยเฉพาะให้มีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้

(1) วางนโยบายของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการศึกษา การวิจัย การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
(2) วางระเบียบและออกข้อบังคับของมหาวิทยาลัย และอาจมอบให้ ส่วนราชการใดในมหาวิทยาลัยเป็นผู้วางระเบียบและออกข้อบังคับสำหรับส่วน ราชการนั้นเป็นเรื่อง ๆ ไปก็ได้
(3) อนุมัติให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และ ประกาศนียบัตร
(4) พิจารณาการจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกบัณฑิตวิทยาลัย คณะ วิทยาลัย สถาบัน สำนัก ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าคณะ รวมทั้งการแบ่งส่วนราชการของหน่วยงานดังกล่าว (5) อนุมัติการรับสถาบันการศึกษาชั้นสูงและสถาบันวิจัยเข้าสมทบ หรือการยกเลิกการสมทบ
(6) พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับ มาตรฐานที่ทบวงมหาวิทยาลัยกำหนด
(7) พิจารณาเสนอเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง และ ถอดถอนนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ อธิการบดี ศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์พิเศษ
(8) แต่งตั้งและถอดถอนรองอธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการวิทยาลัย ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการศูนย์ หรือหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หัวหน้าภาควิชา และหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา รองศาสตราจารย์พิเศษ และผู้ช่วย ศาสตราจารย์พิเศษ
(9) แต่งตั้งและถอดถอนศาสตราจารย์เกียรติคุณ
(10) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย
(11) วางระเบียบและออกข้อบังคับต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารงาน การเงิน และการจัดหารายได้จากทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
(12) แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับ เรื่องหนึ่งเรื่องใด หรือเพื่อมอบหมายให้ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด อันอยู่ใน อำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย
(13) มอบหมายให้อธิการบดีปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดอันอยู่ ในอำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย
(14) พิจารณาและให้ความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการของ มหาวิทยาลัยตามที่อธิการบดีเสนอ
(15) พิจารณาให้ความเห็นชอบและอนุมัติในเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ กิจการของมหาวิทยาลัยที่มิได้ระบุให้เป็นหน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะ

มาตรา 16 การประชุมของสภามหาวิทยาลัยให้เป็นไปตาม ข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

มาตรา 17 ให้มีสภาคณาจารย์ ประกอบด้วยกรรมการซึ่งคณาจารย์ ประจำของมหาวิทยาลัยเลือกตั้งจากคณาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัย สภาคณาจารย์มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่อธิการบดี และ หน้าที่อื่นตามที่อธิการบดีมอบหมาย องค์ประกอบ จำนวนกรรมการ หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการประชุมและการดำเนิน งานของสภาคณาจารย์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

มาตรา 18 ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยคณะหนึ่ง ประกอบด้วยประธานกรรมการและกรรมการจำนวนหนึ่งซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้ง คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและ ข้อแนะนำแก่มหาวิทยาลัยและสนับสนุนการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย จำนวนและคุณสมบัติของกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย วาระ การดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการประชุมของคณะกรรมการ ส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

มาตรา 19 ให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการ บริหารงานของมหาวิทยาลัยและจะให้มีรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดี หรือ จะมีทั้งรองอธิการบดี และผู้ช่วยอธิการบดีตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่อธิการบดีมอบหมายก็ได้ เพื่อประโยชน์ในการบังคับบัญชาให้ถือว่าอธิการบดีเป็นอธิบดี รองอธิการบดีเป็นรองอธิบดี และผู้ช่วยอธิการบดีเป็นผู้ช่วยอธิบดี ตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายอื่น

มาตรา 20 อธิการบดีนั้นจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง จากผู้ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 21โดยคำแนะนำของสภามหาวิทยาลัย และให้มีวาระ การดำรงตำแหน่งสี่ปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะ ดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามวรรคหนึ่ง อธิการบดี พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง
(4) กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุก เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(5) ถูกให้ออกจากราชการเพราะเหตุมีมลทินหรือมัวหมองในกรณี ที่ถูกสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีจากข้าราชการใน มหาวิทยาลัย ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 21 โดยคำแนะนำของอธิการบดี ให้อธิการบดีแต่งตั้งผู้ช่วยอธิการบดีจากข้าราชการในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 26 และให้มีอำนาจถอดถอนผู้ช่วยอธิการบดีด้วย เมื่ออธิการบดีพ้นจากตำแหน่ง ให้รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี พ้นจากตำแหน่งด้วย

