สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
อาหารขยะ
อาหาร ถือเป็นหนึ่งใน "ปัจจัย " ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ ซึ่งตามหลักทั่วไปอาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายต้องคุณภาพดี มีสารอาหารครบถ้วน และเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ ที่สำคัญคือต้องสะอาดและปราศจาก "สารพิษ" เจือปน อันจะก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่สุขภาพ อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าการเลือกรับประทานอาหารในแต่ละ เมนู ของมนุษย์ จำเป็นต้องคัดสรรมากขึ้น เพราะปัจจุบันมี "อาหารอันตราย" ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจากข้อ มูลของ "Team Content" สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) พบว่า มี "เมนูโปรด" ของใครหลายคน ถูกจัดเป็น "อาหารอันตราย" ได้แก่
- แฮมเบอร์เกอร์ จัดเป็นอาหารประเภทที่ "มีความเสี่ยงสูง"
เพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ "เนื้อ" มาใช้ปรุงทำให้มี "
แบคทีเรีย " เกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้ " สารเคมีสีแดง "
มาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสีย ทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว นอกจากนี้
แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ "สารปรุงรส" ( MSG = Monosodium Glutamate )
ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ โดย "MSG"
เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น
และท้ายที่สุดก็ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้นด้วย
- ฮอทด็อก เป็นอีก "เมนูอันตราย" เพราะมีกระบวนการผลิตคล้าย
แฮมเบอร์เกอร์ และ "ฮอทด็อก" ทั้ง หมดยังใส่ "สารไนไตรท์"
เพื่อช่วยทำให้เนื้อยึดตัว และช่วยเติมไส้กรอกให้เต็ม โดย "สารไนไตรท์"
เป็นสารที่ทำให้เกิด "โรคมะเร็ง" ในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด
เนื้องอกในสมอง และมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ "ถุงหลอด" ที่ใช้บรรจุ
ฮอทด็อก ก็ทำจาก " คอลลาเจนสังเคราะห์" ที่เป็นสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง"ได้สูง
มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40% เมื่อนำ ไปปิ้งย่าง
มันจะทำให้มี " สารพิษร้ายแรง " ที่เรียกว่า "อะคริลิไมด์" (Acrylimides) ออกมา
ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็น สารก่อมะเร็งและ "ทำลายประสาท"
- เฟร้นช์ฟราย- มันฝรั่งทอด เป็นอาหารที่มี "ความเป็นพิษสูง"
โดยการทอด "เฟร้นช์ฟราย" ใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี "สารอะคริลิไมด์" ออกมา
นอกจากนี้ "น้ำมัน" ที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ "ออกซิไดซ "
ในมันฝรั่งยังมี "ดรรชนีกลีซิมิค" (Glycemic) อยู่สูงมาก.
นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก
- คุกกี้ ที่เด่นชัดมาก คือ สัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23
กรัมเลยทีเดียว ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำ ตาลปริมาณสูงเช่นนี้
จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น
- พิซซ่า "พิซซ่า" ประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ "ตัดแต่งพันธุกรรม" 5
ชนิด คือ 1." เนยแท้ "( cheese ) เพียง 10% เท่านั้น
ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย 2."แป้ง"
ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามิน และเกลือแร่ออกไปแล้ว
แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่
3."ซอสมะเขือเทศ" ทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง "ยาฆ่าแมลง"
ของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน 4."แป้งสาลี"
ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม 5." น้ำมันฝ้าย " ประกอบอยู่ โดย ฝ้าย
ไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร
มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ในฝ้ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆ
เอาไว้ได้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณะสุข
ต่างไม่ให้ความร่วมมือ
ซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามันปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่
มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่มันเป็น "น้ำมันไฮโดรจีเนต"
และมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ "ผิวหน้าแป้ง พิซซ่า" ที่อบปิ้งในอุณหภูมิสูง อาจมี "สารอะคริลิไมด์" เกิดขึ้นด้วย ขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า "เพ็พเปอโรนิ" หรือเพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก "ไนไตรท์" สารกันบูด และสารเคมีอื่นๆ รวมทั้ง ไขมันอิ่มตัว ที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงาน
- น้ำอัดลม สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน "น้ำอัดล " คือ "กรดกำมะถัน" (
Phosphoric acid ) ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน
กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ และ "น้ำโซดา"
ที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวของน้ำอัดลมจะเป็นตัวชะล้างแคลเซียม ออกจาก กระดูก
จนทำให้เกิด "โรคกระดูกพรุน" นอกจากนี้ใน น้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะมี
"น้ำตาลที่ไม่ให้พลังงาน" อยู่ 12 ช้อนชา ในน้ำอัดลม ที่ช่วยลดน้ำหนักตัว หรือ
Diet soda ที่ใช้ "น้ำตาลเทียมสังเคราะห์" ( Artificial sweetener )
เพิ่มความหวาน จะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น
เพราะน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก ขณะที่ "สี"
ที่ใช้เติมในน้ำอัดลม ยังเป็น "สารก่อมะเร็ง" ด้วย
- ชิ้นไก่ทอด-เนื้อนุ่มไร้กระดูก เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลัง งาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส "MSG" ทำให้ปวดศีรษะ และเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ "นัคเก็ตชิคเก้น" บางอันจะมี "สารอะลูมิเนียม" ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมอง และเป็นอันตรายต่อการเมตะโบลิสซึมของร่างกายด้วย