ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ทอดกฐิน
มีคำนิยามว่า "พิธีถวายผ้าแก่พระสงฆ์ในการกฐิน" คำว่า กฐิน
มูลเหตุที่เกิดการทอดกฐินนี้ มีเรื่องว่า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระสงฆ์กรานกฐินได้แล้วคือ โปรดให้พระสงฆ์ผลัดเปลี่ยนผ้าครองได้ปีละครั้ง ในชั้นแรก พระสงฆ์ต้องหาผ้ามาทำจีวรกันเอง และห้ามไม่ให้ขอเขาด้วย ไม่ให้แสดงปริยายคือ ไม่ให้พูดเลียบเคียงว่า ต้องการด้วย ทรงอนุญาตให้หาได้ทางเดียวคือ บังสุกุลสัญญา พระภิกษุสงฆ์จึงต้องเที่ยวหาผ้าตามป่าช้าบ้าง ตามกองขยะบ้าง เมื่อได้มาแล้วในวันใดต้องทำจีวรให้เสร็จในวันนั้น ถ้าเสร็จไม่ทันก็เสียพิธี เป็นอันว่าปีนั้น ทำไม่ได้อีกต่อไป ผู้ที่เห็นความลำบากของพระสงฆ์ จึงหาโอกาสข่วย เมื่อถึงเทศกาลกฐิน จึงเอาผ้าไปทอดไว้ในป่าช้าบ้าง บนกองขยะบ้าง ต่อมาก็เอาไปเที่ยววางไว้ตามบริเวณวัดบ้าง เพื่อไม่ให้รู้ว่าเป็นของใคร ดังนั้น ในคำอปโลกนี้ คือ การบอกเล่าของพระภิกษุสงฆ์จึงมีว่า "ดาวเลื่อนลอยมาในนภาลัย ประเทศอากาศเวหา มาตกลงในท่ามกลางระหว่างสงฆ์ มิได้เจาะจงแก่พระภิกษุสงฆ์องค์ใด" การกรานกฐินจึงเป็นงานใหญ่มากของพระภิกษุสงฆ์ ถึงโปรดให้งดใช้สิกขาบทบางข้อ เฉพาะในกาลนั้น
ต่อมา เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์รับคหบดีจีวรคือ ผ้าจีวรที่มีผู้ศรัทธามาถวายได้แล้ว ผู้ทอดกฐินจึงแสดงตัวให้ปรากฎได้ ในคำอปโลกนี้ของพระภิกษุสงฆ์ จึงระบุตัวเจ้าของผู้ทอดขึ้น ดังที่ปรากฎอยู่ในทุกวันนี้ การทอดกฐินชั้นเดิม ก็มีแต่ผ้าผืนเดียว โดยปรกติเป็นผ้าขาวทั้งผืน มีขนาดพอที่จะทำเป็นจีวรผืนหนึ่งได้ เรียกผ้าผืนนั้นว่า ผ้ากฐิน หรือองค์กฐิน แต่ปัจจุบันเลือนมาเป็นหมายถึง ผ้าจีวรที่สำเร็จรูปแล้ว เฉพาะไตรจีวรที่ตั้งใจถวายองค์ครองว่า องค์กฐิน ต่อมามีเครื่องประกอบ เรียก บริวารกฐิน
เมื่อเตรียมเครื่องกฐินพร้อมแล้ว ถึงกำหนดเวลานำไปทอดถวาย ก่อนถวายมีกล่าวคำนมัสการพระรัตนตรัย สมาทานศีล แล้วเจ้าการกล่าวนำถวายมีความว่า "ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายซึ่งผ้ากฐิน พ้ร้อมทั้งบริวารนี้แด่พระสงฆ์ " แม้เป็นคำรบสอง... แม้เป็นคำรบสาม..."
เมื่อจบคำถวาย พระสงฆ์รับสาธุแล้ว เจ้าการยกองค์กฐินถวายองค์ครองต่อไป เมื่อเสร็จแล้วเจ้าการพร้อมผู้ร่วมการ ถวายบริขารกฐินแก่องค์ครอง และพระอันดับหมดแล้ว พระสงฆ์อนุโมทนา เจ้าการกรวดน้ำ ฟังพระจบแล้ว เป็นเสร็จพิธีการทอดกฐิน
>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>