มาตรา 21 อธิการบดีและรองอธิการบดี ต้องมีคุณสมบัติได้ปริญญา ชั้นหนึ่งชั้นใดหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัย รับรอง และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี ในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง

มาตรา 22 อธิการบดีมีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้

(1) บริหารกิจการของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับของทางราชการและของมหาวิทยาลัย รวมทั้งนโยบายและ วัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
(2) ควบคุมดูแลบุคลากร การเงิน การพัสดุ สถานที่ และ ทรัพย์สินอื่นของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของ ทางราชการและของมหาวิทยาลัย
(3) จัดทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัย และปฏิบัติตามนโยบายและ แผนงานรวมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย
(4) รักษาระเบียบวินัย จรรยาบรรณ และมารยาทแห่งวิชาชีพของ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย และส่งเสริมกิจการนักศึกษา
(5) เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยในกิจการทั่วไป
(6) เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับกิจการด้านต่าง ๆ ของ มหาวิทยาลัยต่อสภามหาวิทยาลัย
(7) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามระเบียบและข้อบังคับของมหาวิทยาลัย หรือตามที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมาย

 มาตรา 23 ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีไม่อาจปฏิบัติ ราชการได้ให้รองอธิการบดีเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองอธิการบดีหลายคน ให้รองอธิการบดีซึ่งอธิการบดีมอบหมายเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าอธิการบดี มิได้มอบหมายให้รองอธิการบดีซึ่งมีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้รักษาราชการแทน

ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี หรือไม่มีผู้รักษาราชการ แทนอธิการบดีตามวรรคหนึ่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้สภามหาวิทยาลัย แต่งตั้งผู้ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 21 เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองอธิการบดี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติ ราชการได้ ให้อธิการบดีแต่งตั้งผู้ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 21 เป็นผู้รักษาราชการ แทนรองอธิการบดี

มาตรา 24 ให้บัณฑิตวิทยาลัย ให้มีคณบดีเป็นผู้บังคับบัญชา และ รับผิดชอบงานของบัณฑิตวิทยาลัย และจะให้มีรองคณบดีหรือผู้ช่วยคณบดีหรือจะมี ทั้งรองคณบดีและผู้ช่วยคณบดีคนหนึ่งหรือหลายคน เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่ คณบดีมอบหมายก็ได้ ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งคณบดีจากคณาจารย์ซึ่งเป็นข้าราชการ พลเรือนในมหาวิทยาลัยและมีคุณสมบัติตามมาตรา 26 ให้อธิการบดีแต่งตั้งรองคณบดีและผู้ช่วยคณบดีจากคณาจารย์ประจำ ในมหาวิทยาลัยซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 26 โดยคำแนะนำของคณบดี คณบดีมีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้ เมื่อคณบดีพ้นจากตำแหน่ง ให้รองคณบดีและผู้ช่วยคณบดีพ้นจากตำแหน่ง ด้วย

มาตรา 25 ในบัณฑิตวิทยาลัย ให้มีคณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย คณะหนึ่งมีอำนาจและหน้าที่บริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย การกำหนดองค์ประกอบ อำนาจและหน้าที่ รวมทั้งวาระการดำรง ตำแหน่งการพ้นจากตำแหน่ง และคุณสมบัติของกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย และ การจัดระบบบริหารงานในบัณฑิตวิทยาลัย ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

มาตรา 26 ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี รองคณบดี ผู้ช่วยคณบดี หัวหน้า ภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา และ รองหัวหน้าภาควิชาหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า ภาควิชา ต้องมีคุณสมบัติได้ปริญญาชั้นหนึ่งชั้นใดหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือ สถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่ สภามหาวิทยาลัยรับรอง

มาตรา 27 ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองคณบดีเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองคณบดีหลายคน ให้รองคณบดี ซึ่งคณบดีมอบหมายเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าคณบดีมิได้มอบหมาย ให้รอง คณบดีซึ่งมีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้รักษาราชการแทน

ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งคณบดี หรือไม่มีผู้รักษาราชการแทน คณบดีตามวรรคหนึ่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้อธิการบดีแต่งตั้งผู้ ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 26 เป็นผู้รักษาราชการแทนคณบดี

มาตรา 28 ในคณะหนึ่ง ให้มีคณบดีเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบ งานของคณะ และจะให้มีรองคณบดีหรือผู้ช่วยคณบดี หรือจะมีทั้งรองคณบดีและ ผู้ช่วยคณบดีคนหนึ่งหรือหลายคน เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่คณบดีมอบหมาย ก็ได้ การแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติ ของคณบดี รองคณบดี และผู้ช่วยคณบดีตามวรรคหนึ่ง และการรักษาราชการแทน ให้นำมาตรา 24 มาตรา 26 และมาตรา 27 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา 29 ในคณะหนึ่ง ให้มีคณะกรรมการประจำคณะ ประกอบด้วย

(1) คณบดีเป็นประธานกรรมการ
(2) รองคณบดี ถ้ามี เป็นกรรมการ
(3) หัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานเทียบเท่าภาควิชา ถ้ามี เป็นกรรมการ และ
(4) กรรมการซึ่งคณาจารย์ประจำในภาควิชาเลือกตั้งจาก คณาจารย์ประจำในภาควิชา ภาควิชาละหนึ่งคน

ถ้าไม่มีการแบ่งภาควิชา หรือมีแต่ไม่เกินสี่ภาควิชา ให้อธิการบดีแต่งตั้งคณาจารย์ประจำในคณะเป็น กรรมการเพิ่มเติมจำนวนไม่น้อยกว่าสี่คนแต่ไม่เกินเก้าคน เป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการประจำคณะแต่งตั้งข้าราชการในคณะคนหนึ่งเป็น เลขานุการของคณะกรรมการประจำคณะ กรรมการตาม (4) มีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี และอาจได้รับ เลือกตั้งหรือแต่งตั้งใหม่อีกได้ ถ้าตำแหน่งกรรมการตาม (4) ว่างลงก่อนครบวาระ และได้มี การเลือกตั้งหรือแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทน ให้ผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง นั้นอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่มีการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งกรรมการตาม (4) เพิ่มขึ้นใน ระหว่างที่กรรมการซึ่งได้รับการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้ เลือกตั้งหรือแต่งตั้งไว้แล้ว คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งกรรมการและ การประชุมของคณะกรรมการประจำคณะ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

คณะกรรมการประจำคณะอาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอก เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการประจำคณะได้ตามที่เห็นสมควร

มาตรา 30 คณะกรรมการประจำคณะมีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้

(1) วางนโยบายและแผนงานของคณะให้สอดคล้องกับนโยบาย ของสภามหาวิทยาลัย

(2) พิจารณาหลักสูตรและรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรสำหรับ คณะเพื่อเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย

(3) พิจารณาวางระเบียบ และออกข้อบังคับภายในคณะตามที่ สภามหาวิทยาลัยมอบหมาย หรือเพื่อเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย

(4) พิจารณาเสนอเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งทางวิชาการของ คณาจารย์ในคณะต่อมหาวิทยาลัย

(5) จัดการวัดผล ประเมินผล และควบคุมมาตรฐานการศึกษา ของคณะ

(6) ให้คำปรึกษาและเสนอความเห็นต่อคณบดี

(7) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ที่สภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดีมอบหมาย

มาตรา 31 ในกรณีที่มีการแบ่งภาควิชาหรือแบ่งหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาในคณะ ให้มีหัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงาน ของภาควิชาหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาและจะให้ มีรองหัวหน้าภาควิชาหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า ภาควิชาคนหนึ่งหรือหลายคนเพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่หัวหน้าภาควิชาหรือ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชามอบหมายก็ได้ ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งหัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่ เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาจากข้าราชการในมหาวิทยาลัยซึ่งมี คุณสมบัติตามมาตรา 26 โดยคำแนะนำของคณบดี ให้อธิการบดีแต่งตั้งรองหัวหน้าภาควิชาหรือรองหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาจากข้าราชการในมหาวิทยาลัย ซึ่งมี คุณสมบัติตามมาตรา 26 โดยคำแนะนำของหัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา แล้วแต่กรณี หัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าภาควิชามีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่ อีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้ เมื่อหัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มี ฐานะเทียบเท่าภาควิชาพ้นจากตำแหน่ง ให้รองหัวหน้าภาควิชาหรือรองหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา แล้วแต่กรณี พ้นจาก ตำแหน่งด้วย

มาตรา 32 ในวิทยาลัยหนึ่ง ให้มีผู้อำนวยการวิทยาลัยเป็น ผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของวิทยาลัย และจะให้มีรองผู้อำนวยการ วิทยาลัยคนหนึ่งหรือหลายคน เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่ผู้อำนวยการ วิทยาลัยมอบหมายก็ได้ การแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติของผู้อำนวยการวิทยาลัย และรองผู้อำนวยการวิทยาลัย และการ รักษาราชการแทนให้นำมาตรา 24 มาตรา 26 และมาตรา 27 มาใช้ บังคับโดยอนุโลม

มาตรา 33 ในมหาวิทยาลัยหนึ่ง ให้มีคณะกรรมการประจำ วิทยาลัยคณะหนึ่งมีอำนาจและหน้าที่บริหารงานของวิทยาลัย การกำหนดองค์ประกอบ อำนาจและหน้าที่ รวมทั้งวาระการ ดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งและคุณสมบัติของกรรมการประจำวิทยาลัย และการจัดระบบบริหารงานในบัณฑิตวิทยาลัย ให้เป็นไปตามข้อบังคับของ มหาวิทยาลัย

มาตรา 34 ในกรณีที่มีการแบ่งภาควิชาหรือหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาในวิทยาลัย ให้นำมาตรา 31 มาใช้บังคับ โดยอนุโลม

มาตรา 35 ในกรณีที่มหาวิทยาลัยมีสถาบัน สำนัก ศูนย์ หรือ หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ ให้มีผู้อำนวยการหรือหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ เป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบ งานของสถาบัน สำนัก ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ และจะให้มีรองผู้อำนวยการหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าคณะคนหนึ่งหรือหลายคน เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะแล้วแต่กรณี มอบหมายก็ได้ คุณสมบัติของผู้อำนวยการและหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ รวมทั้งรองผู้อำนวยการและรองหัวหน้าหน่วยงานที่ เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะให้นำมาตรา 26 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ส่วนการแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และการรักษา ราชการแทนให้นำมาตรา 24 และมาตรา 27 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา 36 ในสถาบัน สำนัก ศูนย์ และหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะแต่ละแห่ง ให้มีคณะกรรมการประจำสถาบัน สำนัก ศูนย์ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ แล้วแต่กรณี กมีอำนาจและหน้าที่บริหารงานของสถาบัน สำนัก ศูนย์ หรือหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะนั้น

การกำหนดองค์ประกอบ อำนาจและหน้าที่ รวมทั้งวาระการ ดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งและคุณสมบัติของกรรมการประจำสถาบัน สำนัก ศูนย์และหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะและการ จัดระบบบริหารงานในสถาบัน สำนัก ศูนย์ และหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่าคณะให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

มาตรา 37 ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี รองอธิการบดี ผู้ช่วย อธิการบดี คณบดี รองคณบดี ผู้ช่วยคณบดี ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ รองหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หัวหน้าภาควิชา รองหัวหน้าภาควิชา หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา หรือรองหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา จะดำรงตำแหน่ง ดังกล่าวเกินหนึ่งตำแหน่งในขณะเดียวกันมิได้ ผู้ดำรงตำแหน่งตามวรรคหนึ่งอยู่หนึ่งตำแหน่งแล้ว จะรักษาราชการ แทนตำแหน่งอื่นอีกหนึ่งตำแหน่งก็ได้ แต่ต้องไม่เกินหกเดือน

มาตรา 38 ให้มีการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกสภา มหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ อธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หัวหน้าภาควิชา และ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา ทั้งนี้ ตามวิธีการ ที่กำหนดโดยข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

มาตรา 39 เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการในบัณฑิตวิทยาลัย คณะ วิทยาลัย สถาบัน สำนัก ศูนย์ และหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าคณะ ภาควิชา หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา อธิการบดีจะมอบอำนาจโดยทำเป็นหนังสือให้ผู้ดำรงตำแหน่งคณบดี ผู้อำนวยการ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หัวหน้าภาควิชา หรือ หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาปฏิบัติราชการแทน อธิการบดีเฉพาะในราชการของหน่วยงานนั้นก็ได้ ให้ผู้ปฎิบัติราชการแทนตามวรรคหนึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตามที่อธิการบดี กำหนด

« ย้อนกลับ | หน้าถัดไป »

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย